12 วิธีที่ผู้ปกครองสามารถช่วยให้เด็กฝึกความจำได้ดี วิธีทำให้ความทรงจำดีขึ้น
ความทรงจำเป็นเหมือนสิ่งที่คอยบันทึกเหตุการณ์สิ่งที่ต่าง ๆ ที่เรามาในแต่ละวัน ความทรงจำเป็นสิ่งที่มาควบคู่กับประสบการณ์ ทั้งยังเป็นสิ่งสำคุญสำหรับเด็กที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะมันเป็นปัจจัยสำคัญในการเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ รอบตัวลูกของคุณ วิธีทำให้ความทรงจำดีขึ้น เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามฝึกฝนให้เด็ก ๆ ใช้มันให้ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ
การเรียนรู้นั้นง่ายกว่ามากหากคุณมีความจำที่ดี ความสามารถในการจับผิดภาพและเรียกคืนความรู้ไม่เพียงทำให้เด็กมีความเป็นเลิศในโรงเรียน แต่การมีความทรงจำที่สดใสและมีประสบการณ์ในชีวิตประจำวันยังช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจโลกและสถานที่ในนั้น และทักษะชีวิตที่จำเป็นได้มากขึ้น วิธีทำให้ความทรงจำดี เมื่อพิจารณาว่าหน่วยความจำที่สำคัญนั้นมีต่อการพัฒนาของเด็กอย่างไรก็เป็นเรื่องดีที่รู้ว่าทักษะของเราในการจดจำนั้นไม่ได้รับการแก้ไข
สิ่งที่เป็นจริงสำหรับผู้ใหญ่นั้นเป็นจริงสำหรับเด็ก ๆ มีกลวิธีมากมายที่คนหนุ่มสาวสามารถใช้เพื่อเพิ่มความจำ และในฐานะผู้ปกครองคุณพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกเขา นี่คือคำแนะนำที่ได้รับการสนับสนุนจากการวิจัย
การท่องจำท่องจำเป็นวิธีการเครียดและสามารถฆ่าลูกของคุณสนใจในการเรียนรู้ ให้เน้นไปที่การเพิ่มทักษะความจำของเขาด้วยกลยุทธ์ง่าย ๆ เหล่านี้ อีกทั้งของเล่นพัฒนาสมองและการออกกำลังกายเหล่านี้ช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างสมองของเด็กและเพิ่มการเก็บข้อมูล ในความเป็นจริงการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายสมองเช่นนั้นช่วยเพิ่มความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเด็กอีกด้วย
1. ลดความเครียดจากการเรียนรู้
"ความเครียดทำให้ระบบไอดีของสมองส่งข้อมูลไปยังสมองที่มีปฏิกิริยา และป้องกันการไหลของข้อมูลผ่านไปยังการคิดไตร่ตรองที่สูงขึ้นสมองที่ใส่ใจ (prefrontal cortex) ซึ่งสร้างหน่วยความจำระยะยาว" นั่นหมายความว่าการสร้างสถานการณ์การศึกษาแรงดันสูงอาจเป็นอันตรายต่อความทรงจำของเด็ก "สร้างกิจกรรมที่สนุกสนานด้วยเกมหรือสิ่งต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ ชอบ หรือเซอร์ไพรส์ (รูปภาพสนุก ๆ ที่ดาวน์โหลดและพิมพ์จากอินเทอร์เน็ต) ก่อนเวลาเรียนเพื่อทำลายประสบการณ์การศึกษาและเปิดสมองที่นำไปสู่หน่วยความจำ"
2. เล่นเกมความจำ
ทักษะความจำเป็นเหมือนกล้ามเนื้อที่เติบโตตามการใช้งาน ดังนั้นทำให้แน่ใจว่าคุณให้โอกาสมากมายแก่ลูก ๆ ของคุณ (โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า) เพื่อจดจำสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับโลก ให้ถามคำถามเมื่อคุณออกไปข้างนอกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเดินผ่านบ้านเพื่อนบ้านใ้หถามลูกว่า ใครอยู่ที่นั่น เกมเช่นนี้จะเสริมสร้างประสบการณ์ให้เด็กในการจำข้อมูล
