10 สัญญาณโรคมะเร็งที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้ โรคมะเร็งที่สาว ๆ ต้องระวัง

ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บางการเปลี่ยนแปลงที่เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งได้ ดิเอเชี่ยนพาเร้นท์จึงอยากให้ผู้หญิงทุกคนหมั่นสังเกตสัญญาณต่างๆ ผ่านการเปลี่ยนแปลงร่างกายของเราค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มะเร็ง เป็นโรคร้ายที่ขึ้นชื่อว่าไม่มีทางรักษาหาย แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากเป็น ปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ และไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด ดังนั้น สาว ๆ อย่างเราที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งหลายอย่าง ต้องป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าสายเกิดไป มาดู 10 สัญญาณโรคมะเร็ง ในผู้หญิง ที่สาว ๆ ควรรู้ไว้ อย่าปล่อยให้สายไป!

10 สัญญาณโรคมะเร็ง ที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้

  1. เต้านมเปลี่ยนไป

เราทราบกันดีว่า สัญญาณโรคมะเร็งเต้านม เริ่มจากการพบก้อนที่เต้านม แต่ยังมีความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่คุณควรสังเกต เช่น รูปร่างหรือขนาดของเต้านมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สีหรือผิวหนังบริเวณลานหัวนมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มีรอยบุ๋ม รอยย่น ผิวหนังของเต้านมบวมแดงหนาตัวเหมือนผิวของเปลือกส้ม หัวนมที่เคยปกติกลายเป็นหัวนมบอด มีน้ำผิดปกติไหลจากหัวนม อาการเจ็บผิดปกติที่เต้านมข้างเดียวหรือรักแร้ข้างเดียว หากมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจแมมโมแกรมและตรวจชิ้นเนื้อที่พบ

 

  1. ท้องอืด

ผู้หญิงมีอาการท้องอืดตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่หากคุณท้องอืดนานเป็นสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ ร่วมกับมีอาการน้ำหนักลด หรือมีเลือดออก ควรรีบไปพบแพทย์

เพราะหากมีอาการท้องอืดเป็นเวลานานบางครั้งอาจเป็น สัญญาณโรคมะเร็งรังไข่ ซึ่งคุณควรได้รับการตรวจเชิงกราน ตรวจเลือด และอาจทำอัลตราซาวนด์เพื่อหาสาเหตุของอาการดังกล่าว

 

  1. มีเลือดออกระหว่างรอบเดือน

การมีเลือดออกที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรอบเดือนปกติอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงสัญญาณโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แต่หากคุณมีเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน ถือว่าไม่ปกติแน่นอน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  1. ผิวหนังเปลี่ยนไป

หากมีการเปลี่ยนแปลงขนาด รูปร่าง หรือสีของไฝ หรือจุดอื่นๆ มักเป็นสัญญาณโรคมะเร็งผิวหนัง อย่ารอช้า ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจสอบอย่างละเอียดรวมถึงการตรวจชิ้นเนื้อด้วย

 

  1. มีเลือดปนในปัสสาวะหรืออุจจาระ

การมีเลือดออกไม่ใช่เรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเลือดออกมากว่า 1-2 วัน การที่อุจจาระปนเลือดนั้นมักเกิดจากโรคริดสีดวงทวาร แต่ก็อาจจะเป็นสัญญาณโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เช่นกัน ส่วนปัสสาวะปนเลือดนั้นมักจะเป็นสัญญาณแรกของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารหรือไต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  1. ต่อมน้ำเหลืองโต

ต่อมน้ำเหลืองเป็นต่อมถั่วรูปขนาดเล็กอยู่ทั่วร่างกาย การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ของต่อมน้ำเหลืองมาจากการติดเชื้อ  แต่โรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังสามารถทำให้ต่อมน้ำเหลืองบวมโตได้ หากคุณมีก้อนเนื้อหรือบวมที่ใดก็ตามในร่างกายนานเป็นเดือนควรรีบไปพบแพทย์

 

  1. กลืนลำบาก

หากมีอาการกลืนลำบากนานๆ ครั้งไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่หากคุณรู้สึกว่ากลืนลำบากบ่อยๆ ร่วมกับอาการอาเจียน หรือน้ำหนักลด ควรได้รับการตรวจหาโรคมะเร็งลำคอหรือกระเพาะอาหาร

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  1. น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ

ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากจะเสกให้น้ำหนักส่วนเกินสลายไป แต่การที่น้ำหนักลดอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการรับประทานอาหาร หรือออกกำลังกาย อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายคุณกำลังมีปัญหา

น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจส่วนมากมักไม่ใช่โรคมะเร็ง อาจเกิดจากความเครียดหรือต่อมไทรอยด์ก็ได้ แต่ก็อาจเป็นสัญญาณโรคมะเร็งตับอ่อน มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหารได้เช่นกัน

 

  1. แสบร้อนกลางอก

การรับประทานอาหารมากเกินไป ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือความเครียด (หรือทั้งสาม) สามารถทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกได้ แนะนำให้คุณเปลี่ยนอาหารเป็นเวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์เพื่อดูว่าอาการของคุณดีขึ้นหรือไม่

หากไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ อาการแสบร้อนกลางอกเป็นเวลานานอาจหมายถึงโรคมะเร็งกระเพาะอาหารลำคอหรือรังไข่

 

  1. มีจุดด่างในปาก

หากคุณสูบบุหรี่ ให้สังเกตจุดด่างสีขาวหรือสีแดงภายในปากหรือบนริมฝีปาก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณโรคมะเร็งช่องปาก

 

มะเร็งในผู้หญิงที่ควรระวัง

มะเร็งเต้านม

มะเร็งอันดับ 1 ที่พบมากในผู้หญิงไทย มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เมื่ออายุเราเพิ่มมากขึ้น โดยสาว ๆ อย่างเรา ต้องสังเกตตัวเอง ว่ามีอาการของโรคมะเร็งหรือไม่ หากคลำพบก้อนใต้หน้าอก ใต้รักแร้ หรือ มีอาการหัวนมบุ๋ม นมมีผื่น มีแผล แดง ร้อน หรือหน้าอกมีรูปร่างผิดปกติ ให้รีีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยทันที

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

มะเร็งปากมดลูก

มะเร็งอันดับ 2 รองลงมาจากมะเร็งเต้านม คือ มะเร็งปากมดลูก ที่เกิดขึ้นได้ในผู้หญิงทุกคน ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากสาเหตุของการเป็นมะเร็งปากมดลูก 90% มาจากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) ซึ่งเป็นไวรัสที่ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยผู้หญิงในกลุ่มเสี่ยง มีดังนี้

  • ผู้หญิงที่มีอายุ 40-50 ปี
  • ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
  • ผู้หญิงที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
  • ผู้หญิงที่มีลูกมาก
  • ผู้หญิงที่มีปัญหาด้านระบบภูมิคุ้มกันบกพร้อง เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคเอชไอวี

 

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

มะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 3 ในผู้หญิง คือมะเร็งลำไส้และทวารหนัก ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แท้จริง แต่ความเสี่ยงหนึ่งคือ อายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป หรือ ครอบครัวมีประวัติเคยเป็นมะเร็งชนิดนี้ และผู้ที่ชอบรับประทานอาหารไขมันสูง ไม่รับประทานผัก ผลไม้

 

มะเร็งปอด

มะเร็งที่พบได้เป็นอันดับ 4 ในผู้หญิง คือ มะเร็งปอด ซึ่งพบบ่อย และมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต มากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วย มักเกิดจากการสูบบุหรี่ การรับควันมือสองจากผู้อื่น ซึ่งอาการของโรค มักจะแสดงเมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะที่ 3-4 โดยผู้ป่วย

 

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

มะเร็งที่พบมากในผู้หญิง เป็นอับดับ 5 คือ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับฮอร์ดมนของเพศหญิง ในผู้หญิงที่ไม่มีบุตร ประจำเดือนมาไม่ปกติ ฮอร์โมนผันผวน รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน น้ำหนักตัวมากเกินไป อาจส่งผลให้เป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้

 

 

ผู้หญิงทุกคนควรหมั่นสังเกตร่างกายตัวเองเป็นประจำนะคะ หากสังเกตเห็นอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย หากพบว่าเป็นมะเร็งในระยะแรกๆ จะได้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงทีนะคะ

ที่มา www.webmd.com , โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

 

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

โรคมะเร็ง เกิดจากอะไร วิธีสังเกตตัวเอง เตรียมพร้อมก่อนสายเกินแก้!

7 ความเสี่ยง “มะเร็งรังไข่” โรคร้ายที่พบมากในหญิงไทย

ไขข้อข้องใจ ฉีดVSไม่ฉีด วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก