พาทัวร์ ที่่เที่ยวเบตง ที่ยะลา เมืองน่าอยู่ ตะลุยใต้สุดแดนสยาม
เมื่อพูดถึงยะลา คุณคิดถึงอะไร แน่นอนเป็นที่อื่นไปไม่ได้ นอกจากเบตง วันนี้ เราจะมาแนะนำทัวร์ ที่่เที่ยวเบตง จากเว็บไซต์ wonderfulpackage.com รับรองว่า เมื่ออ่านแล้วคุณจะกดจองตั๋ว ในทันที แน่นอน
เริ่มต้นทริปที่จังหวัดปัตตานี สักการะ วัดราษฎร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้ เป็นวัดเก่าแก่ราว 300 ปี ถือเป็นวัดต้นตำรับของหลวงปู่ทวด ท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัด ในส่วนของสถูปศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอัฐิหลวงพ่อทวด ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดปัตตานีและใกล้เคียง
วัดราษฎร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้
จากนั้นเดินทางต่อ มุ่งหน้าสู่ เขื่อนบางลาง เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำปัตตานี อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์แห่งแรกในภาคใต้ ตามแผนพัฒนาลุ่มน้ำปัตตานี โดยมีการสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2524 และปัจจุบันอยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
เดินทางต่อสู่ อำเภอเบตง อำเภอที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย เมืองใต้สุดปลายด้ามขวาน เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
ระหว่างทางจะได้ลอดและชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขา แห่งแรกของประเทศไทย จุดประสงค์ของการสร้างอุโมงค์แห่งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการ แก้ไขปัญหา ในการขนส่งระหว่างชุมชนเมือง ในปัจจุบัน กับชุมชนเมืองใหม่
เดินทางสู่ สตรีทอาร์ต Street Art แลนด์มาร์ก ของเมืองเบตง สตรีทอาร์ต แห่งนี้ เกิดขึ้นจาก น้ำพักน้ำแรงของ ทีมนักศึกษา และอาจารย์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วาดขึ้น ในงานครบรอบ 111 ปี เมืองเบตง เพื่อสร้างความประทับใจ ให้กับนักท่องเที่ยว และชาวเบตง จึงได้เนรมิตรงานศิลปะ บอกเล่าถึงเรื่องราววิถึชีวิต และสัญลักษณ์ของเมืองเบตง รอบเมืองเบตง ทั้งหมด 11 จุด ทั้งบนผนัง กำแพง ใต้สะพาน และตัวอาคาร หลายจุดรอบเมืองเบตง เป็นแลนมาร์คที่สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ได้เป็นอย่างดี
สตรีทอาร์ต เบตง
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง ที่เมืองเบตงมีโรงแรม สวยๆ เก๋ๆ และน่าพัก มากมาย ให้เลือกก่อนเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกจองได้ตามความชอบ
เช้าวันที่ 2 ตื่นมารับเช้าวันใหม่ที่เบตง และที่พลาดไม่ได้ในยามเช้าคือ จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ในเขตพื้นที่ของ เขาไมโครเวฟ กิโลเมตรที่ 32 เขาแห่งนี้ มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต สามารถเต็มอิ่มกับการชมทะเลหมอก แบบหนา ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ได้อย่างสวยงาม (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
หลังจาก พระอาทิตย์ขึ้นเต็มดวงแล้ว ไปหาที่ถ่ายรูปสวย ๆ ต่อกันที่ สะพานแตปูซู สะพานแขวนไม้เก่าแก่ สร้างข้ามแม่น้ำปัตตานี โดยสะพานแห่งนี้ มีนายมูเซ็ง แตปูซู เป็นผู้บุกเบิก
สะพานแตปูซู
หลังจากได้ภาพอัพโปรไฟล์ใหม่แล้ว ก็เดินทางไปต่อกันที่ น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ชื่อเดิม คือ น้ำตก “วังเวง” หรือ “อัยเยอร์เค็ม” น้ำตกแห่งนี้ เป็นน้ำตก ที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 30 เมตร บริเวณโดยรอบ ปกคลุมไปด้วยพรรณไม้เขียวขจี ในปีมหามงคลครบรอบ 72 พรรษาในปี 2542 องค์การบริหารส่วนตำบล อัยเยอร์เวง ได้เข้ามาาบุกเบิกเส้นทาง และพัฒนาน้ำตกแห่งนี้ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเบตง ได้
