ช่วงคุณแม่คัดนม คุณแม่ทุกคนคงเห็น น้ำนมใส ซึ่งไม่ทราบว่าควรปั๊มทิ้งหรือไม่ แล้ว น้ำนมใส มีประโยชน์ต่อลูกน้อยอย่างไร เพื่อให้ไม่เสียเวลา เรามาดูกันเลยค่ะ
น้ำนมใส
คือน้ำนมในช่วงวันที่ 5-14 วันหลังคลอด น้ำนมใส หรือ น้ำนมช่วงเปลี่ยนผ่าน คือ ระยะเปลี่ยนจากหัวน้ำนมแม่เป็นน้ำนมแม่ ซึ่งสารอาหารในช่วงนี้ จะประกอบไปด้วย แลคโตส และวิตามิน ที่ละลายน้ำได้ค่อนข้างสูง และมีปริมาณแคลอรี่มากกว่าช่วงหัวน้ำนม
น้ำนมใสต้องปั๊มทิ้งหรือไม่
น้ำนมสีใส จะมีลักษณะสีขาว ประกอบด้วยน้ำส่วนใหญ่ และมีน้ำตาลแลคโตสอยู่มาก เมื่อลูกรับประทานจะช่วยให้ลูกดับกระหาย พร้อมทั้งให้พลังงาน และช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ทำให้ลูกขับถ่ายได้สะดวกขึ้น ดังนั้น ไม่ควรปั๊มทิ้ง แต่ควรให้ลูกได้ดูดน้ำนมส่วนหลังด้วย
- น้ำนมส่วนหลัง จะมีสีค่อนไปทางเหลือง และมีลักษณะที่ข้นมากกว่าน้ำนมส่วนหน้า เพราะในน้ำนมส่วนหลังจะประกอบไปด้วยไขมันที่มีประโยชน์ โปรตีน และสารอาหารอื่นๆที่จำเป็นต่อลูก และยังคงมีภูมิคุ้มกันตามปกติเช่นกัน น้ำนมส่วนหลังนี้จะช่วยทำให้ลูกอิ่มท้อง และมีน้ำหนักตัวดี ทำให้เด็กไม่ถ่ายบ่อย
ประโยชน์น้ำนมแม่
น้ำนมแม่
- ช่วยปกป้องสายตาให้กับเจ้าตัวเล็ก ในน้ำนมแม่มีวิตามินอยู่หลายชนิด และวิตามิน A ก็เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่พบได้มากในน้ำนมแม่ เมื่อลูกน้อยได้ดื่มนมแม่แล้ววิตามิน A ก็จะเข้าไปช่วยบำรุงและปกป้องสายตาให้แก้ลูกน้อย และยังลดปัญหาจอตาเสื่อมอีกด้วย
- มีสารอาหารที่ลูกน้อยต้องการครบถ้วน สำหรับเด็กแรกเกิดแล้วสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำนมแม่ เป็นสารอาหารที่ครบถ้วนและเพียงพอต่อลูกน้อยที่สุด อีกทั้งยังจำเป็นต่อการเติบโตให้แก่ลูกน้อยด้วย ซึ่งในนมชนิดอื่นๆ อาจจะมีน้ำตาลหรือไขมันที่มากเกินความจำเป็นของลูกน้อยค่ะ
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า นมแม่สามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ เช่น ท้องเสีย การติดเชื้อในหู และการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ หรือปอดบวม ส่วนในระยะยาว ก็จะลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคหอบหืดในเด็ก มะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ช่วยเรื่องน้ำหนักของลูกน้อยไม่มากเกินไป น้ำนมแม่ลดปัญหาโรคอ้วนของลูกน้อยเพราะว่าในน้ำนมแม่นั้นอุดมไปด้วยไขมันชนิดดี ที่จะช่วยในการพัฒนาสมอง สายตา และการมองเห็น อีกทั้งยังมีน้ำตาลดีในน้ำนมที่จะกลายเป็นแบคทีเรียช่วยย่อยในลำไส้เพื่อป้องกันการท้องร่วงในทารกด้วยค่ะ
- สร้างเกาะภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับลูก น้ำนมแม่ ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ลดปัญหาการป่วยของลูกน้อย เช่น โรคหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้
