อวดผัว โชว์หวาน เพ้อเจ้อเรื่องรักบลาๆๆ : งานวิจัยบอกว่าแท้จริงแล้วมีปัญหาชีวิคู่หรือจะจริง !
สื่อออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็เป็นอันต้องโพสต์ภาพต่างๆ อวดเพื่อนๆ บนโลกโซเชียลอยู่เสมอ หลายคนอยากจะเผยไลฟ์สไตล์และชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวันของตัวเองให้คนอื่นได้รู้ หรือบางคนก็โพสต์อะไรหลายๆ อย่างเพื่อแอบแฝงเจตนาเอาไว้ เช่น การอวดของกิน อวดสิ่งของเครื่องใช้ รวมไปถึงอวดผัวก็เช่นกัน อวดผัว โชว์หวาน เพ้อเจ้อเรื่องรักบลาๆๆ เรามาดูกันดู เค้ามีปัญหาอะไนในความสัมพันธ์
# แสดงออกทางสื่อออนไลน์เพื่อกลบปัญหาและรักษาปมตัวเอง
แต่รู้ไหมเอ่ยว่า มีผลการวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Personality and Social Psychology Bulletin ซึ่งได้กล่าวถึงกลไกทางจิตวิทยาว่า การที่ผู้คนเหล่านั้นได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาลงบนสื่อออนไลน์ นั่นหมายความว่า พวกเขากำลังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตนอีกทั้งพวกเขายังต้องการย้ำเตือนให้คนรู้จักได้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของเขากับคนรักยังดีอยู่ ทั้งที่จริงๆ แล้ว พวกเขาไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย
# หรือมันก็แค่… วาดภาพตัวเองในแบบที่อยากให้เห็น
โดยผู้วิจัยยังบอกอีกว่า “ในชีวิตประจำวันหากผู้คนรู้สึกไม่มั่นใจในความรักของตัวเอง พวกเขาก็จะมีแนวโน้มในการทำให้ความสัมพันธ์ของตัวเองสามารถมองเห็นได้ ซึ่งเหมือนกับเป็นการวาดภาพตนเองในแบบที่อยากให้ผู้อื่นมองเห็นนั่นเอง” พูดง่ายๆภาษาชาวบ้านมันคือการสร้างภาพนั่นเอง
การทดสอบ 3 ครั้งในงานวิจัยได้ผลดังนี้
โดยในการทดสอบครั้งแรก การทดสอบครั้งที่ 1 ผลปรากฎว่า พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงความกังวลเหล่านี้ได้ เพราะคิดว่าความสัมพันธ์ของตนกำลังไม่มั่นคง ดังนั้น จึงต้องทำการโพสต์อวดความสัมพันธ์ของตัวเอง อวดความรักกันดี เพื่อเน้นย้ำให้ผู้อื่นรู้ว่าความรักของตนยังคงดีอยู่
- ไม่โพสต์อะไรคือไม่มีปัญหาทุกอย่างยังดีอยู่
การทดสอบครั้งที่สอง ทางด้านนักวิจัยได้ให้อาสาสมัครจดจำช่วงเวลาที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับคนรัก เนื่องจากผู้ทดสอบอยากจะเห็นว่า ความทรงจำที่กระตุ้นความกังวลเหล่านี้ จะมีผลต่อความสัมพันธ์อย่างไร และผลที่ได้คือ ผู้ที่มีความกังวลมาก อยากที่จะเห็นความสัมพันธ์ของตนเองดีขึ้น ในขณะที่คนที่ไม่กังวลเลยกลับอยากหลีกเลี่ยง และไม่อยากให้คนอื่นเห็นความสัมพันธ์ของเขา
- ชีวิตรักที่ดีคือชีวิตรักที่ไม่เยอะในโลกกอนไลน์
สำหรับการทดสอบครั้งที่สาม เป็นการสำรวจแบบออนไลน์เป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งผลการทดลองในครั้งนี้ เหมือนกับผลการทดสอบครั้งแรก
ที่มา : www.catdumb.com,hellogiggles.com
บทความเกี่ยวข้อง
สะกิดสามีให้อ่าน เตรียมตัวเป็นพ่อคน สิ่งที่หมออยากบอกคุณพ่อมือใหม่
พ่อแม่เลิกกันลูกควรเป็นของใคร ปัญหาไม่ใหญ่แต่เถียงกันไม่จบ! เคลียร์ชัดที่นี่!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!