ซึ้งกินใจ 19 ภาพ กำลังใจจากแม่ ถึงลูกสาวที่กำลังจะเป็นแม่คนในไม่กี่นาที
ความรักของแม่กับลูกเป็นสิ่งที่ผูกพันและยากที่จะตัดขาดจากกันได้ง่าย ๆ กำลังใจจากแม่ เราไม่สามารถรู้ค่าของความรักนี้ได้ดีจนกว่าจะได้มาเป็น “แม่” ด้วยตัวเอง เมื่อถึงวันนี้กำลังใจจากแม่ที่ส่งให้ลูกสาวที่กำลังจะเป็นแม่มือใหม่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ช่างเป็นภาพที่ประทับใจและสะท้อนให้เห็นถึงสายใยความรักอย่างสุดซึ้ง ดูภาพเหล่านี้แล้วจะทำให้คุณรู้สึกคิดถึงแม่และรักแม่ขึ้นมากอีกหลายเท่า…
กำลังใจจากแม่ที่สัมผัสให้กับลูกสาวที่กำลังเจ็บปวดพร้อมคลอดในอีกไม่ช้านี้
ผู้เป็นแม่กำลังใจโอบกอดลูกสาว ราวกับช่วยแบกรับความเจ็บปวดของเธอมาไว้ หวังให้เธอได้เจ็บปวดน้อยลง
แม่คือคนที่พร้อมอยู่เคียงข้างลูกสาวในช่วงเวลาที่เจ็บปวดและช่วงเวลาดีที่สุด
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คนเป็นแม่ภูมิใจในตัวลูกสาวที่ได้เป็นคุณแม่มือใหม่ในวันนี้
มันเป็นภาพที่ประทับใจมาก ที่แม่ของคุณได้เป็นคนที่ตัดสายสะดือให้กับลูกน้อยของคุณ
และอีกหลาย ๆ ภาพที่คุณจะรู้ว่ากำลังใจจากแม่ของคุณมีค่ามากที่สุดขนาดไหน
คอยอยู่เคียงข้างเสมอ
ภาพความผูกพันระหว่างคน 3 Generation
ความอบอุ่นที่แม่มีให้กับลูกสาว
ครั้งแรกของคุณแม่มือใหม่และครั้งแรกของการเป็นคุณย่า/คุณยาย ความรู้สึกช่างงดงามเกินบรรยายจริง ๆ
ช่วงเวลาที่ต้องการกำลังใจจากครอบครัวที่สุด
การพูดให้กำลังใจ
กำลังใจที่แม่มีให้นั้นร้นเปรียม ไม่ว่าจะทำอะไรทุกครั่งเรามักอยากได้กำลังใจจากใครซักคน ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อ หรือ คุณแม่ ปู่ย่า ตายาย ก็ตามแต่ เรา ๆ ก็อยากได้เพราะว่าเวลาไปสอบหรือไปไหนมักจะมีคำตามหลังมาเสมอว่า สู้ ๆ หรือไม่ก็ เป็นกำลังใจให้น่ะ มันทำให้เรารู้สึกดี ทุกครั่งนั้นเองคะ หรือหลายครั่งที่เราเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ มักจะมีความกลัวซ่อนอยู่ทำให้เป็นกังวล กับอาการที่เป็นอยู่ หมดแรงที่จะฟื้นฟู หรือ รักษาตัวต่อนั้นเอง แต่ในความหวังดีของผู้รักษา หรือบุคคลข้าง ๆ แต่รู้ไหมว่าคำพูดที่คุณพูดอยู่ อาจทำให้เขาแย่ลงก็เป็นได้นะคะ วันนี้เราเลยมีตัวอย่าง “คำพูดที่เราใช้กันบ่อย” มาให้ดูกันว่าคำไหนเหมาะที่จะนำไปใช้ และคำไหนอาจจะไม่เหมาะที่นำไปใช้ ไปดูกันเลย
1. “แค่นี้เองไม่เป็นอะไรหรอก” (บางครั้งคำนี้ อาจทำให้เขาคิดว่าก็ใช่น่ะสิ คุณไม่ได้เป็นฉันนี่! คุณไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง กลายเป็นว่าจากหวังดีกลายเป็นร้ายไปเลยจ้า) ลองเปลี่ยนเป็น “ดูเหมือนคุณจะกังวลนะ มีอะไรให้เราช่วยรึเปล่า” คำพูดนี้ นอกจากเขาจะรู้สึกดีที่เหมือนมีเราอยู่ข้างๆ เผลอๆเขาอาจจะเล่าความกังวลบางอย่างที่แท้จริงของเขาให้เราฟังด้วยก็ได้นะ
2. “แค่นี้เอง สู้หน่อยสิ” (บางทีเขาไม่เข้าใจ อาจจะคิดว่าแบบเราสู้มามากแล้ว สู้จนท้อแล้ว คุณไม่รู้หรอกว่ามันเหนื่อยแค่ไหนยังไง อะดราม่าไปหนึ่ง) ลองเปลี่ยนเป็น “อดทนอีกนิดนะ เดี๋ยวมันจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับเอง”
3. “อย่าคิดมากน่ะ” (แล้วจะไม่ให้คิดมากได้ยังไง ก็ฉันเจ็บอยู่นะเว้ย แกไม่เจ็บก็พูดได้นิกลายเป็นเหมือนเราไม่เข้าใจเขาไปเลย)ลองเปลี่ยนเป็น “ไม่ต้องกังวลนะ ทำต่อไป เดี๋ยวมันจะค่อยๆดีขึ้นเอง”
4. “ต้องทำได้!” (บางทีคำนี้เหมือนเป็นการไปออกคำสั่งเขา) ลองเปลี่ยนเป็น “เชื่อมั่นในตัวเองนะ คุณทำได้” ก็จะทำให้เขารู้สึกอยากที่จะทำต่อไปนั่นเอง
