X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

จับตาเฝ้าระวัง 5 โรคของเด็กที่มากับหน้าฝน

12 Jun, 2015

การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในช่วงฤดูฝน เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหลายชนิด ที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้รู้สึกเจ็บป่วยง่าย จึงควรดูแลตัวเองรวมถึงปกป้องลูกน้อยด้วย โรคสำคัญที่มากับหน้าฝนที่ควรเฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษ มีอะไรบ้าง คลิกหน้าถัดไป

จับตาเฝ้าระวัง 5 โรคของเด็กที่มากับหน้าฝน

จับตาเฝ้าระวัง 5 โรคของเด็กที่มากับหน้าฝน

การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในช่วงฤดูฝน เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหลายชนิด ที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้รู้สึกเจ็บป่วยง่าย จึงควรดูแลตัวเองรวมถึงปกป้องลูกน้อยเพื่อห่างไกลโรคเหล่านี้
โรคสำคัญที่มากับหน้าฝนที่ควรเฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษ มีอะไรบ้าง คลิกหน้าต่อไป
ไข้เลือดออกในช่วงฤดูฝน

ไข้เลือดออกในช่วงฤดูฝน

โรคไข้เลือดออก ที่ต้องคอยระวังในช่วงหน้าฝน สาเหตุจากน้ำฝนที่กลายเป็นน้ำขังจนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และที่วางไข่ของยุงได้เป็นอย่างดี “ยุงลาย” จึงเป็นพาหะนำโรคชั้นดีของ “ไข้เลือดออก”

อาการต้องสงสัย : หากได้รับเชื้อลูกจะมีไข้สูง กินยาเช็ดตัวเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล รู้สึกอ่อนเพลีย มีอาการปวดหัว ปวดท้อง ปวดกระบอกตา ถ้าปล่อยให้ไข้สูงเกิน 3 วันขึ้นไป ตาและหน้าจะเริ่มแดงขึ้น อาจมีจ้ำเลือดขึ้น หรือมีเลือดออก ควรพาลูกไปหาหมอก่อนที่จะมีอาการรุนแรงมากถึงขั้นช็อค อาเจียนเป็นเลือด และเสียชีวิตได้

วิธีป้องกันโรคเลือดออกให้ลูกน้อย
• พยายามป้องกันไม่ให้ลูกถูกยุงกัด เช่น การตรวจดูภายในห้องก่อนพาลูกขึ้นนอน และปิดประตูเพื่อป้องกันยุง หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงที่เหมาะสำหรับผิวของลูกน้อย เป็นต้น
• พยายามอย่าให้มีน้ำขังอยู่ตามภาชนะต่างๆ กำจัดแหล่งที่คิดว่ายุงลายจะมาวางไข่
• หากลูกมีไข้ในระยะ 2-3 วันแรกที่อาการไม่ชัดเจน ให้รักษาอาการเบื้องต้นด้วยการเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น และกินยาลดไข้ ดื่มน้ำให้มาก และคอยเฝ้าสังเกตอาการ เมื่อพบอาการที่ผิดปกติให้รีบพาลูกไปหาหมอทันที
โรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่

เป็นโรคฮิตที่แถบจะเกิดได้ทั้งปีและทุกฤดู แต่จะพบผู้ป่วยมากที่สุดในช่วงหน้าฝน ซึ่งโรคไข้หวัดใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับคนทุกวัย

อาการต้องสงสัย : อาการไข้หวัดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับเด็กมักมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา แต่เด็กจะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดหัว และปวดเมื่อยร่างกาย มีอาการไอ เจ็บคอ ซึ่งหากเกิดในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ อาจมีอาการรุนแรง เช่น เด็กจะหายใจเร็ว หายใจลำบาก จนถึงหยุดหายใจได้ หากลูกตัวร้อนติดต่อกัน 2-3 วัน ควรรีบนำไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คอาการทันที

วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้ลูกน้อย
• พาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนเสริมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาล โดยสามารถฉีดได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป
• สอนให้ลูกหมั่นล้างมือบ่อยๆ ทุกครั้งหลังจากเล่นหรือกลับมาจากนอกบ้าน
• ทานอาหารให้ถูกสุขอนามัย กินร้อน และใช้ช้อนกลางเสมอ
โรคตาแดง

