20 ประโยคเด็ดไว้พูดกับลูก พูดยังไม่ให้ลูกงอน? พูดยังไงให้ลูกทำตาม?

20 ประโยคเด็ดไว้พูดกับลูก ลูกฟังแล้วจะเข้าใจผู้ปกครองว่าไม่ได้ดุหรือตะคอกใส่ การทำแบบนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวดีขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

20 ประโยคเด็ดไว้พูดกับลูก พูดยังไม่ให้ลูกงอน? พูดยังไงให้ลูกทำตาม?

สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในระหว่างการเลี้ยงดูลูกก็คือ การพูดคุย และมันไม่ง่ายเลยที่เราจะประสบความสำเร็จ เราเลยอยากแนะนำ 20 ประโยคเด็ดไว้พูดกับลูก ที่เมื่อลูกฟังแล้วจะเข้าใจผู้ปกครองว่าไม่ได้ดุหรือตะคอกใส่ การทำแบบนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวดีขึ้น และก็จะไม่กลายเป็นปมในใจลูกอีกด้วย

ประโยคใช้คุยกับลูก5

1. “เงียบเดี๋ยวนี้!” หรือ “เลิกตะโกนซะที”

ในสถานการณ์ที่คุณลูกอาจจะโหวกเหวกโวยวาย เราอาจจะใช้คำว่า “พูดเบาได้มั๊ยคะ/ครับ”แล้วให้ผู้ปกครองทำเสียงเหมือนกระซิบตามไปด้วย ก็อาจจะช่วยได้เช่นกัน แต่ในกรณีที่เด็กบางคนอาจจะพูดเยอะและใช้เสียงมากกว่าเด็กทั่วไป เราอาจจะหาพื้นที่ ที่ให้เขาพูดได้โดยไม่รบกวนผู้อื่นพร้อมกับสอนไปในตัว

2. “ระวังนะเดี๋ยวจะ…”

เด็กหลายคนอาจะไม่ชอบถูกให้เตือนเรื่องเดิมๆซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ผู้ปกครองอาจจะเปลี่ยนมาใช่คำว่า “จำได้รึเปล่าว่า…” ให้เขานึกถึงสิ่งที่เราเคยสอนไว้ เพื่อให้ลูกได้ฝึกคิดไปในตัว

3. “บอกสามรอบแล้ว ไปทำเดี๋ยวนี้!”

ประโยคใช้คุยกับลูก2

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในสถานการณ์แบบนี้เราอาจจะเปลี่ยนมาใช้คำว่า “อยากลองทำเองมั๊ย หรือจะให้ คุณพ่อ/คุณแม่ช่วย?” เด็กมักจะมีการตอบสนองที่ดีเวลาที่เราทำให้เขารู้สึกว่าเขาสามารถทำเองได้ ลองให้เขาได้มีโอกาสเลือกดู

4. “บอกแล้วใช่มั๊ย” หรือ “เห็นมั๊ยล่ะ”

คำพูดด้านบนดูจะเป็นการใส่อารมณ์ประชดประชันเข้าไปมาก ผู้ปกครองอาจจะลองใช้ว่า “ที่ทำคราวนี้ เราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง?” การดันเด็กให้ได้เรียนรู้และพัฒนาจากประสบการณ์ที่เขาได้รับ ย่อมดีกว่าการดุ หรือว่าเพื่อให้เด็กรู้สึกผิด

5. “ห้าม” หรือ “หยุด”

การใช้คำที่แผงไปด้วยพลังงานด้านลบ ถ้าเราที่เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จะรู้ว่าคำไหน เราอยากได้ยินจากผู้อื่น หรือไม่อยากได้ยิน สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือ ลองพูดด้วยคำที่สุภาพลง เช่น เติมคำว่า จ๊ะ ครับ ค่ะ ลงท้ายก็จะทำให้ประโยคโดยรวมน่าฟังมากขึ้น

6. “ถึงเวลาแล้ว!” หรือ “….เดี๋ยวนี้!”

