“ผาช่อ” กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในภาคเหนืออีกที่ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชม
ผาช่อ เป็นการก่อตัวของตะกอนแม่น้ำปิงที่ทับถมกันเป็นชั้นๆ ผ่านกาลเวลาและถูกกัดเซาะของลมฝนจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตา ซึ่งสังเกตได้จากก้อนกรวดหินกลมมนกระจัดกระจายอยู่ในเนื้อดินจำนวนมาก คล้ายกับที่แพะเมืองผีในจังหวัดแพร่ หรือละลุในจังหวัดสระแก้ว แต่ต่างกันตรงที่ “ผาช่อ” มีลวดลายที่สวยงามและมีขนาดใหญ่มีความสูงราว 30 เมตร ครอบคลุมพื้นที่อาณาบริเวณกว้าง
ด้วยลักษณะธรรมชาติที่สะดุดตาคล้ายกับแกรนแคนย่อน ทำให้ผาช่อ ได้รับสมญานามว่า แกรนด์แคนยอนเมืองไทย สำหรับการเดินทางไปเที่ยวชมผาช่อ เมื่อถึงลานจอดรถต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ 500 เมตรผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติมีทั้งเดินตาม ลำธารน้ำแห้ง และเดินขึ้นดอยไปยังผาช่อ การมาเที่ยวควรเตรียมน้ำดื่มไปให้พร้อม รวมถึง เสื้อผ้า รองเท้าที่เหมาะสม เพราะทางเดินเป็น ดินลูกรัง อากาศค่อนข้างร้อน ระยะเวลาที่เหมาะจะมาเที่ยวชม คือ ช่วงเช้าซึ่งท้องฟ้าที่อยู่ด้านหลังประติมากรรมจะเป็นสีฟ้าในช่วงนี้จะ ไม่ย้อนแสง และอีกช่วงคือบ่ายแก่ๆซึ่งจะได้ความรู้สึกของแสงสีทองมากระทบประติมากรรมดินแต่จะย้อนแสงเพราะพระอาทิตย์จะตก สามารถเที่ยวได้ตลอดปีและจะสวยที่สุดในช่วงฤดูหนาว
(ข้อมูลเดินทางจาก
www.paiduaykan.com)