เพราะวันเกิดของลูก คือวันที่แม่ต้องเจ็บปวดที่สุด แต่การเจ็บปวดในที่นี้ เป็นการเจ็บปวดที่เต็มไปด้วยความสุขที่สามารถบ่งบอกถึงความรักแท้ที่ยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับคุณแม่ภุชชัชชา ที่ได้โพสต์คลิปวิดีโอการผ่าคลอดของตัวเองผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว จนกลายเป็นที่พูดถึงและส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก
และก่อนที่เราจะไปดูคลิปกันนั้น หากคุณแม่เป็นคนหนึ่งที่เลือกวิธีการผ่าคลอด นี่…คือวิธีการเตรียมตัวที่คุณแม่ควรทราบค่ะ
1) สำหรับการผ่าท้องทำคลอดที่เตรียมตัวไว้แล้วล่วงหน้า คุณควรทำความสะอาดร่างกายก่อนให้กำเนิด
เพื่อลดปริมาณแบคทีเรียบนผิวหนังบริเวณที่ต้องผ่าตัด คุณควรทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่ต้านแบคทีเรียก่อนเข้ารับการผ่าท้องทำคลอด การทำเช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อหลังการผ่าตัด ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่มักเกิดขึ้นกันได้จากการผ่าท้องทำคลอด
2) เตรียมตัวทำตัวเองให้อบอุ่นเข้าไว้
การสัมผัสกับความเย็นทั้งก่อน และระหว่างการผ่าท้องทำคลอดจะเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อได้ เมื่อคุณกำลังอยู่ระหว่างรอเข้ารับการผ่าตัด หรืออยู่ระหว่างการผ่าตัด คุณสามารถขอผ้าห่มได้ เนื่องจากห้องผ่าตัดส่วนมากมักมีอากาศเย็นเฉียบ
3) ก่อนผ่าคลอดใช้กรรไกรเล็ม อย่าใช้มีดโกน
ขั้นตอนหนึ่งในการเตรียมตัวเพื่อการผ่าท้องทำคลอด คือ การกำจัดขนรอบ ๆ บริเวณที่ต้องผ่าตัด ในอดีตมักใช้มีดโกน แต่ปัจจุบันนี้พบว่าการใช้กรรไกรเล็มขนเท่าที่จำเป็นจะสามารถช่วยลดอัตราการติดเชื้อได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับการโกน
4) เดินหลังผ่าตัด
เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือด คุณควรพยายามเดินรอบ ๆ หลังการผ่าท้องทำคลอดทันทีเมื่อคุณลุกขึ้นเดินไหว การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และลดความเจ็บปวดจากการเคลื่อนไหวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณต้องดูแลลูกคนเดียวเมื่ออยู่บ้าน
5) ดูแลรักษาแผลให้ดี
ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลแผลผ่าตัด และหมั่นสังเกตตัวเองว่ามีสัญญาณบ่งบอกอาการติดเชื้อหรือไม่ การละเลยแม้เพียงเล็กน้อยอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทั้งของเด็ก และของตัวคุณเอง จำไว้เสมอว่าคุณต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด เพราะสุขภาพต้องมาก่อนเสมอ
ไปชมคลิปที่ว่านี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ
www.facebook.com/putchatcha/videos/1136263726460146/
ที่มา: คุณแม่ภุชชัชชา
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
7 สิ่งที่คุณแม่ผ่าท้องคลอดต้องเจอ
เห็นกันชัดๆ สีหน้าทารกขณะผ่าคลอด(มีคลิป)
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!