TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

แพทย์ที่ทำ เด็กหัวขาดขณะทำคลอด ได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานแล้ว

10 Jun, 2018
แพทย์ที่ทำ เด็กหัวขาดขณะทำคลอด ได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานแล้ว

จากกรณีที่มีแพทย์คนหนึ่งทำ เด็กหัวขาดขณะทำคลอด ซึ่งได้กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกโซเชียลนั้น ขณะนี้แพทย์หญิงรายนั้นได้รับอนุญาตให้กลับมาทำงานเช่นเดิมแล้ว

แพทย์ที่ทำ เด็กหัวขาดขณะทำคลอด ได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานแล้ว

รายงานได้กล่าวว่า เหตุสลดนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก เด็กทารกคนดังกล่าวนั้นอยู่ในท่าที่ไม่กลับหัว ทำให้เด็กจะเอาเท้าออกมาก่อนหากคลอดแบบธรรมชาติ ซึ่งตามปกติแล้วเด็กที่ไม่กลัวหัวนั้นควรใช้วิธีผ่าคลอดแทน เนื่องจากมีอันตรายน้อยกว่า  แต่อย่างไรก็ดี แพทย์หญิง แล็กซ์แมน (Dr. Vilvanathan Laxman) ก็ได้ตัดสินใจที่จะให้คลอดธรรมชาติแทน ซึ่งส่งผลให้ เด็กหัวขาดขณะทำคลอด โดยรายงานกล่าวว่า แพทย์หญิง แล็กซ์แมน ได้แนะนำให้มารดาเบ่งในขณะที่เธอช่วยดึงขาของเด็กออกมา และด้วยเหตุที่เด็กทารกคนนี้คลอดก่อนกำหนด ทำให้ยังอ่อนแอและบอบบางมาก แรงดึงจึงทำให้ส่วนศีรษะของเด็กและลำตัวขาดออกจากกัน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทางโรงพยาบาลจึงมีการตัดสินให้เธอออกจากงาน และเรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นคดีความขึ้นศาลเมื่อเดือนก่อน

แต่เมื่อไม่นานมานี้ Medical Practitioners Tribunal Service ได้ยกเลิกความผิดร้ายแรงของเธอครั้งนี้  และอนุญาตให้เธอกลับมาาทำงานอีกครั้ง

ทำไม แพทย์หญิง แล็กซ์แมน ถึงได้โอกาสให้กลับมาทำงานอีกครั้ง?

เด็กหัวขาดขณะทำคลอด

ขณะที่ทำการไต่สวนนั้น แพทย์หญิง แล็กซ์แมน ได้ให้การต่อศาลว่า ที่เธอไม่ได้ทำการผ่าคลอดให้นั้น เพราะเธอเชื่อว่าวิธีนั้นจะเป็นอันตรายต่อเด็กมากกว่า

แม้ว่าศาลจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเธอ และเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากความประมาท แต่ก็ไม่ได้ถือว่านี่เป็นความผิดร้ายแรง

ศาลกล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาทำคลอดให้เด็กนั้น แพทย์หญิง แล็กซ์แมน เชื่อว่าเธอได้ทำสิ่งที่ดีสุดสุดต่อคนไข้ทั้งสองแล้ว และเธอมั่นใจว่า การทำคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับสถานการณ์นั้นเล้ว”

และยังได้บอกเพิ่มเติมอีกว่า แพทย์หญิง แล็กซ์แมน ได้สำนึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นและยินดีที่จะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ แพทย์หญิง แล็กซ์แมน ยังไม่เคยมีประวัติในการทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยมาก่อน จึงอนุญาติให้เธอกลับไปทำงานต่อ

 

แล้วพ่อแม่จะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ข่าวทารกหัวขาดขณะนี้ทำให้บรรดาพ่อแม่ที่ลูกน้อยกำลังจะลืมตาดูโลกเกิดความกังวลเป็นอย่างมาก ว่าลูกอาจเป็นอันตรายได้ และนี่ก็คือวิธีที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกของเราจะไม่ตกอยู่ในสภาวะอันตรายเช่นนี้แน่นอนค่ะ

  • ไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรไปพบหมอทุกสองอาทิตย์เป็นอย่างน้อย เพื่อจะได้ติดตาามการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกในท้อง
  • ในกรณีที่เด็กไม่กลับหัว พ่อแม่ควรจะปรึกษาคุณหมอ สำหรับทางเลือกในการทำคลอด ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ที่ไม่กลับหัวมักต้องทำคลอดด้วยวิธีการผ่า แต่ในบางครั้งก็คลอดด้วยวิธีธรรมชาติได้แต่ต้องทำการปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อชั่งน้ำหนักทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดนะคะ
  • หาแพทย์ที่น่าเชื่อถือเพื่อที่คุณจะได้มั่นใจว่าคุณและลูกจะปลอดภัย
  • วางแผนล่วงหน้า การที่คุณตัดสินใจไว้ก่อนว่าอยากทำคลอดด้วยวิธีใดเป็นเรื่องที่ดี เพื่อที่คุณจะได้แจ้งแพทย์และปรึกษากันไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่มาตัดสินใจในวินาทีสุดท้าย
  • อย่าเครียดเกินไป! การที่ลูกเกิดมานั้นเป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์และสวยงามที่สุด และไม่ควรมีอะไรที่จะก่อให้เกิดความกังวล พยายามทำให้ตัวเองผ่อนคลายและเฝ้ารอลูกน้อยน่ารักที่่จะเกิดมาดีกว่าค่ะ

Credit : BBC

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บทความจากพันธมิตร
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง

5 ท่าเบ่งคลอด ลดอาการเจ็บท้องคลอด ช่วยแม่ท้องคลอดง่ายขึ้น

บล็อกหลังคลอดลูก ปลอดภัยแค่ไหน มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

คลอดลูกแล้วท้องไม่ยุบ มีวิธีทำให้ท้องยุบหลังคลอดได้อย่างไร

น้ำคร่ำแตก เป็นอย่างไร มีอาการแบบไหน ใกล้คลอดหรือยังแบบนี้

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

kamonchanok

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • แพทย์ที่ทำ เด็กหัวขาดขณะทำคลอด ได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานแล้ว
แชร์ :
  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว