บ่อยครั้งที่แผนการเดินทางท่องเที่ยวเป็นอันต้องล่ม หรือไม่ราบรื่นอย่างใจต้องการ เพราะเจ้าตัวเล็กเกิดป่วยปุ๊บปั๊บก่อนเดินทาง หรือบางรายต้องนอนซมอยู่ในโรงแรมแทนที่จะออกไปตะลุยสวนสนุกตามฝัน
ยิ่งในช่วงวันหยุดยาวที่ใครๆ ต่างก็จองตั๋วเดินทางไปต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสที่จะนำพาเชื้อโรคมาแพร่กระจายข้ามทวีปอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนได้ตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้า จัดเตรียมเสื้อผ้า ของใช้ รวมถึงยาประจำตัวเอาไว้อย่างดีแล้ว แต่พอถึงเวลาเจ็บป่วยขึ้นมา อาจติดปัญหาเรื่องการเดินทางไปโรงพยาบาล การสื่อสาร ไม่มียาเฉพาะทาง หรืออื่นๆ ที่เราไม่คาดคิด ซึ่งการป้องกันเอาไว้ก่อน ย่อมดีกว่ามาแก้ปัญหาภายหลัง จริงไหมคะ ดังนั้น พ่อแม่จะต้องเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพร่างกายของตัวลูกเองก่อนที่จะ พาลูกขึ้นเครื่องบิน ด้วยค่ะ
ข้อดีของการพบแพทย์ก่อนเดินทาง
การพาลูกน้อยไปตรวจสุขภาพก่อนเดินทางควรทำล่วงหน้าอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ค่ะ พ่อแม่บางคนอาจจะคิดว่าการไปหาหมอทั้งๆ ที่ไม่ได้ป่วยนั้นเป็นเรื่องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น แต่อย่าลืมนะคะว่า ภูมิคุ้มกันของเด็กนั้นต่ำกว่าผู้ใหญ่อย่างเรา เพียงแค่หายใจหรือสัมผัสกับเชื้อโรคบางอย่าง ก็มีโอกาสที่จะป่วยและเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายมาก การพาลูกไปพบหมอนั้นถือเป็นโอกาสดีที่จะได้รับฟังคำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางด้วยเครื่องบิน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อลูกน้อย เช่น เรื่องของความกดอากาศที่ทำให้มีอาการปวดหู การใช้ยาหยอดหู หรือกรณีที่ลูกมีโรคประจำตัวก็จะได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีด้วยค่ะ
ฉีดวัคซีน จำเป็นแค่ไหน?
ปกติแล้วเด็กจะได้รับการฉีดวัคซีนมาตรฐานเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตามช่วงระยะเวลาอยู่แล้ว แต่เราก็สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ ได้ ในทุกช่วงอายุ ซึ่งการฉีดวัคซีนก็เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้ ซึ่งแพทย์จะแนะนำวัคซีนให้ลูกตามความเหมาะสม โดยสามารถแบ่งเป็น 2 แบบค่ะ
1. วัคซีนที่จำเป็นต้องได้รับก่อนออกเดินทาง (Required vaccine)
กรณีที่ไปเที่ยวประเทศในแถบแอฟริกาและอเมริกาใต้ จำเป็นต้องได้รับ วัคซีนไข้เหลือง ก่อนเดินทางอย่างน้อย 10 วัน ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (WHO IHR) หรือหากเดินทางไปประเทศแถบเอเชียใต้ เช่น อินเดียเนปาล บังกลาเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงในการติดโรคไทฟอยด์สูงก็จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคไทฟอยด์เอาไว้ก่อนนะคะ
2. วัคซีนที่ใช้ตามความเหมาะสม (Recommended vaccine for travelers)
แพทย์จะพิจารณาการให้วัคซีนจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น ประเทศนั้นมีแนวโน้มเสี่ยงต่อโรคหรือติดเชื้อมากแค่ไหน ระยะเวลาในการเดินทาง กิจกรรมที่จะไปทำ เช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ วัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น วัคซีนป้องกันโรคอหิวาตกโรค วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้นค่ะ
เช็คด่วน! สัญญาณเตือนลูกอาจกำลังป่วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนเดินทาง 1-2 สัปดาห์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่พ่อแม่ต้องเอาใจใส่และพยายามสังเกตความผิดปกติของลูกอย่างใกล้ชิดด้วยค่ะ สัญญาณเตือนอันดับแรกๆ ว่าร่างกายกำลังอ่อนแอและอาจเจ็บป่วยก็คือ ตัวร้อน นั่นเอง ปกติอุณหภูมิร่างกายของเด็กจะอยู่ประมาณ 36.5-37.5 องศาเซลเซียส แต่ถ้าสูงกว่านั้นแสดงว่าเจ้าตัวเล็กมีไข้แล้วล่ะค่ะ อาการที่พบร่วมด้วยก็คือ เซื่องซึม หงอย ไม่สนใจสิ่งเร้ารอบตัว ไม่ยอมดูดนม บางรายอาจร้องไห้โยเย กระสับกระส่าย ให้พ่อแม่ระบายความร้อนหรือลดไข้ด้วยการเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น ดื่มน้ำมากๆ และนอนพักผ่อนเยอะๆ แต่ถ้าพบว่าลูกเริ่มไอ จาม มีน้ำมูก อาเจียน ท้องเสีย หายใจขัด รวมไปถึงผิวหนังมีผื่นแพ้ต่างๆ ควรพาไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษาต่อไปค่ะ
พอจัดการเรื่องสุขภาพของเจ้าตัวเล็กเรียบร้อยแล้วก็มาเตรียมจัดกระเป๋ากันออกเดินทางกันโดยไม่ต้องห่วงว่าลูกจะงอแงระหว่างทางได้เลยค่ะ โดยเฉพาะครอบครัวที่เดินทางกับสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งเข้าใจธรรมชาติของเด็กอย่างดีเยี่ยม จึงได้จัดเตรียมบริการพิเศษเพื่อให้เด็กๆ ได้สนุกสนานตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาสัตว์ Fly with me สุดแสนน่ารักที่มีมากถึง 4 คาแรคเตอร์ ของเล่นเสริมพัฒนาการในกระเป๋า Fly with Me Lonely Planet และ ระบบความบันเทิงบนเที่ยวบิน ice ที่ได้รับรางวัลการรันตีระดับโลก ซึ่งคัดสรรช่องการ์ตูนกว่า 100 ช่อง และความบันเทิงอีกมากมาย เพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและสร้างแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของนักเดินทางตัวน้อยๆ แม้แต่เมนูอาหารก็ยังเลือกสรรมาเป็นพิเศษ และขาดไม่ได้เลยก็คือ ของใช้สำหรับทารกและเด็กเล็ก เช่น เปลเด็ก ยางกัด ขวดนม ผ้าอ้อม ฯลฯ เรียกว่ามีพร้อม ครบครันทุกความต้องการของเด็กๆ และพ่อแม่เลยล่ะค่ะ
การ พาลูกขึ้นเครื่องบิน ถือเป็นก้าวแรกของการเดินทางไกล ลูกจะได้เรียนรู้โลกกว้าง สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่บนท้องฟ้า และยังสร้างความรักความผูกพันในครอบครัวได้เป็นอย่างดีค่ะ ฉะนั้น มาสร้างประสบการณ์แสนสนุกให้กับลูกน้อยตั้งแต่ไฟลท์แรกกันเลยนะคะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการเสริมสำหรับเด็กและเด็กแรกเกิด สามารถเข้าชมได้ที่ www.emirates.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!