ความเชื่อคนท้อง
แม่จ๋าอย่าเพิ่งปักใจไปกับความเชื่อผิด ๆ เราจะช่วยคุณแม่มือใหม่ไขความจริง ความเชื่อคนท้อง
ความเชื่อผิด ๆ ของคนท้อง
การตั้งครรภ์โดยตั้งใจไม่ใช่เรื่องง่าย แม่ ๆ ทุกคนเมื่อท้องแล้วจึงต้องดูแลตัวเองอย่างดี อ่านมันทุกอย่าง ระมัดระวังทุกสิ่งที่คนเตือน แต่แม่รู้หรือเปล่าว่า ความเชื่อบางอย่าง หรือสิ่งที่บอกเล่าต่อกันมานั้น ไม่ใช่เรื่องจริง หรือไม่จริงทั้งหมด มาดูตัวอย่างความเชื่อผิด ๆ ที่คนท้องต้องรู้กันค่ะ
1.สะโพกใหญ่ คลอดลูกง่าย
ไม่ใช่แค่ความเชื่อของคนไทย แต่ต่างชาติก็มีความเชื่อที่ว่า สะโพกใหญ่ คลอดลูกง่าย เพราะคิดว่า กระดูกสะโพกใหญ่ แต่กระดูกใหญ่ไม่ได้เกี่ยวกับช่องคลอด สิ่งที่เกี่ยวเต็ม ๆ คือ กระดูกเชิงกราน ที่ห่อหุ้มช่องทางคลอดอยู่ อุ้งเชิงกราน เป็นโครงสร้างที่เชื่อมต่อระหว่างช่องท้องกับขา ในอุ้งเชิงกราน ประกอบด้วย มดลูก ปากมดลูก ปีกมดลูก รังไข่
ตามปกติ อุ้งเชิงกรานของคนท้องจะใหญ่ขึ้นในช่วงไตรมาสที่สาม ถ้าแม่มีอุ้งเชิงกรานแคบ ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ขนาดของลูกในท้องตัวใหญ่ ก็ต้องผ่าคลอด
2.ขนาดและรูปร่างของท้องแม่บอกได้ว่า ลูกสาวหรือลูกชาย
มันคงจะดี ถ้าเรารู้เพศลูกกันได้ง่าย ๆ เพียงแค่ดูขนาดของท้อง หรือรูปร่างของครรภ์ แต่จริง ๆ แล้ว เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า กำลังตั้งท้องลูกสาวหรือลูกชายจากการดูขนาดของท้อง
สิ่งที่บ่งบอกจากขนาดและรูปร่างของท้อง คือ ขนาดของทารกในครรภ์และตำแหน่งที่ลูกอยู่
3.อัลตร้าซาวด์บ่อย ๆ มีผลต่อลูกในท้อง
อัลตร้าซาวด์ อันตรายไหม คำถามที่แม่ ๆ มักข้องใจ ถ้าต้องอัลตร้าซาวด์บ่อย ๆ ลูกในท้องจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ คำตอบคือ ไม่เป็นค่ะ การอัลตร้าซาวด์ไม่มีผลต่อทารกในครรภ์ เพราะใช้คลื่นความถี่ในช่วงที่ปลอดภัยต่อทั้งแม่และลูก
4.คนท้องห้ามนอนคว่ำไปทับลูก
คนท้อง นอนคว่ําได้ไหม นั่นสินะ จะไปทับลูกในท้องหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ค่ะ เพราะทารกนอนอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ถ้าแม่นอนทับด้านหนึ่ง ท้องก็จะไปปูดออกอีกด้าน วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณแม่สบายขึ้นเมื่อนอนคว่ำคือ ใช้หมอนรองบริเวณต้นขา และคอ ศีรษะตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง
สำหรับท่านอนคนท้องที่เหมาะคือท่านอนตะแคง น้ำหนักของท้องส่วนหนึ่งตกลงที่พื้น ทำให้ไม่มีแรงกดบนเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้อง ป้องกันเลือดคั่งบริเวณขาส่วนล่างได้ดี หากใช้หมอนรองไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างบริเวณใต้เข้า หรือนอนกอดหมอนข้างจะช่วยให้คุณแม่นอนสบาย ซึ่งท่านอนตะแคงซ้ายจะลดแรงกดดันเส้นเลือดใหญ่ได้ดีกว่าท่านอนตะแคงขวา
5.คนท้องห้ามวิ่งเด็ดขาด
แม่บางคนที่มีอาการแพ้ท้องหนักมาก ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือมีโรคประจำตัว รวมถึงเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เราอยากแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนที่จะหักโหมออกกำลังกาย
แต่ก็มีแม่ ๆ ที่ร่างกายแข็งแรงดี ออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถวิ่งออกกำลังกายได้ ดังนั้น ข้อห้ามที่ว่า คนท้องห้ามวิ่งเด็ดขาด ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน
อ่านความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ผิด ๆ ต่อหน้าถัดไป
6.อาการแพ้ท้องเกิดเฉพาะไตรมาสแรก
อาการแพ้ท้อง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Morning sickness บางคนจึงเชื่อว่า จะเกิดอาการแพ้ท้องเฉพาะตอนเช้า (Morning) จึง ๆ แล้วเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน และความเชื่อที่ว่า อาการแพ้ท้องจะเป็นเฉพาะ 3 เดือนแรก ก็ไม่เสมอไป บางคนแพ้ท้องจนกระทั่งเดือนสุดท้ายก่อนคลอดเลยก็มี
7.ผู้หญิงทุกคนจะมีความสุขขณะตั้งครรภ์
เห็นคนท้องยิ้มแย้ม ดูอารมณ์ดี ใช่ว่า กำลังมีความสุข แต่คนท้องหลาย ๆ คนก็ต้องพยายามมีความสุข เพื่อไม่ให้ความเครียดไปลงลูกในท้อง
แม่มือใหม่ที่ต้องเผชิญทั้งการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ฮอร์โมน อารมณ์ มันจะมีความสุขตลอดเวลาไปได้ยังไง ทำความเข้าใจเสียใหม่ ถ้าคุณกำลังท้องและรู้สึกเครียด กังวล หรือกลัว มันไม่แปลกเลยค่ะ นี่ยังไม่นับรวมอาการซึมเศร้าหลังคลอด ที่แม่บางคนต้องเผชิญด้วยนะ ดังนั้น เราขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกท่าน ที่กำลังฝ่าฝันอารมณ์และความรู้สึก เพื่อที่จะยิ้มแย้มให้กับลูกในท้อง สู้ ๆ นะคะ
8.คลอดลูกแล้วผอมแน่ ๆ
แม่ ๆ หลายคนวาดฝันว่า คลอดลูกเสร็จปุ๊บ หุ่นก็กลับมาสวยเป๊ะ เหมือนก่อนท้อง แต่มันไม่จริง!
