5 วิธีสอนลูกไม่ให้ขี้อิจฉา ทำยังไงดีให้ลูกเป็นเด็กดีไม่อิจฉาคนอื่น

5 วิธีสอนลูกไม่ให้ขี้อิจฉา ทำยังไงดีให้ลูกเป็นเด็กดีไม่อิจฉาคนอื่น

เด็กที่ยังเล็กอยู่มักจะมีนิสัยหลายอย่างที่ไม่ดี ในช่วงแรก อาจจะเป็นเพราะว่าเขายังไม่รู้ตัว ว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นเรื่องที่ไม่ดี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เด็กทำไปเพราะสัญชาตญาณ และ ความต้องการพื้นฐาน สิ่งที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรทำ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการแนวนี้ขึ้น ก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะแย่ไป ก็คือการสอนลูกให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร 5 วิธีสอนลูกไม่ให้ขี้อิจฉา

ความอิจฉา หรือ Jealousy เกิดขึ้นได้จากหลายอย่าง มันอาจจะเกิดจากความไม่มั่นใจในตัวเอง การอยากได้อยากมี Lea Waters ศาตราจารย์ด้านจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัย University of Melbourne ที่ประเทศ Australia กล่าวว่า ที่มาของความอิจฉาที่มากับเด็ก เพราะ เขารู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรบ้างอย่าง

สิ่งที่ ลูกอาจจะรู้สึกว่าขาดนั้นมีหลายอย่าง ในยุคสมัยปัจจุบัน ที่สื่อ แสดงภาพของคนที่มีอะไร ที่ดีกว่า มีโฆษณาเกี่ยวกับการกระตุ้นให้คคนมีอะไรมากกว่า ทำให้สิ่งที่เด็กต้องการเพิ่มขึ้นไปมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น อยากจะมีหน้าตาดีขึ้น หุ่นดีขึ้น มีเพื่อนเยอะขึ้น มีเงินมากขึ้น มี Follower ใน IG มากขึ้น อยากมีคนรัก คนสนใจ สิ่งเร้ารอบตัวในสมัยนี้มีเยอะ จนนับไม่ถ้วน แล้ว ลูกของเขาจะผ่านเหตุการณ์นั้น ไม่ได้อย่างไร

พูดสิ่งในใจออกมา What’s in Your Heart?

Claire Shipman ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับ ชีวิตของเด็กผู้ผญิง กล่าวว่าจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหา อะไรหลายๆอย่าง คือการพูดคุย  ถ้าเรารู้ว่าลูกต้องการอะไร สิ่งที่ลูกขาด อาจจะมาจากสิ่งที่เขาแสดงออกทางการกระทำก็เป็นได้ เมื่อลองสังเกตการกระทำ ดูแล้ว ลูกเข้าข่ายแสดงออกว่า มีความอะไร ในใจ

ให้ลองพูดคุยกับลูกดู ว่าที่มาของปัญหาต่างๆ คืออะไรเพื่อจะได้ ค้นหาทางที่จะแก้ปัญหานั้นไปด้วยกัน เวลาที่พ่อ แม่ พูดคุยกับลูก เราต้องมีความ เข้าอกเข้าใจ ทั้งสองฝ่าย เพราะสภาพสังคม ตอนที่คุณโตขึ้น กับ สังคม ตอนนี้ก็ตต่างกันมาก ลูกเองที่มีภูมิต้านทานน้อยกว่า อาจจะมีวิธีดูแลปัญหาต่างกับคุณก็เป็นได้

ควบคุมความประพฤติ ไม่ใช่ความรู้สึก Its About Behavior, Not Feelings

บางครั้งการอิจฉาของลูก ไม่ได้มีเหตุผลรองรับเสมอไป ให้คุณพูดคุยกับเขาด้วยเหตุผล ความเป็นมา มากกว่าจะไปเค้น หรือ เน้นเรื่องความรู้สึก คุณต้องใจเย็น และ จัดการทุกเรื่องด้วยความแฟร์

ชูพลังที่ลูกมี Power Up Your Superpower

เวลาที่คุณพูดคุยกับลูก สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรจะทราบก็คือ เด็กมีความ เครียดและความคิดมากอยู่ในตัว สิ่งที่คุณพูดออกมา เด็กที่เป็นคนรับสารนั้น  อาจจะไม่ได้ตีความอย่างที่คุณอยากให้เขา เข้าใจ เราเชื่อว่ายังมีพ่อแม่ อีกหลายคน ที่ชอบพูดว่า ที่ดุ ที่ด่า ก็เพราะว่ารัก แต่ในความจริงแล้ว จะมีเด็กสักกี่คนที่เข้าใจสิ่งที่คุณจะสื่อ

แทนที่จะตำหนิลูก คุณควรจะดึงเอาเรื่องดีๆของเขา มาช่วยเพิ่มพลัง ดีกว่า อะไรที่ไม่ดี ก็พูดคุยกันไปตามตรง ว่าควรที่จะปรับเปลี่ยน เมื่อใช้วิธีนี้  ลูกจะสามารถแบ่งแยกได้ว่า สิ่งไหนที่เขาควรทำ สิ่งไหนที่ไม่ดี ไม่ควรจะไปทำเพิ่มเติมอีก

ลูกไม่ได้อยู่คนเดียว You Are Not Alone

แม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบัน จะทำให้คนเข้าใกล้กันมากขึ้น แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันทำให้คนห่างไกลกันมากขึ้นในบางโอกาส คุณควรที่จะหาเวลา อยู่กับลูก พูดคุย แลกเปลี่ยน เพื่อความสนิมสนมกัน วิธีนี้ จะทำให้ลูก รู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว และ มีอะไรเท่ากับคนอื่น

หากผู้ปกครองปล่อยปะละเลย ไม่สนใจ ลูกเลย ความเหงา และ ความรู้สึกเดียวดายนี้ จะขยายไปเป็น ความรู้สึกไม่ดีอื่นๆ ที่อาจจะไม่ไช่แค่เรื่องอิจฉา อีกต่อไป อาจจะเป็นซึมเศร้า หรือ เครียดตามมาด้วย

เป็นตัวอย่างที่ดี Be A Good Example And They Will Follow

วิธีอีกอย่างที่ทำได้ดี และ ได้ผลก็คือ การเป็นตัวอย่างที่ดี ให้แก่ลูก คุณรู้หรือไม่ว่า ลูกมักจะ มอง สังเกตและ ทำตาม สิ่งที่พ่อแม่ของเขาทำ และ ทำตาม เพราะฉะนั้น การรู้จักควบคุมตัวเอง และ แสดงออกเป็นตัวอย่างที่ดี ก็จะช่วยลูกให้หายจากนิสัยขี้อิจฉาได้

Source : washingtonpost

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :

5 ประโยคที่ห้ามพูดกับลูกต่อหน้าคนอื่น พูดแล้วลูกแย่ นิสัยไม่ดีตอนโต

ลูกจะกลายเป็นเด็กนิสัยไม่ดี ถ้าพ่อแม่ทำแบบนี้ หยุดดีกว่า

การกลั่นแกล้งกัน ภัยร้ายที่อาจจะนำไปสู่ความตาย ไม่ใช่แค่เรื่องเด็กๆ