โรคตาแดง

โรคตาแดงที่มักระบาดในช่วงหน้าฝนเกือบทุกปีเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส adenovirus ปะปนมากับฝุ่นละออง น้ำไม่สะอาดเข้าตา หรือพาหะอย่างแมงหวี่ แมลงวัน และมักแพร่ระบาดในที่ชุมชน เช่น โรงเรียน สถานเลี้ยงเด็ก หรือสถานที่สาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก เด็กๆ จึงมักจะติดโรคตาแดงกันได้ง่าย

อาการต้องสงสัย : เด็กจะมีอาการระคายเคืองตา ปวดตา มีน้ำตาไหล ขี้ตาเยอะ ทำให้ขยี้ตาบ่อย เยื่อบุตาจะค่อยๆ แดงขึ้น จนถึงขั้นทำให้ตาแดงก่ำ และอาจเกิดการลามไปที่ตาอีกข้างหนึ่งได้หากไม่ได้รับการป้องกัน

วิธีป้องกันโรคตาแดงให้ลูกน้อย
• สอนและดูแลลูกน้อยไม่ให้นำมือที่ไม่สะอาดมาขยี้ตา
• ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย หมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งเมื่อต้องจับบริเวณใบหน้าหรือขยี้ตา
• หากมีฝุ่นละอองเข้าตาควรพาลูกไปล้างด้วยน้ำสะอาด
• ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า เสื้อผ้า
• หากลูกมีอาการคล้ายตาแดง ควรให้ลูกหยุดเรียนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่หากไม่เกิดการติดเชื้อรุนแรง อาการจะหายไปเองภายใน 1-3 สัปดาห์
• งดกิจกรรมที่ใช้สายตาเป็นเวลานาน และพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
โรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วง

โรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วง

โรคท้องเสียเกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสโรต้า และอาจเกิดขึ้นได้ง่ายๆ จากการที่ลูกใช้มือไปสัมผัสกับของเล่น หรือเมื่อมือไม่สะอาดก็นำมาหยิบจับอาหารเข้าปาก อันเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าตัวเล็ก ซึ่งทำให้เด็กเล็กมีการติดเชื้อได้ง่าย

อาการต้องสงสัย : มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน เด็กบางคนอาจมีไข้สูง แต่หากมีอาการท้องเสียถ่ายเป็นน้ำ จะทำให้เด็กขาดน้ำ และช็อคได้

วิธีป้องกันโรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วงให้ลูกน้อย
• ดูแลสุขภาพลูกน้อย ในด้านความสะอาดทั้งทางร่างกาย และอาหารการกิน การเล่นร่วมกัน การใช้ของเล่นอย่างเหมาะสม
• การพาลูกไปฉีดวัคซีนโรต้าเพื่อป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรต้าไวรัส สามารถพาลูกไปรับวัคซีนได้ตั้งแต่ 2 เดือน เพราะช่วงนี้เด็กจะเริ่มมีโอกาสสัมผัสกับเชื้อที่อยู่รอบตัวแล้ว ภูมิคุ้มกันของเด็กเล็กยังไม่เต็มที่จึงทำให้มีโอกาสติดเชื้อและป่วยได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่
โรคมือเท้าปาก

โรคมือเท้าปาก

โรคมือเท้าปากจะพบมากและเป็นในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กๆ ในช่วงวัยเรียนอนุบาลถึงประถม และสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส เอนเตอโรไวรัส 71 ที่สามารถติดต่อกันด้วยการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระ อาจจะเกิดจากการสัมผัสผ่านสิ่งต่างๆ และติดต่อกันโดยไม่รู้ตัว เพราะโรคมือเท้าปากจะมีอาการให้เห็นภายหลังที่ได้รับเชื้อ 1-2 สัปดาห์

อาการต้องสงสัย : สังเกตเห็นว่าเด็กจะมีไข้ ผื่น ตุ่มใสๆ ขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ที่ขา มีแผลในปาก กระพุ้งแก้ม ลิ้น เหงือก หรือก้นร่วมด้วย เมื่อเป็นแล้วเด็กจะกินอาหารและน้ำไม่ค่อยได้เพราะอาการเจ็บแผลในปาก อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ไม่ควรปล่อยให้เด็กมีไข้สูงเกินไป อาจทำให้ชักได้และบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน เมื่อสังเกตว่าลูกมีอาการผิดปกติควรรีบพาไปหาหมอทันที

