เหล่าคุณเเม่ที่เป็นออทิสติก เมื่อมีลูกที่เป็นออทิสติก เธอจะเลี้ยงลูกเเบบนี้
เหล่าคุณเเม่ที่เป็นออทิสติก เมื่อมีลูกที่เป็นออทิสติก เธอจะเลี้ยงลูกเเบบนี้ เป็นผู้หญิงในโลกของผู้ชายทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากอยู่เเล้ว การเป็นออทิสติกด้วยก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เเละมันจะยากอีกเป็นกี่เท่าก็ไม่รู้นะคะ ถ้าเป็นคุณเเม่ที่เป็นออทิสติก เเละมีลูกที่เป็นออทิสติกด้วยละก็
ถ้าเป็นออทิสติก ทำไมถึงมีลูกละ
นั่นก็เพราะประมาณ 5% กว่าจะรู้ว่าเป็นก็โตเเล้ว เเละผู้หญิงที่เป็นออทิสติกบางคน ก็ไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกค่ะ เเต่ถึงคุณเเม่เหล่านี้จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก ก็จะพยายามระงับเเละควบคุมอาการไม่ให้คนอื่นรู้ เนื่องจากหน่วยงานอย่างสังคมสงเคราะห์อาจจะเข้ามาดำเนินการพรากลูกจากพวกเธอไปนั่นเองค่ะ
คุณเเม่ลอว์รา เจมส์
ลอว์ราเป็นนักเขียนที่ออกหนังสือ Odd Girl Out เเละถูกวินิฉัยว่าเป็นออทิสติกเมื่ออายุได้ 45 ปี เธอมีลูก 4 คน อายุตั้งเเต่ 19-26 ปี ลูก 2 มีอาการ neurodiversity เป็นออทิสติกหรือ ADHD ส่วนอีก 2 คนปกติดี
“ฉันเลี้ยงลูกเเตกต่างจากเเม่คนอื่นๆ ฉันไม่บอกลูกถึงเรื่องต่างๆ มันดูไม่สมเหตุสมผลในสายตาฉัน หากลูกทำสิ่งคุณไม่ชอบ ก็เพราะคุณคิดว่าเด็กควรจะทำตัวเเบบไหน นั่นคือสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เเต่ในทางกลับกันถ้าลูกทำเรื่องที่เสี่ยงอันตราย คุณถึงจะเข้าไปมีบทบาท นั่งลงเเละคุยกับลูก อธิบายให้เขาฟัง ถ้าลูกกำลังเดือดร้อน ฉันจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยพวกเขา มันไม่เป็นเหตุเป็นผลที่จะลงโทษลูก”
ลูกของลอว์ราคนนึงเป็นนักเรียนเรียนดี ที่ได้ A ทุกวิชา ในขณะที่อีกคนไม่ได้ตั้งใจเรียน
“ฉันภูมิใจลูกๆ เท่าๆ กัน เพราะฉันต้องการให้พวกเขาพอใจในตัวเองเเละมีความสุข สำหรับฉันเเล้ว การเข้ามหาวิทยาลัยไม่ใช่เป้าหมาย ฉันรักพวกเขาเเต่ละคน เเละทำทุกอย่างเพื่อพวกเขาได้ เเต่ฉันเเค่ไม่เข้าใจว่าคนอื่นจะวิจารณ์การเลี้ยงดูอย่างเผ็ดร้อนไปทำไม ฉันเเค่ไม่ได้อินกับเรื่องนี้เท่าไหร่”
“อาจเป็นเพราะฉันมีความสัมพันธ์กับลูกเเบบที่พ่อแม่คนอื่นไม่มี ลูกชอบจะไปไหนมาไหนกับฉัน ส่งข้อความมาเยอะเเค่ไหนก็ได้เหมือนกับที่ส่งหาเพื่อนของเขา ลูกสามารถคุยกับฉันได้ทุกเรื่อง เพราะฉันจะไม่มีทางโกรธพวกเขาเลย หากเขามีปัญหาฉันก็จะช่วยเท่าที่ทำได้ เเต่ฉันจะไม่มีวันโกรธ อารมณ์เสียใส่ลูก หรือลงโทษพวกเขา”
คุณเเม่นิโคลา
นิโคลาอายุ 39 ปี เธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกเมื่ออายุได้ 34 หลังจากที่ลูกชายวัย 2 ขวบ เเอนดรูวถูกวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกเมื่ออายุได้ 2 ขวบ อีก 6 เดือนต่อมา นิโคลาก็เพิ่งทราบว่าเธอก็เป็นออทิสติก เเละลูกสาววัย 8 ขวบ มาเรียน ก็ถูกวินิจฉันว่าเป็นออทิสติกเมื่ออายุได้ 4 ขวบ