การสต็อคน้ำนม
ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไรยิ่งง่ายเท่านั้น (โดยเฉพาะภายใน 1-2 สัปดาห์แรกหลังคลอด) แต่ถ้าคุณพลาดช่วงเวลานั้นมาแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล เริ่มต้นได้เลยตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เริ่มจากมื้อเช้า (ตี5-6 โมง) ร่างกายแม่จะผลิตน้ำนมได้มากที่สุดในช่วงนี้
- ถ้าตื่นก่อนลูก ให้ปั๊มหรือบีบน้ำนมออกก่อน 1 ข้าง (สมมุติว่าเป็นข้างขวา) ประมาณ 15 นาที ได้เท่าไหร่ (แรกๆ อาจจะไม่ถึงออนซ์ ก็ไม่ต้องกังวล ทำทุกวัน น้ำนมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) เก็บเอาไว้ เมื่อลูกตื่นให้ลูกดูดข้างซ้าย นานจนกว่าลูกจะพอใจ ถอนปากออกจากเต้าแม่เอง ถ้าไม่หลับ ก็ให้ลูกมาดูดต่อข้างขวาที่เราปั๊มไปแล้ว เมื่อลูกดูดเสร็จ ให้กลับมาปั๊มข้างซ้าย (ที่ลูกดูดตอนแรก) ต่ออีก 2-3 นาทีเพื่อกระตุ้น
- ถ้าลูกตื่นก่อนก็ให้ลูกดูดก่อนหนึ่งข้าง (สมมุติว่าข้างซ้าย) ให้ลูกดูดนานเท่าที่ลูกต้องการ เมื่อลูกถอนปากออกจากเต้า ให้ปั๊มอีกข้างที่เหลือ (ขวา) ประมาณ 15 นาที แล้วปั๊มข้างซ้าย (ที่ลูกดูดไปแล้ว) อีก 2-3 นาที ทั้งสองข้างได้นมเท่าไหร่ ก็เก็บไว้ ถ้าลูกไม่หลับ อาจจะให้ลูกมาดูดต่อข้างขวา (ที่ปั๊มไปแล้ว) ซ้ำอีกก็ได้
ข้อควรระวัง
น้ำนมที่บีบหรือปั๊มออกมาในช่วงที่ทำการเก็บสต็อคนี้ ต้องไม่ นำมาให้ลูกกิน เพราะการนำนมส่วนนี้มาให้ลูกกิน ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำนมเพิ่ม ไม่ต่างกับการให้ลูกดูดจากเต้าเอง น้ำนมที่เราต้องการสต็อคนี้ควรนำมาใช้หลังจาก 1 เดือนผ่านไปแล้ว ซึ่งเป็นระยะที่ร่างกายแม่ผลิตน้ำนมได้คงที่แล้วถ้าต้องกลับไปทำงานก็ใช้น้ำนมที่สต็อคไว้นี้ให้ลูก เมื่อไปทำงาน ก็ปั๊มจากที่ทำงานกลับมาทดแทนสต็อคที่ใช้ไป ถ้าทำได้เช่นนี้ จะสามารถให้นมลูกได้จนถึงสองปี โดยไม่ต้องพึ่งนมผสม
- การปั๊มนมหลังจากที่ไปทำงานแล้ว ต้องมีวินัยอย่างสม่ำเสมอ เช้าให้ลูกดูดก่อนไปทำงาน และเมื่อถึงที่ทำงาน ขอแนะนำให้ปั๊มเวลา 9.00 – 12.00-15.00 ของทุกวัน แล้วกลับมาให้ลูกดูดทันทีที่กลับถึงบ้าน
- วันเสาร์-อาทิตย์ ควรให้ลูกดูดทั้งวันตามต้องการ
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ที่มา : guidemama.com , breastfeedingthai.com
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :
สีของน้ำนมแม่ ที่ปั๊มออกมา ลูกจะกินได้ไหม ทำไมนมแม่มีหลายสี
100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 34 น้ำนมสีเหลือง คืออะไร ?
100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 12 น้ำนมไม่ไหล ทำอย่างไร
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!