น้ำหนักตัวที่ลดลง จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของลูก พอคลอดลูกและรกออกไป น้ำหนักแม่ก็จะลดลง แต่ไม่ทั้งหมด มันอยู่ที่ว่า แม่กินไปเท่าไหร่ เพิ่มน้ำหนักตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ไปมากแค่ไหน ยิ่งเพิ่มมากก็ลดยากนะจะบอกให้ ทางที่ดี ต้องควบคุมน้ำหนัก อย่าเอาแต่อ้างว่ากินเผื่อลูก
9.ขอหมอผ่าคลอดทั้งที่ไม่จำเป็น
แม่ท้องเชื่อว่า คลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาตินั้น เจ็บปวด ทรมาน ผ่าคลอดไปเถอะจะได้จบเร็ว แถมยังปลอดภัยอีกด้วย ทั้งที่จริงแล้ว การคลอดธรรมชาตินั้นมีประโยชน์ต่อลูก ข้อดี คลอดธรรมชาติ คือลูกได้รับเชื้อแบคทีเรียที่ดี ในช่องคลอดของแม่ ทำให้มีภูมิคุ้มกัน และกระบวนการคลอดธรรมชาติจะมีการขับของเหลวออกจากปอดของทารก จึงเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการหายใจเมื่อแรกคลอด
คลอดธรรมชาติ คลอดเสร็จก็จบ แต่ผ่าคลอดนี่สิ ความเจ็บปวดจะเกิดหลังจากคลอดลูกไปแล้ว เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ ใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัวหลังคลอด ทั้งยังเจ็บแผลนานกว่าคลอดธรรมชาติ ทางที่ดี ควรปรึกษาหมอก่อนตัดสินใจเลือกวิธีผ่าคลอดนะคะแม่
10.ลูกอยู่ในท้องไม่รู้หรอก
ใครที่คิดว่า ลูกไม่รู้หรอกว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขอให้เข้าใจเสียใหม่ แม้ว่าลูกจะอยู่ในท้อง ลูกก็สัมผัสได้ถึงความเครียดของแม่ รับรู้ถึงความเสียใจ และรู้สึกสงบได้เมื่อได้ยินเสียงของแม่ มันอาจจะยาก ถ้าแม่ท้องกำลังเจอกับปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้า แต่เราก็อยากให้แม่คิดในแง่ดี ทำใจให้สบาย เพื่อให้ลูกในท้องมีความสุขนะคะ
11.ดื่มแค่แก้วเดียวไม่เป็นไรหรอก
หากแม่ท้องดื่มแอลกอฮอล์ แม้เพียงน้อยนิด ก็ส่งผลต่อลูกในท้อง ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ ไวน์ หรือเหล้า ล้วนแล้วแต่เพิ่มโอกาสเสี่ยงการแท้งลูก ทำให้ลูกพิการแต่กำเนิด น้ำหนักแรกเกิดน้อย รูปหน้าการเจริญเติบโตแขนขาผิดปกติ พัฒนาทางสมองด้อยกว่าเด็กทั่วไป
นอกจากนี้ ลูกอาจจะมีปัญหาด้านการเรียนรู้ การพูด อาจเป็นโรคสมาธิสั้นได้ เมื่อโตขึ้นจะมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กปกติ การทำงานของกล้ามเนื้อไม่ประสานกัน เห็นโทษรุนแรงขนาดนี้ แม่ท้องก็งดดื่มเหล้าเถอะนะคะ
ที่มา : https://brightside.me
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เสพยา ถ้ามารดาเสพสารเสพติดขณะตั้งครรภ์จะส่งผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร
คนท้องอดอาหาร กินข้าวไม่ตรงเวลา ระวังลูกสมองไม่ดี
ท้องใกล้คลอด เจ็บท้องคลอด อาการเป็นยังไง คุณหมอช่วยไขความกระจ่าง
วิจัยมาแล้วแม่สะโพกใหญ่จะทำให้ลูกเกิดมาฉลาดและสมองดี