วิธีป้องกันโรคมือเท้าปากให้ลูกน้อย
• ควรจัดหาอุปกรณ์หรือภาชนะส่วนตัวสำหรับลูกน้อยเมื่อลูกไปโรงเรียน เช่น แก้วน้ำหรือกระติกน้ำ
• สอนลูกให้ใช้ช้อนกลางทุกครั้งเมื่อทานอาหารร่วมกับคนอื่น
• ปลูกฝังให้ลูกล้างมือทุกครั้งในกรณีที่สัมผัสของเล่นหรือมีการใช้ของร่วมกัน
• ดูแลความสะอาดของน้ำ อาหาร และสิ่งของทุกอย่างที่เด็กอาจจะนำเข้าปาก
• ยังไม่มีวัคซีนที่ป้องกันโรคนี้โดยเฉพาะ เป็นการรักษาตามอาการ แต่โดยปกติโรคนี้เมื่อเป็นแล้วหากไม่มีอาการรุนแรงหรือโรคแทรกซ้อนจะหายเองประมาณ 1 สัปดาห์
ป้องกันโรคที่มากับหน้าฝน

ป้องกันโรคที่มากับหน้าฝน

เพราะลูกน้อยยังมีภูมิต้านทานไม่เท่ากับผู้ใหญ่ การป้องกันและดูแลสุขภาพของลูกน้อยจึงเป็นเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยปลูกฝังวินัยลูกให้ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ กินช้อนกลางร่วมกับผู้อื่น การดื่มน้ำ รับประทานอาหารที่สะอาด และสุกเสมอ การชวนลูกออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง และการเข้านอนหลับเป็นเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นวิธีการการป้องกัน ระมัดระวัง และรับมือโรคของเด็กที่มาในช่วงหน้าฝน หรือในทุกฤดูได้อย่างง่ายๆ

5 โรคฮิตในช่วงหน้าฝน เด็กเล็กและแม่ท้องต้องระวัง
ถัดไป
img

บทความโดย

Napatsakorn .R

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • จับตาเฝ้าระวัง 5 โรคของเด็กที่มากับหน้าฝน
แชร์ :
  • อุทาหรณ์! ก้างปลาติดคอ กลืนข้าว-น้ำส้มสายชู วันรุ่งขึ้นเสียชีวิต

    อุทาหรณ์! ก้างปลาติดคอ กลืนข้าว-น้ำส้มสายชู วันรุ่งขึ้นเสียชีวิต

  • วิจัยเผย! บรอกโคลี ต้านมะเร็ง ได้!! ด้วย "ซัลโฟราเฟน" สารอาหารที่พบในบรอกโคลี

    วิจัยเผย! บรอกโคลี ต้านมะเร็ง ได้!! ด้วย "ซัลโฟราเฟน" สารอาหารที่พบในบรอกโคลี

  • แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกแพ้กุ้ง ตาบวมฉึ่ง ทั้งที่ปกติกินกุ้งประจำ

    แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกแพ้กุ้ง ตาบวมฉึ่ง ทั้งที่ปกติกินกุ้งประจำ

  • อุทาหรณ์! ก้างปลาติดคอ กลืนข้าว-น้ำส้มสายชู วันรุ่งขึ้นเสียชีวิต

    อุทาหรณ์! ก้างปลาติดคอ กลืนข้าว-น้ำส้มสายชู วันรุ่งขึ้นเสียชีวิต

  • วิจัยเผย! บรอกโคลี ต้านมะเร็ง ได้!! ด้วย "ซัลโฟราเฟน" สารอาหารที่พบในบรอกโคลี

    วิจัยเผย! บรอกโคลี ต้านมะเร็ง ได้!! ด้วย "ซัลโฟราเฟน" สารอาหารที่พบในบรอกโคลี

  • แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกแพ้กุ้ง ตาบวมฉึ่ง ทั้งที่ปกติกินกุ้งประจำ

    แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกแพ้กุ้ง ตาบวมฉึ่ง ทั้งที่ปกติกินกุ้งประจำ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว