เด็กศีรษะเล็กอาจไม่ได้เกิดจากไวรัสซิกาเพียงอย่างเดียว

เด็กศีรษะเล็กที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น บ้างก็เกิดจากพันธุกรรม บ้างก็เกิดจากไวรัส แต่ยังมีบ้างที่ไม่สามารถทราบสาเหตุ

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษาของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ได้ระบุว่า ทารกพิการแต่กำเนิดนั้นมีหลายสาเหตุ ที่ผ่านมามีแพทย์และนักวิทยาศาสตร์หลายคนได้รวบรวมข้อมูลจากประเทศต่าง ๆ และมีการนำมาเสนอเมื่อไม่นานมานี้ โดยยกตัวอย่างเด็กศีรษะเล็กกว่า 40 เปอร์เซ็นเกิดจากเชื้อโรค ตัวอย่างเช่น เชื้อไวรัสซีเอ็มวี พยาธิในแมว ซิลิลิส และไวรัสซิกาก็เป็นหนึ่งในสาเหตุนั้น แต่ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นไม่สามารถหาถึงสาเหตุการเกิดได้

เด็กหัวเล็ก ไวรัสซิกา

สำหรับประเทศไทยนั้น ยังไม่สามารถทราบได้ว่ามีเด็กที่พิการมาตั้งแต่กำเนิดโดยมีศีรษะโตมากน้อยเพียงใด โดยตอนนี้ทางโรงพยาบาลเด็กกำลังทำฐานข้อมูลให้มีการรายงาน และขึ้นทะเบียนภาวะทารกพิการแต่กำเนิดทุกประเภทอยู่ “สถานการณ์เด็กพิการศีรษะเล็กในแต่ละประเทศนั้นไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยปัจจัยที่สำคัญคือ แค่ไหนถึงจะเรียกว่าศีรษะเล็กผิดปกติ ดังนั้น องค์การอนามัยโลกจึงให้แต่ประเทศจัดทำแนวทางของตัวเอง ซึ่งเรื่องขนาดของศีรษะนั้น จะขึ้นอยู่กับเพศด้วย เนื่องจากศีรษะของเพศชายนั้นจะใหญ่กว่าเพศหญิง”

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี ยังกล่าวอีกว่า ภาวะศีรษะเล็กนั้นเกิดจากการติดเชื้อคนละตัว และอาจจะมีความรุนแรงของโรคต่างกัน ซึ่งในกรณีของไวริสซิกานั้น ถือเป็นกลุ่มอาการใหม่ ที่พบว่าเชื้อจะเข้าไปจู่โจมที่สมองแต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะช่วงที่เซลล์สมองกำลังแบ่งตัวและกำลังพัฒนาในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์เชื้อไวรัสจะสามารถจู่โจมได้ง่าย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะได้รับเชื้อในช่วงใดก็นับว่าเป็นปัญหาทั้งสิ้น

ในขณะเดียวกันยังพบว่ามีโรคอื่นอีกที่ทำให้เด็กศีรษะเล็ก ยกตัวอย่างเช่น โรคหัดเยอรมัน โรคซีเอ็มวี โรคพยาธิในแมว ซิฟิลิส เป็นต้น “เด็กที่คลอดออกมาและมีศีรษะเล็กนั้น อาจจะไม่มีอายุยืนยาวเท่ากับเด็กปกติ เพราะมีความผิดปกติในหลาย ๆ อย่าง และการรักษาที่ดีที่สุดก็คือ การรักษาตามอาการ ส่วนที่เหลือนั้นต้องให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่ก็ไม่มีทางหายขาด” รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ความรุนแรงของอาการก็ขึ้นอยู่กับเชื้อที่ได้รับไปนั้นมากน้อยเพียงใด หากมีปัญหาการได้ยิน ก็ใส่หูฟัง และการที่เด็กมีศีรษะเล็กนั้นจะทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เนื้อสมองถูกทำลาย และเกิดแผลเป็นข้างใน จึงเป็นเหตุให้เด็กมีภาวะชักเกร็ง จำเป็นต้องได้รับยากันชัก แต่ปัญหาก็คือ เด็กอาจจะมีปัญหาเรื่องการกลืนอาหาร สำลักอาหารได้ง่าย และอาจเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายถึงชีวิต

คุณพ่อคุณแม่คะ และเพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้นนั้น คุณพ่อคุณแม่จะต้องอย่าลืมรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และทานโฟเลตอย่าได้ขาดเลยนะคะ

ที่มา: DailyNews

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

สิ่งที่แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงถ้าไมอยากให้ทารกพิการ

แม่ท้องขาดกรดโฟลิค ทำให้ลูกเสี่ยงพิการและพัฒนาการล่าช้า

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!