3. ส่งเสริมการอ่านและพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่การอ่านหนังสือกับเด็กนั้นดีต่อการพัฒนาทางปัญญา แต่ถ้าคุณต้องการให้พวกเขาได้รับประโยชน์จากหนังสือมากขึ้น แนะนำให้ลูกของคุณมีส่วนร่วมในการอ่าน “เมื่อเด็กมีส่วนร่วมในกลยุทธ์การอ่านเชิงรุกพวกเขาน่าจะมีเวลาในการสร้างความทรงจำระยะยาวได้ง่ายขึ้น กลยุทธ์การอ่านเชิงรุกนั้นไม่เพียงแต่จดบันทึกและเน้นที่นักเรียนส่วนใหญ่ทำเท่านั้น แต่ยังพูดออกเสียงและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา พวกเขากำลังอ่าน ดังนั้นอย่าลืมถามลูกน้อยของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังอ่านด้วยกันและปฏิกิริยาของเธอต่อเรื่องราว
4. ขอให้พวกเขาอธิบายสิ่งที่พวกเขาจินตนาการ
แนะนำเทคนิคอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน "เมื่อเด็กกำลังอ่านอะไรบางอย่างให้พวกเขาหยุดและขอให้พวกเขาจินตนาการถึงฉากที่อยู่ในหัวของพวกเขาและอธิบายให้คุณฟัง"
5. พูดคุยเกี่ยวกับความทรงจำที่ชื่นชอบ
ในทำนองเดียวกันความทรงจำของเด็ก ๆ ก็มีประโยชน์เช่นกัน เมื่อผู้ปกครองสนับสนุนให้เด็กจดจำและนึกภาพความทรงจำที่ชื่นชอบตาม มุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ที่สะท้อนอย่างรุนแรงกับเธอ เช่น การเดินทางไปสวนสัตว์ เมื่อเธอโตขึ้นเล็กน้อยช่วยให้เธอเล่าเรื่องออกมาจากความทรงจำของเธอ ความทรงจำของลูกคุณจะยิ่งดีขึ้นและเธอจะเรียนรู้วิธีถ่ายทอดมัน ในรูปแบบที่ชัดเจน
6. เล่นไพ่
วิธีนี้เป็นวิธีที่สนุกในการเพิ่มหน่วยความจำที่ทั้งคุณและลูกของคุณจะเพลิดเพลิน "เกมไพ่ง่าย ๆ อย่าง Crazy Eights, Uno, Go Fish and War สามารถปรับปรุงความจำในการทำงานได้สองวิธีลูกของคุณต้องรักษากฎของเกมไว้ในใจ แต่เขาก็ต้องจำสิ่งที่เขามีและไพ่ของคนอื่น ๆ เล่นด้วย
7. ทำงานเกี่ยวกับทักษะการสร้างภาพ
ส่งเสริมให้เด็กสร้างภาพในใจของพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งอ่านหรือได้ยิน ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณขอให้ลูกของคุณจัดโต๊ะสำหรับห้าคน ให้ลูกของคุณจินตนาการว่าโต๊ะควรมีหน้าตาเป็นอย่างไรแล้วค่อย ๆ วาด เมื่อเด็ก ๆ แสดงภาพได้ดีขึ้นพวกเขาสามารถอธิบายภาพแทนการวาดได้
8. ให้ลูกของคุณสอนคุณ
ความสามารถในการอธิบายวิธีการทำบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวข้องกับการทำให้ข้อมูลและจิตใจ บางทีลูกของคุณกำลังเรียนรู้ทักษะ เช่น การเลี้ยงลูกบาสเก็ตบอล ขอให้ลูกของคุณสอนทักษะนี้ ครูทำสิ่งที่คล้ายกันโดยจับคู่นักเรียนในชั้นเรียน สิ่งนี้ทำให้พวกเขาเริ่มทำงานกับข้อมูลได้ทันทีแทนที่จะรอที่จะถูกเรียก
9. ลองเกมที่ใช้หน่วยความจำภาพ
