คุณแม่ Valentina Milluzzo วัย 32 ปี เธอตั้งครรภ์ลูกแฝดได้เพียง 19 สัปดาห์ (เกือบ 5 เดือน) และ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะคลอดก่อนกำหนด จึงจำเป็นต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่กลับพบว่า หนึ่งในลูกแฝดของเธอมีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ ทำให้ร่างกายของเธอแย่ลงไปด้วยและ หมออิตาลี ไม่ทำแท้ง ให้
ทนายความประจำครอบครัว เปิดเผยว่าคุณ หมออิตาลี ไม่ทำแท้ง ทารกในครรภ์ ทั้งที่วิธีนี้เป็นการรักษาชีวิตของ Valentina Milluzzo พร้อมอ้างคำพูดของหมอที่ว่า ตราบใดที่เด็กยังมีชีวิตอยู่ หมอก็ไม่เข้าไปแทรกแซง
จากการตัดสินใจของหมอในครั้งนั้น Valentina ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการแท้งอยู่หลายชั่วโมง และเสียชีวิตในอีกวันต่อมา
อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลได้โต้แย้งข้อกล่าวหานี้ของทางครอบครัว โดยระบุว่าทางทีมแพทย์ต่อต้านเรื่องการทำแท้ง แต่ถ้ากระบวนการทำแท้งนั้นจำเป็นจริงๆ ทางโรงพยาบาลจะเชิญคุณหมอจากโรงพยาบาลอื่นมาดำเนินการต่อไป ทั้งยังแจ้งด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแท้งเอง หรือการแท้งโดยธรรมชาติ (spontaneous abortion)
การทำแท้งเมื่อตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ในอิตาลีนั้น ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ยกเว้นว่าชีวิตของแม่และทารกในครรภ์อยู่ในความเสี่ยง นอกจากนี้ ยังมีรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ด้วยว่า 70% ของหมอในอิตาลี จะปฏิเสธการทำแท้ง เนื่องด้วยเป็นประเทศคาทอลิก และล่าสุด พนักงานอัยการอิตาลีได้เริ่มไต่สวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
สาเหตุของการแท้งบุตร
เป็นเรื่องน่าเศร้า หากการตั้งครรภ์ต้องจบลงด้วยการแท้งลูก ผลการศึกษาบอกว่า หลายๆ ครอบครัวต้องเผชิญกับการแท้งบุตร มากถึง 25% ของการตั้งครรภ์จบลงด้วยการแท้ง ซึ่งการแท้งบุตรมักจะเกิดขึ้นในช่วง 13 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่แม่ท้องทุกคนจะต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
สำหรับสาเหตุของการแท้งบุตรนั้น เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย
1.ปัญหาสุขภาพของผู้เป็นแม่ ปัญหาเรื่องฮอร์โมน หรือการติดเชื้อ
2.การสูบบุหรี่ ใช้ยาเสพติด ภาวะขาดสารอาหาร แม้แต่การอยู่ใกล้หรือไปสัมผัสกับสารเคมี ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แท้งได้
3.อายุของแม่ตั้งครรภ์ ยิ่งแม่ตั้งครรภ์ตอนอายุมากก็ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเพิ่มโอกาสในการแท้งได้
4.มดลูกแตกในขณะตั้งครรภ์
สัญญาณเตือนเสี่ยงแท้งของแม่ท้อง
– เจ็บหลังมากผิดปกติ มากกว่าตอนปวดประจำเดือนเสียอีก
– น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
– มดลูกหดรัดตัวถี่ๆ ทุก 5-20 นาที
– มีเลือดไหลออกมาเป็นสีแดงหรือน้ำตาล และเลือดไหลออกมากจนน่าตกใจ
ผลของการทำแท้ง ในทางโลกและทางธรรมมีอะไรบ้าง