ในเวลาที่ต้องรับจริงๆ ผู้ปกครองอาจจะเปลี่ยนมาใช้คำที่ให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการเลือกทางเดินของเขาเอง จะทำให้เด็กรู้สึกสนุก เราอาจจะให้เวลาเขาก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เด็กมีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้น

7. “เร็วเข้า” หรือ “จะสายแล้วนะ”

ลองให้คุณลูกเล่นเกมส์ เช่นบอกเขาว่า “มาแข่งกันเป็นเสือชีตาร์ ใครจะไปถึงเร็วกว่า” แต่อย่าลืมว่าบางครั้ง เราควรให้เขาได้ทำอะไรแบบช้าๆบ้าง เพื่อให้มีความสมดุล

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

8. “บอกแล้วใช้มั๊ยว่าไม่ซื้อให้!” หรือ “ไม่มีเงินจะซื้อให้!”

ประโยคใช้คุยกับลูก1

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผู้ปกครองไม่สามารถจะตามใจลูกได้ตลอดเวลา เราอาจจะใช้คำว่า “ลองเก็บไว้เป็นของขวัญวันเกิดดีมั๊ย?” เราจะได้ฝึกให้ลูกรู้จักความอดทน เพื่อให้เขารู้ว่าทุกอย่างอาจจะไม่เป็นไปตามที่เราต้องการเสมอไป

9. “เลิกบ่น!”

ในสถานการณ์แบบนี้เราอาจจะ ให้ลูกหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์ แล้วค่อยให้เขาพูดสิ่งที่เขาต้องการในตอนที่เขาสงบลง

10. “ทำตัวให้มันดีๆหน่อย”

บางทีเด็กอาจจะไม่เข้าใจว่าเราต้องการจะสื่อถึงอะไร หรือพฤติกรรมแบบไหนที่เรารู้สึกว่าไม่เหมาะสม ลองพูดคุยกับลูก และบอกเขาตรงๆว่า เราควรจะเคารพตัวเอง และเคารพผู้อื่นด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

11. “ไม่มีใครอยากเล่นด้วยหรอกถ้าทำตัวแบบนี้”

เรื่องการกลั่นแกล้งกันในวัยเด็กนั้นผู้ปกครองอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วเรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อนิสัยของลูกในอนาคต เราควรสอนและพูดคุยกับลูกเรื่องการแกล้งเพื่อนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เด็กบางคนอาจจะอยากเป็นผู้นำแต่ไม่รู้จะแสดงออกอย่างไร ผู้ปกครองควรสอนให้เขาเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี รู้จัการทำงานและเล่นร่วมกับเด็กคนอื่น

12. “เลิกทำแบบนี้”

ประโยคใช้คุยกับลูก3

แม่/พ่อ อยากให้ลูกลอง การที่เราห้ามเด็ก อาจจะไม่เป็นผลดีเท่าไหร่นัก การที่เราบอกให้เขาลองทำอีกอย่างแทนพร้อมกัยอธิบายผลกระทบ หรือ เหตุผลที่ว่าทำไมการกระทำแบบนั้นถึงไม่ดี ผู้ปกครองอาจจะเสนอวิธีทางที่ดีกว่าให้เด็กได้เรียนรู้

13. “ห้ามร้องไห้” หรือ “อย่าทำตัวเหมือนเด็ก”

การที่เราหยุด หรือ ห้ามเด็กไม่ให้รู้สึกมีความรู้สึกอะไรเลยคงจะเป็นเรื่องยาก เราควรสอนให้ลูกเผชิญกับความรู้สึกต่างๆที่เขาประสบพบเจอ เพื่อที่ในอนาคตเด็กจะได้พร้อมสำหรับการเผชิญหน้าต่ออารมณ์ต่างๆที่หลากหลาย เพราะฉะนั้นการห้ามไม่ให้เด็กแสดงออกทางความรู้สึกในบางครั้งก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรเท่าไหร่นัก