“ลูกๆ มีความสุขกันดี เเละทำได้ดีในโรงเรียน คนอื่นอาจจะสงสัยว่าฉันสามารถเป็นเเม่ที่ดีได้ไหมนะ เเต่เป็นเพราะว่าอาการออทิสติกของฉัน ฉันใช้ชีวิตอยู่กับความกลัว สังคมมักจะคิดว่าการปล่อยให้เเม่ที่เป็นออทิสติกเลี้ยงลูกนั้น น่าจะทำให้ลูกตกอยู่ในอันตราย เเต่สิ่งเเรกสุดที่ฉันทำคือปกป้องพวกเขาจากอันตรายทั้งหลาย เเต่ฉันก็ยังกลัวสังคมสงเคราะห์จะเอาตัวลูกไปจากฉันอยู่ดี ”
“ฉันไม่กังวลเลยว่าฉันจะเป็นเเม่ที่ดีหรือไม่ เพราะฉันรู้ว่าฉันเป็น เเละฉันคิดนะว่าการที่ฉันเป็นออทิสติกมันทำให้ฉันเป็นเเม่ที่ดี เพราะคนที่เป็นออทิสติกส่วนใหญ่จะมีความหมดหมุ่น เเละความหมกหมุ่นของฉันคือทำให้เเน่ใจว่าลูกได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ รักพวกเขา สู้เพื่อพวกเขา เเละทำให้วัยเด็กของพวกเขามีความสุขเเละปลอดภัยดี”
“ตอนที่สามีเเละฉันวางเเผนจะมีลูก ฉันไม่รู้เลยว่าการเป็นเเม่ต้องทำยังไง ชีวิตวัยเด็กของฉันไม่ได้มีความสุขนัก สิ่งที่ฉันทำคือการหาข้อมูลเยอะมากๆ ฉันจึงรู้ว่าเด็กๆ ต้องการอ้อมกอดเเละความรัก เเม้ฉันจะเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาเเตะต้องตัว ฉันเชื่อว่าเราสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องเเตะต้องตัวกัน เเต่ฉันก็ทำให้เเน่ใจว่าลูกๆ จะได้รับการสัมผัสทางกายมากเท่าที่เขาต้องการ ลูกชายของฉันชอบให้กอดเเน่นๆ เเม้มันจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับฉันก็ตาม ”
“วัยเด็กของฉันมีทั้งความกดดันเเละความเครียด พ่อแม่ของฉันบังคับให้ฉันทำตัวปกติ เข้าสังคม กินให้ดีๆ ปฏิบัติตัวดีๆ มันเป็นเรื่องที่เเย่มาก ฉันโตขึ้นมากับความกลัวเเละบาดเเผล ดังนั้นก่อนที่ฉันจะรู้ตัวว่าฉันเเละลูกเป็นออทิสติก มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ฉันจะช่วยให้ลูกๆ ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ เพราะฉันผ่านการไม่เข้าใจจากพ่อแม่มาก่อนนั่นเอง ซึ่งจริงๆ เเล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องเเปลก เเละฉันก็ดีใจที่ฉันทำอย่างนั้น ลูกๆ จะได้ไม่เครียดเมื่ออยู่ที่บ้านเเม้ว่าเขาจะเป็นเด็กออทิสติกก็ตาม”
“ฉันไม่เเน่ใจว่าฉันจะเป็นเเม่ที่ดีให้กับเด็กที่ไม่เป็นออทิสติกได้ไหม เพราะฉันพบว่าเมื่อลูกของฉันเรียงยางลบไว้ เเละมองหายางลบเพิ่มในอินเตอร์เน็ต ฉันก็เล่นเเบบนั้น เเละฉันก็เล่นกับลูกได้หลายชั่วโมงเลย เเต่เมื่อลูกเลี้ยงของฉันเล่นเป็นไดโนเสาร์ ฉันก็ไม่รู้จะเล่นยังไง”
คุณเเม่เมลานี มาห์เจนทา
