วัยนี้คือ วัยแห่งการเริ่มเรียนรู้ภาษา สิ่งรอบตัวและความแตกต่างของสิ่งต่าง ๆ
ในช่วงที่ลูกน้อยของเรากำลังหัดพูด หัดสื่อสารและมีกิจกรรมทางร่างกายต่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่อาจยังพบว่า เมื่อเจอหน้าคุณแม่ก็เรียก “แม่” หรือเจอคุณพ่อก็ยังติดอยู่ที่คำว่า “แม่” ได้ แต่ในช่วงอายุ 3 ขวบนี้คือช่วงวัยที่ เริ่มแยกความแตกต่างระหว่างสิ่งต่าง ๆ ได้แล้ว ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการทางด้านการรับรู้ สมองและระบบประสาทเป็นอย่างมาก เพราะในวัยนี้สามารถเรียนรู้ จดจำและแยกแยะความแตกต่างของสิ่งต่าง ๆ พื้นฐานในชีวิตประจำวันได้ดี เช่น สี รูปร่างของวัตถุ ขนาด เป็นต้น เด็กวัยนี้จึงเหมาะสมกับการใช้ หนังสือภาพ เพื่อประกอบการเล่าเรื่องราวหรือสอนสิ่งรอบตัวให้เด็กวัยนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
นอกจากการเรียนรู้ความแตกต่างแล้ว ยังเป็นวัยที่เริ่มมี พัฒนาการทางภาษาชัดเจน เรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ ได้มากขึ้น ออกเสียงได้ชัดเจนขึ้น เพราะพัฒนาการของสมองและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องเริ่มมีความสมบูรณ์ จึงมักพบว่าวัยนี้ช่างคุย ช่างพูดจา รวมทั้งอาจ เริ่มเล่าเรื่องราวที่ประสบผ่านมาได้ เป็นขั้นตอนมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ เด็กวัยนี้จะยังไม่เข้าใจและแยกแยะคำหยาบคาย จึงอาจพบการใช้กลุ่มคำดังกล่าวได้ แนะนำให้ผู้ปกครองสอนให้ใช้คำอื่นๆ ทดแทนเมื่อเด็กมีการใช้กลุ่มคำดังกล่าวออกมาพร้อมแนะนำเหตุผลที่ควรเปลี่ยนการใช้คำ เพื่อให้เด็กเข้าใจ ไม่ควรลงโทษหรือทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี
ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
จะพบได้ว่า ส่วนสูงและน้ำหนักของเด็กวัยนี้จะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเกิดการพัฒนาของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ รวมทั้งเริ่มมีกิจกรรมการเล่นที่ขยับร่างกายมากขึ้น เด็กวัยนี้สามารถ วิ่ง กระโดด ยืนขาเดียว เขย่งเท้า ขึ้นลงบันไดได้อย่างคล่องแคล่ว และถีบจักรยานสามล้อแบบง่ายๆ ได้ จึงควรส่งเสริมให้เด็กได้มีการออกกำลังกายด้วยการเล่นที่ปลอดภัย เพื่อเสริมให้เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้สุขภาพช่องปากเป็นส่วนหนึ่งที่พัฒนาและเปลี่ยนแปลงในวัยนี้ หลังจากฟันน้ำนมขึ้นครบ 20 ซี่ในช่วงอายุ 2-3 ขวบแล้ว จะเริ่มพบว่า ฟันน้ำนมหลุดเพราะฟันแท้เริ่มขึ้นมาในวัยนี้ การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมจึงมีบทบาทต่อการเสริมสร้างสุขภาพฟันแท้ที่แข็งแรงของวัยนี้ และป้องกันปัญหาสุขภาพในช่องปากอื่นๆ ที่อาจพบได้เมื่ออายุมากขึ้น ฉะนั้นการให้ความเอาใจใส่ในการเลือกอาหาร เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้สดเพื่อให้เสริมสร้างสุขภาพช่องปากและเหงือก
นอกจากนี้ ในวัยนี้ควรส่งเสริมให้มีการดื่มน้ำเปล่าเพียงพอและเป็นประจำ จะช่วยในการลดปัญหาฟันผุได้ รวมทั้งลดโอกาสที่เด็กจะเลือกดื่มน้ำหวานหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งทำลายสุขภาพของฟันจากปริมาณน้ำตาล ทำให้ฟันผุ รวมทั้งอีกสิ่งที่สำคัญคือการผลักดันให้เด็กมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น ซึ่งมีบทบาทต่อพัฒนาการของการเจริญเติบโตของเด็ก
เริ่มมีพัฒนาการของการเข้าสังคม
วัยนี้จะเริ่มพบปะกับบุคคลอื่นๆ นอกจากคนในครอบครัว บางครั้งจะพบกับเด็กวัยเดียวกันจากการที่พ่อแม่พาไปอยู่ศูนย์ดูแลเด็ก ซึ่งพฤติกรรมการอยู่กับผู้อื่นจะแตกต่างกันตามบุคลิกของเด็ก เช่น บางคนพึงพอใจที่จะเล่นอยู่คนเดียว ชอบการเฝ้ามองการเล่นของเพื่อนคนอื่นๆ หรืออาจมีกิจกรรมการเล่นด้วยกัน สิ่งสำคัญของช่วงวัยนี้คือ การสอนให้รู้จักการวางตัวกับผู้อื่น การแก้ไขปัญหาแบบง่าย เช่น การสื่อสารบอกอารมณ์หรือความต้องการของตนเองให้แก่ครูผู้ดูแลหรือเพื่อนร่วมห้อง และควรสอนให้รู้จักการมีกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน เช่น แปรงฟัน รับประทานอาหาร หรือเข้านอนเป็นเวลา และผู้ใหญ่สามารถเป็นแบบอย่างทางพฤติกรรมที่ดีได้แก่เด็กในวัยนี้ เพราะวัยนี้จะ มีพฤติกรรมการเลียนแบบ มากขึ้น จึงเหมาะกับการสอนมารยาทและสิ่งที่ควรปฏิบัติ
จะเห็นได้ว่าแม้เป็นระยะเวลาเพียง 3 ปีของเด็กช่วงอายุ 3-5 ขวบ แต่ก็มีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาการของลูกเราเลยทีเดียว ฉะนั้นวัยนี้จึงต้องการการเอาใจใส่ไม่แพ้เด็กเล็กหรือทารกแต่อย่างใด ทั้งทางด้านการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมและสมดุล เลือกผักและผลไม้บริโภคเป็นประจำให้เหมาะสม ดื่มน้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มหลักและส่งเสริมให้ออกกำลังกายหรือมีกิจวัตรประจำวันที่เพียงพอ จะช่วยให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรงและมีพัฒนาการที่สมวัย
Credit : https://whatdidsheeat.in.th/
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!