บำรุง หรือ ทำร้าย? 3 อาหารบำรุงร่างกายสำหรับเด็ก ที่อาจทำร้ายลูกถึงชีวิต
เชื่อว่าครอบครัวชาวไทยทั้งหลาย โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีน น่าจะโตมาพร้อมกับการส่งต่อวัฒนธรรม ความเชื่อต่าง ๆ แบบรุ่นสู่รุ่น โดยที่เราเองก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จะปฎิเสธก็ไม่ได้ บางครั้งแค่เอ่ยถามก็ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ถึงต่อให้ถามไปก็จะได้รับแต่คำตอบเดิม ๆ คือ “มันดีต่อร่างกายก็แล้วกัน” บางเรื่องหากยอมทำตามไปก็อาจไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ถือซะว่าทำเพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ แต่ในกรณีจะให้ทำตามก็อาจจะเป็นอันตราย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ อาหารบำรุงร่างกายสำหรับเด็ก ยอดฮิต อย่าง โสม รังนก และผงไข่มุก ที่หากยอมตามใจผู้ใหญ่ อาจจะต้องเสียใจตลอดชีวิต
3 อาหารบำรุงร่างกายสำหรับเด็ก ที่อาจเป็นอันตราย
1. รังนก
รังนกเป็นหนึ่งในอาหารยอดฮิตของชาวจีน เพราะเชื่อว่าน้ำลายของนกนี้ เป็นยาบำรุงชั้นดี ที่จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังช่วยบำรุงร่างกายอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า รังนก เป็นหนึ่งในอาหารที่มักจะ “ก่อให้เกิดอาการแพ้” โดยจะมีอาการตั้งแต่ อาเจียน, ตาและปากบวม, เป็นลมพิษ, หายใจลำบาก ไปจนถึงหมดสติ
ซึ่งเจ้าเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างรังนกนี้ เคยขึ้นหิ้งสถิติ อาหารที่ทำให้เด็กแพ้มากที่สุด ในประเทศสิงคโปร์ เมื่อยุค 1980 และ 1990 เลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าในทุกวันนี้ความนิยมของรักนกจะลดลง เลยไม่ทำให้เด็กแพ้เยอะขนาดนั้นแล้ว แต่ก็ยังมีเด็กจำนวนมากที่ต้องมาพบแพทย์ด้วยอาการ “แพ้รังนก” อยู่ดี เพราะฉะนั้นการที่จะให้เด็กทารกกินรังนกนั้นคงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
หากจะให้กินจริง ๆ (หรือเลี่ยงไม่ดีเพราะมีญาติ ๆ บังคับให้กิน) ก็ควรรอให้ลูกมีอายุเกิน 1 ขวบขึ้นไปก่อน และให้กินในปริมาณน้อย ๆ แล้วรอดูอาการเพื่อจะได้มั่นใจว่าลูกเราจะไม่เป็นอันตรายนะคะ
2. โสม
แม้ว่าโสมจะช่วยรักษาไข้หวัดและอาการป่วยได้อย่างดี แต่ว่าโสมนั้นถือเป็น “สมุนไพรที่ไม่เหมาสำหรับเด็กหรือทารก” ยกเว้นจะอยู่ภายใต้การดูแลหรือคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
เนื่องจากว่า โสม อาจกลายเป็นพิษต่อเด็ก และอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว หากใช้ผิดวิธี หรือใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
3. ผงไข่มุก
ผงไข่มุก อาจไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นักในเมืองไทย แต่ก็ยังมีคนบางส่วนที่มีความเชื่อว่าการให้เด็กกินผงไข่มุกจะช่วยลดไข้ และทำให้ผิวของเด็กกระจ่างใสขึ้น ซึ่งนั่นอาจจะเป็นความจริง แต่นั่นเป็นเพราะ ในผงไข่มุกมี “ปรอท” ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสารที่อันตรายมาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อคนที่ทานเข้าไปเป็นเด็ก
แต่ผงไข่มุกก็ยังมีการใช้อยู่บ้างในบางกรณี เช่น เด็กมีอาการชัก หรือมีไข้สูงจัด แต่จะต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น “ห้ามใช้เองเด็กขาด”
ปรึกษาแพทย์เสมอก่อนใช้สมุนไพรในการรักษา
อย่าลืมว่ายาสมุนไพรตามความเชื่อแบบตะวันออกส่วนใหญ่ เป็นยาที่ยังไม่ได้รับการทดสอบความปลอดภัยและสรรพคุณที่แน่ชัด และในเมื่อเราไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่า มันปลอดภัยกับเด็กจริงหรือไม่ แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ยาสมุนไพร รวมไปถึงวิธีการรักษาอื่น ๆ
อย่าคิดไปเองว่าอะไรที่เป็นของ “ธรรมชาติ” คือสิ่งที่ “ปลอดภัย” เพราะนั่นไม่เป็นความจริงเสมอไป เราต้องใช้ความระมัดระวังเสมอ และถ้ามีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาหมอก่อนเสมอ จะได้มั่นใจว่าลูกเราปลอดภัย ไม่ต้องไปเสี่ยงกับความเชื่อผิด ๆ นะคะ
Credit : sg.theasianparent.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ให้ลูกกินอาหารเสริมตอนกี่เดือน มื้อแรกของลูกควรเริ่มอย่างไร ให้กินอะไรดี
พบกับ 9 เมนูอาหารเสริมสำหรับลูกวัย 6-9 เดือนพร้อมวิธีทำสุดง่ายจากคุณแม่ทางบ้าน!
วิตามินและอาหารเสริมสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!