เพลินเพลิดกับธรรมชาติสีเขียวจนเต็มอิ่มแล้ว ก็เดินทางสู่ สวนหมื่นบุปผา หรือเรียกว่า สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง สวนแห่งนี้ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว แห่งเดียวในภาคใต้ เนื่องจากเบตงมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ด้วยสภาพภูมิประเทศ ที่อยู่สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ระบบน้ำเพียงพอ จึงมีความเหมาะสม กับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาว เป็นโครงการตามพระราชดำริ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สวนแห่งนี้ มีดอกไม้นานาพันธุ์ บานสะพรั่ง คอยเชื้อเชิญผู้มาเยือน ให้มาแวะสัมผัสความงามแบบหน้าหนาวแห่งเดียวในภาคใต้
หากยังไม่เหนื่อย ก็ไปต่อกันที่ อุโมงค์ปิยะมิตร ในอดีต อุโมงค์แห่งนี้ เคยถูกใช้เป็นฐานในการหลบซ่อนตัว และเป็นแหล่งสะสมเสบียง ในการต่อสู้ ของกลุ่มผู้ขัดแย้งทางการเมือง ในคาบสมุทรมาลายา ในเวลาต่อมา กลุ่มผู้ที่เคยใช้อุโมงค์แห่งนี้ในการพักพิง ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว หากแต่ยังเหลือ ห้องหับ และร่องรอยที่พวกเขาทิ้งไว้ ยังคงถูกจารึกเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง รำลึกถึงอดีตแห่งการต่อสู้อันเจ็บปวด
อุโมงค์ปิยะมิตร
หลังจากนั้น เดินทงต่อสู่ บ่อน้ำร้อนเบตง บ่อน้ำร้อนแห่งนี้ เป็นบ่อน้ำร้อนตามธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย โดยอุณหภูมิของน้ำนั้นอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส และบริเวณที่น้ำเดือด สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 7 นาทีเท่านั้น มีการสร้างสระน้ำขนาดใหญ่สำหรับกักน้ำจากน้ำพุร้อน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ใช้อาบหรือแช่เท้าเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้
วันสุดท้ายในเบตง แนะนำให้เดินถ่ายรูปเล่นบริเวณ หอนาฬิกา สัญลักษณ์ของเมืองเบตง หอนาฬิกาแห่งนี้ ตั้งเป็นศูนย์กลางของสี่แยกวงเวียนกลางเมือง ใกล้ ๆ กันนั้นมี ตู้ไปรษณีย์แห่งอำเภอเบตงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในโลก โดยสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความยากลำบากในการติดต่อสื่อสารระหว่าง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ลักษณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ด้านบนของตู้ได้บรรจุลำโพงไว้ข้างในและเจาะรูกลม ๆ ไว้รอบ ๆ เพื่อกระจายเสียงรายงานข่าวสารของทางราชการ มีอายุรวม 86 ปี
หลังจากอิ่มหนำกับการเดินเล่นในเมืองเบตง อย่างเต็มที่แล้ว ก็สามารถเดินทางสู่ วัดพุทธาธิวาส ซึ่งเป็น วัดที่สวยสด งดงามแห่ง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบตง โดยองค์เจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขา มีทัศนียภาพที่สวยงดงาม มองเห็นภูเขาที่รายล้อมเมืองเบตงอยู่เบื้องหน้า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนนิยมมาสักการะบูชา 3 สิ่ง
หลังจากนั้นเตรียมตัวเมื่อเดินทางออกจากเบตง แล้วอย่าลืมแวะถ่ายรูปกับ ป้ายใต้สุดสยาม ป้ายกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย มีเอกลักษณ์ลายเส้นแผนที่ประเทศไทยสีทองโดดเด่นสลักบนป้ายหินอ่อน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและไม้ดอกไม้ประดับอันงดงาม เป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
ใต้สุดสยาม
และเมื่อเดินทางกลับสู่หาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมปิดทริปด้วยการแวะ ตลาดกิมหยง เป็นตลาดขายของฝาก และของที่ระลึกขนาดใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บนอาคารสองชั้น ริมถนนละม้ายสงเคราะห์ ชั้นบนเป็นร้านขายสินค้า ชั้นล่างเป็นตลาดขายของแห้ง สามารถหาซื้อของฝากได้ตามชอบใจ
ที่มา : www.wonderfulpackage.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
พาลูกเที่ยวใกล้กรุงเทพ ไปเช้าเย็นกลับ ชมหาดสวย น้ำใส ได้ที่บางแสน
ลมหนาวมาแล้ว นักท่องเที่ยวสุดฟิน สัมผัสอากาศบน ยอดดอยอินทนนท์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!