5. “สู้ๆนะ” (บางทีในคนที่เขากังวลกับอาการเจ็บมากๆ คำนี้อาจจะตีความเหมือนว่า “เรากำลังปล่อยให้เขาสู้อยู่คนเดียว” คล้ายๆกับคนที่เป็นซึมเศร้า) ลองเปลี่ยนเป็น “เราเป็นกำลังใจให้นะ”
ก็จะเป็นการบอกให้เขาเข้าใจตรงๆไปเลยว่า เราเป็นกำลังใจให้เขาอยู่นะ เราอยู่ข้างเขานะ ก็จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น เหมือนมีเราอยู่ข้างๆ คอยเป็นกำลังใจให้นั่นเองและนี่ก็เป็นตัวอย่างประโยคง่ายๆ แค่เพียงเราปรับคำพูดเล็กน้อย ก็อาจจะทำให้คนที่บาดเจ็บ มีแรงฮึดและกำลังใจมากขึ้น พร้อมที่จะต่อสู้กับอาการบาดเจ็บต่อไป ( ทั้งนี้ทั้งนั้น อาจต้องคำนึงถึงบริบทและสถานการณ์ที่จะนำไปใช้ด้วยนะคะ )
ดูแล้วอิ่มอุ่นกันไป ช่วยกันติดว้าว และ แชร์ความรู้สึกดี ๆ ไปถึงคุณแม่และคนที่กำลังจะเป็นแม่คนกันนะคะ กำลังใจจากแม่
ตลอดระยะเวลาของการตั้งครรภ์ คุณแม่มักจะมีอาการคนท้องเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ท้อง อาการปวดหน่วง ปวดหลังหรือปวดปัสสาวะบ่อยๆ เป็นต้น อาการเหล่านี้อาจสร้างความกังวลใจให้คุณแม่รู้สึกหงุดหงิดบ่อยครั้ง แต่เมื่อวันใกล้คลอดมาถึง คุณแม่อาจจะรู้สึกกังวลสองเท่ากับการเตรียมตัวเพื่อรับมือตอนคลอด วันนี้เรามีคำแนะนำเพื่อช่วยให้คุณแม่ลดภาวะวิตกกังวลในวันคลอดลงได้ดังนี้
รับมือกับความเจ็บปวด
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เพิ่งตั้งท้องลูกน้อยคนแรก หลังจากผ่านพ้นอาการคนท้องต่างๆ นานา เมื่อใกล้จะถึงวันคลอด คุณแม่ย่อมมีความกังวลเป็นธรรมดากับความเจ็บปวดตอนคลอด แนะนำว่าให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อรับมือกับความเจ็บปวดตอนคลอดค่ะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้รับคำแนะนำที่ดีที่สุดจะได้เตรียมตัว เตรียมใจในวันคลอดได้อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ ควรมองโลกในแง่บวกเข้าไว้ โดยอาจจะมองว่าแม้จะเจ็บปวดสักเพียงไร แต่เมื่อคุณได้เห็นใบหน้าทารกน้อยที่เพิ่งคลอดออกมา คุณก็จะมีรอยยิ้มที่สดใสไปในทันที เพราะชีวิตของคุณกำลังได้รับของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดแล้วนั่นเอง จุดนี้ก็ย่อมทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น ผ่อนคลายและลดกังวลในเรื่องความเจ็บปวดตอนคลอดไปได้บ้างแน่นอน
เลือกวิธีการคลอดที่ดีที่สุด
การคลอดลูกแบบธรรมชาติหรือคลอดด้วยตัวเองนั้น เป็นวิธีคลอดลูกที่ดีที่สุดและร่างกายก็ยังฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับร่างกายคุณแม่ในแต่ละคนก็อาจจะมีความพร้อมในการคลอดที่แตกต่างกัน คุณแม่ท่านใดร่างกายมีภาวะผิดปกติ คุณหมอก็อาจจะใช้วิธีการผ่าคลอด แต่หากคุณแม่ท่านใดสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทั้งกายและใจก็เหมาะสมที่จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติมากที่สุด อย่างไรแล้ว คุณแม่อย่าลืมปรึกษาคุณหมอเรื่องวิธีการคลอดที่เหมาะสมกับตัวคุณด้วย
credit content : boredpanda.com , thairath.co.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกไม่ขยับตัว เรื่องจริงจากปากแม่ เสียลูกไปหลังจากไม่รู้สึกว่าลูกขยับ
การนัดตรวจสุขภาพลูก และทำวัคซีนครั้งแรก 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 79
ของแสลงคืออะไร หลังคลอดห้ามกินของแสลง จริงไหม 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 83
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!