มีเกมจับคู่มากมายที่สามารถช่วยให้เด็กทำงานในหน่วยความจำภาพ เช่น เกมคลาสสิกเข้มข้น (หรือหน่วยความจำ) นอกจากนี้คุณยังสามารถทำสิ่งต่าง ๆ เช่น ให้หน้านิตยสารแก่เด็ก ๆ และขอให้พวกเขาท่องจำคำหรือตัวอักษร ผลัดกันอ่านตัวอักษรและตัวเลขบนแผ่นป้ายทะเบียนแล้วบอกพวกเขาย้อนหลังด้วย
10. ส่งเสริมการอ่าน
การจดบันทึกย่อและขีดเส้นใต้หรือข้อความที่ไฮไลต์สามารถช่วยให้เด็กจดจำข้อมูลได้นานพอที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ การพูดออกมาดัง ๆ และถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาการอ่านยังช่วยหน่วยความจำในการทำงาน กลยุทธ์การอ่านเชิงรุกเช่นนี้สามารถช่วยสร้างความทรงจำระยะยาวได้เช่นกัน
11. จำข้อมูบเป็นชุด
เคยสงสัยไหมว่าทำไมหมายเลขโทรศัพท์และหมายเลขประกันสังคมจึงมีขีดกลางอยู่ด้วย เพราะง่ายต่อการจำตัวเลขกลุ่มเล็ก ๆ สองสามกลุ่มมากกว่าที่จะจำเลขชุดยาว ๆ จำนวนหนึ่งได้ จำไว้ว่าเมื่อคุณต้องการให้ลูกของคุณบอกทิศทางแบบหลายขั้นตอน คุณยังสามารถใช้กราฟิกออร์แกนไนเซอร์เพื่อช่วยแบ่งการเขียนเป็นชิ้นเล็ก ๆ
12. ช่วยทำการเชื่อมต่อ
วิธีหนึ่งคือการดึงดูดความสนใจของลูกด้วยความสนุกสนานเพื่อช่วยในการจำ (ตัวอย่างเช่น ชื่อที่ประดิษฐ์ขึ้นมา "Roy G. Biv" สามารถช่วยให้เด็ก ๆ จดจำลำดับของสีในรุ้ง แดงส้มเหลืองและอื่น ๆ ) การค้นหาวิธีการเชื่อมต่อข้อมูลช่วยในการสร้างและดึงข้อมูลได้นาน นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องความจำในการทำงานซึ่งเป็นสิ่งที่เราใช้ในการเก็บและเปรียบเทียบความทรงจำเก่าและใหม่
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- อย่าคิดมาก สมองนั้นเหนื่อยล้าและไม่สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเครียดและเหนื่อยล้า หลังเลิกเรียนให้ลูกของคุณมีเวลาพักผ่อนและคลายเครียดบ้าง สร้างกิจกรรมที่สนุกสนาน เช่น ทำให้สดชื่นกับอาหารที่พวกเขาจะได้ทาน ของว่าง หรือ ใช้เวลาในการเล่น และสนทนาอย่างมีความหมายก่อนเรียน ด้วยวิธีนี้ หัวของพวกเขาจะเบาขึ้นเล็กน้อย สมองของพวกเขาจะรีเฟรช และพวกเขาจะมีจิตใจที่จะตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่
- อย่ากีดกันพวกเขาจากการหยุดพัก สมองยังต้องการเติมเสบียงเพื่อให้สามารถรับข้อมูลใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การหยุดพักสมองหลังจากจดจ่อกับการเรียนในช่วงระยะเวลาหนึ่งเป็นสิ่งจำเป็น แนะนำให้พักเป็นเวลาสิบนาทีสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา ขณะที่แนะนำให้พักเป็นเวลา 15-20 นาทีสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา กิจกรรมง่าย ๆ เช่น ยืน หรือ เดินไปรอบ ๆ หรือทำสิ่งพื้นฐานต่าง ๆ สามารถทำให้สมองของเด็กมีชีวิตชีวาและทำให้พร้อมที่จะรับและย่อยข้อมูลเพิ่มเติม
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
5 ความทรงจำในวัยเด็กที่ลูกจะจดจำ เกี่ยวกับพ่อแม่ อย่าคิดว่าลูกไม่รู้เรื่องนะ!
10 เพลงเด็ก น่าฟัง ได้ประโยชน์และได้ความรู้ ฟังเพลงออนไลน์ปี 2020
ปล่อยให้ลูกทานอาหารเอง ทางลัด เพิ่มทักษะสมอง สองมือ และสายตา ให้เจ้าตัวเล็ก