“โรซี่ลูกสาวของฉัน ถูกวินิจฉัยผิดพลาดว่าไม่เป็นออทิสติกในปี 2013 เพียงเพราะทีมงานขาดความเข้าใจอาการที่เเตกต่างกัน โดยเฉพาะอาการที่เป็นเฉพาะเพศหญิง พวกเขาปฏิเสธไม่ให้ฉันหาคุณหมอที่อื่น พวกเขาคิดว่าฉันกำลังสร้างอาการของโรซี่ขึ้นมา เเม้ฉันบอกพวกเขาว่า ฉันเชื่อว่าฉันก็เป็น ในปี 2014 พวกเขาถึงได้ประชุมกันอีกครั้งถึงอาการของโรซี่”
“ฉันเข้าใจ ว่าการเป็นคนออทิสติกอย่างฉันนั้นยากที่จะรับมือ ฉันไม่สบตาคน คนที่เป็นออทิสติกหลายคนโฟกัสไปที่หลายๆ สิ่ง เเต่พวกเขาเข้าใจผิดว่าอาการของฉันหมายถึงฉันเป็นคนที่ไม่มั่นคง ”
“ฉันก็ยังคงสู้เพื่อเธออยู่ เเม่หลายๆ คนอาจจะไม่สู้ต่อ เพราะกลัวว่าสังคมสงเคราะห์อาจจะเอาตัวลูกๆ ของพวกเธอไป เเต่ฉันจะสู้ไม่ถอยเเน่นอน ไม่ใช่เเค่เพื่อให้โรซี่ได้ถูกวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เเต่เพื่อการดูเเลรักษาเธอต่อไปด้วย”
คุณเเม่คาร์ลี โจนส์
วัย 35 ปี หย่าเเล้ว เเละมีลูกสาม 3 คน โคลอี้ 18 ปี ฮันนี่ 14 ปี เเละเชอรีส 9 ขวบ
“โคลอี้เป็นเด็กปกติ ฮันนี่ถูกวินิจฉัยตอนอายุ 6 ขวบว่าเป็นเอสเพอร์เกอร์ เชอรีสถูกวินิจฉัยเมื่ออายุ 2 ขวบว่าเป็นออทิสติก เเละฉันถูกวินิจฉันว่าเป็นออทิสติกหลังจากนั้นอีก 4 ปี ตอนอายุ 34 ปี”
“ตั้งเเต่เกิดมาฉันก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองผิดปกติ จนกระทั่งตอนอายุ 32 ฉันเจอปัญหาหลายอย่าง ฉันท้องตอนอายุ 15 ปี ถูกล่วงละเมิด ออกจากโรงเรียนโดยไม่ได้สอบ GCSEs เเละมีเเต่เพื่อนที่ไม่ดี”
“ฉันดีใจนะ ที่รู้ว่าฉันเป็นออทิสติกหลังจากที่มีลูกเเล้ว เพราะฉันไม่รู้ว่าฉันจะกล้ามีลูกไหม ถ้าฉันรู้ตัวก่อน เพราะฉันอาจจะสงสัยว่าฉันเป็นเเม่ที่ดีได้ไหม ฉันโชคดีที่ไม่เคยโดนสอบปากคำจากสังคมสงเคราะห์”
“ฉันยอมรับว่าฉันเป็นออทิสติกเพียงเพื่อที่จะสนับสนุนในลูกสาวของฉันรับมือกับมันได้ เเละก้าวข้ามอุปสรรค์เหล่านั้น เธอสามารถมีครอบครัวเหมือนที่ฉันมีพวกเธอได้ สิ่งที่จะเป็นปัญหาก็คือหากเเม่ที่เป็นออทิสติกไม่ยืนหยัดว่าพวกเขาก็เลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จได้ ”
“เพราะฉันเป็นออทิสติก ฉันจึงเข้าใจว่าหากลูกๆ ต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก เขาจะต้องเจออะไร ฉันจึงเตรียมพร้อมพวกเธอได้ ในทางกลับกันเเม่ที่ไม่ได้เป็นออทิสติกจะมองภาพไม่ออกหรอกว่าลูกที่เป็นออทิสติกจะต้องเจออะไรบ้าง หากไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้รับมือไว้ก่อน”
“เนื่องจากฉันมีประสบการณ์ เเละฉันรู้ว่าคนที่เป็นออทิสติกจะโดนอะไรบ้าง ทารุณกรรมเรื่องอะไรบ้างที่เสี่ยง ฉันจึงต้องหาทางป้องกันไม่ให้ลูกสาวเจอเเบบนั้น เเละฉันก็รู้ว่าหากคนที่เป็นออทิสติกโดนทารุณกรรมเขาจะไม่ปริปากหรอก ดังนั้นฉันจึงต้องหมั่นบอกลูกให้เล่าเรื่องต่างๆ ในเเต่ละวันให้ฉันฟัง เพราะมันสำคัญต่อฉันมากที่จะช่วยให้ลูกๆ ปลอดภัยเเละมีความสุข”
ที่มา theguardian
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!