14. “ทำไมลูกถึงอ่อนไหวแบบนี้”

คล้ายคลึงกับประโยคก่อนหน้า การห้ามให้เด็ก มีความรู้สึกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เด็กที่สามารถเรียนรู้อารมณ์ต่างๆของตัวเองได้นั้นจะประสบความสำเร็จในการก้าวผ่านอารมณ์ต่างๆในชีวิตมากกว่า

15. “มาให้แม่/พ่อทำเอง”

บางครั้งผู้ปกครองต้องเลิกกดดันตัวเองมากเกินไป การที่เราเร่งรีบหรือเคร่งครัดจนเกินไป อาจจะทำให้ตัวผู้ปกครองเองอารมณ์หงุดหงิดซะเอง ให้เราหายใจเข้าออก ลองให้เวลาลูกทำกิจกรรมต่างๆด้วยตัวเขาเอง ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

16. “ไม่มีใครรักลูกหรอกถ้าทำตัวแบบนี้”

การที่เราพูดประโยคนี้ออกไปไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม จะทำให้เด็กรู้สึกไม่ดีได้ การที่เราให้ความรักเขา และสอนให้เขารู้ว่าอะไรควรไม่ควรจะเป็นการดีกว่าการต่อว่าลูก และทำเหมือนตัวลูกนั้นไม่มีคุณค่า

17. “ลูกยังเด็กเกินไป”

เด็กเป็นวัยที่เปี่ยมไปด้วยความขี้สงสัย อยากรู้ อยากลอง บวกกับตัวผู้ปกครองก็คงจะเป็นกังวลว่าสิ่งนั้นหรือสิ่งนี้เหมาะกับลูกหรือไม่ ผู้ปกครองควรอธิบายเหตุผลว่าทำไมเขายังไม่พร้อม เด็กจะพยายามเข้าใจในเหตุผลมากกว่าการห้ามแบบโดยตรง

18. “ฉันไม่แคร์!”

ประโยคใช้คุยกับลูก4

เราอาจใช้โอกาสนี้ให้ลูกได้นำเสนอความคิดและไอเดียของเขา เราให้โอกาสเขาได้เป็นผู้นำ แทนที่จะบอกว่าเราไม่สนใจอะไรก็ตามที่เขาพยายามจะบอกเรา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

19. “พ่อ/แม่ จัดการเอง”

เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่ในบางครั้งผู้ปกครองควรให้ลูกได้ทำกิจกรรมด้วยตัวเอง เราควรสนับสนุนให้เขาได้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆไปได้ โดยที่ผู้ปกครองต้องคอยย้ำอยู่เสมอว่าเราจะอยู่ข้างๆเขาคอยช่วยเหลือและสนับสนุน

20. “ไม่ต้องไปคิดมาหรอก” “เรื่องแค่นี้เอง”

ในบางครั้งที่เด็กต้องเผชิญกับอารมณ์ที่เขาไม่คุ้นเคย ผู้ปกครองควรช่วยเหลือและสอนลูกให้รู้จัก ทำความคุ้นเคยและเรียนรู้วามนุษย์มีหลากหลายอารมณ์ และบอกเขาถึงวิธีรับมือที่ถูกต้อง

ที่มา : mother


The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :

Tips เลี้ยงลูกให้สมองดีทำได้ไม่ยาก

เช็คสิ!!! พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบนี้ เหมาะสม VS ไม่เหมาะสม

วิธีแก้ปัญหาพี่อิจฉาน้อง เทคนิคการเลี้ยงลูก 2 คนขึ้นไป วิธีทำให้พี่น้องรักกัน การป้องกันพี่อิจฉาน้อง ทำได้อย่างไร

เลี้ยงลูกคาดหวังมากไป ระวังลูกป่วยเป็น “ฮิคิโคโมริ” (Hikikomori)

บทความโดย

Jitawat Jansuwan