ผลแห่งการทำแท้ง นั้นมีแต่ผลเสียมากมายที่จะตามมาภายหลัง หลังจากที่ได้ทำแท้งลูกไปแล้วไม่ว่าจะทำด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
ก่อนทำแท้งคิดเยอะๆ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเด็นนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่ค่อนข้างจะอ่อนไหวในสังคมไทยค่ะ เนื่องจากขัดต่อกฎหมาย เเละขัดต่อศีลธรรมไทย เเต่ก็คงพูดไม่ได้เต็มปากอีกเช่นกันว่า ในสังคมไทยนั้นการทำเเท้งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากหากต้องการทำเเท้งจริงๆ นั้น เพียงเเค่เสิร์ชในอินเตอร์เน็ต ทั้งที่ตั้ง ทั้งการซื้อยา ก็ขึ้นมาเพียบเเล้ว กลับกันในประเทศที่มีกฎหมายให้ทำเเท้งได้ กลับมีการตรวจสอบเเละขั้นตอนที่เยอะเเละยากกว่า เเต่อย่างไรก็ตามหากเชื่อในเรื่องของการกระทำเเละผลที่เกิดตามมา ก็ควรจะอ่านบทความนี้ค่ะ
ผลในทางโลก หรือผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ
การทำแท้งนั้นนอกจากจะสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งให้กับผู้เป็นมารดาที่ได้กระทำแล้วไม่ว่าจะทำแท้งด้วยวิธีการใดก็ตาม จะก่อผลกระทบทางสุขภาพต่อมาอีกหลายประการโดยเฉพาะบริเวณมดลูกและปากมดลูก
เพราะบริเวณที่ได้รับผลกระทบการทำแท้งนั้นมีผลที่รุนแรงพอสมควร ส่งผลให้ผู้ที่ทำแท้งอาจมีอาการอักเสบติดเชื้อต่าง ๆ ตามมาต้องทำการรักษากันอย่างต่อเนื่องหากการทำแท้งนั้นทำไม่ถูกวิธีและทำโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ และอาจกลายเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งมดลูกที่ต้องทำการตัดมดลูกทิ้ง
นอกจากนั้นยังสร้างผลกระทบทางจิตใจคือ ก่อให้เกิดความรู้สึกเสียใจและเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งให้กับหญิงที่ได้กระทำแท้งไปแล้วกลายเป็นความรู้สึกผิดบาปอยู่ในใจไปตลอดชีวิตซึ่งบางรายอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้
รม
การทำแท้งนั้นเราอาจมองในมุมมองวิทยาศาสตร์ว่าเป็นการทำลายสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งในทางธรรมแล้วไม่ใช่แค่การทำลายชีวิตที่เป็นเลือดเนื้อแต่เป็นการทำให้ดวงจิตวิญญาณของเด็กที่ตายนั้นเขาไปไหนไม่ได้ และดวงวิญญาณนั้นจะอยู่กับแม่ตลอดซึ่งเขาจะทนทุกข์ทรมานมาก
ดังที่กล่าวไปแล้วว่า ดวงวิญญาณของเด็กที่ตายส่วนมากจะเกาะติดแม่ตลอด บางดวงวิญญาณก็จะมาเกาะคอ ขี่หลัง เกาะที่เท้าหรือเดินตามไม่มีห่าง แต่เวลาที่แม่ไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือเข้าบ้านที่มีเจ้าที่เจ้าทางคุ้มครองดูแลอยู่ เขาไม่สามารถที่จะเข้ามาในเขาก็จะกระโดดเกาะอยู่ตามขอบรั้ว ตามขอบกำแพงบ้าง
สมมุติว่าจิตวิญญาณดวงนี้มีอายุถึง 70 ปี ตามอายุขัยของเขาในชาตินี้เด็กคนนี้ก็จะต้องเร่ร่อนไป เกือบ 70 ปีนั้น โดยที่ผลบุญไม่ปรากฏและผลบาปก็ไม่ปรากฏเพราะเขาไม่มีโอกาสจะได้ทำการใดๆ ทั้งสิ้น
ครูบอาจารย์บางท่านจึงกล่าวว่า การทำแท้งนั้นมีบาปมากอาจจะเทียบเท่ากับการฆ่าพระอรหันต์ เหตุเพราะ เด็กในครรภ์นั้นยังมีความบริสุทธิ์ ยังเคยได้สร้างบาปกรรมใดๆ เลย และไม่มีเหตุปัจจัยของการสร้างกรรม ชีวิตของเขาจึงบริสุทธิ์ดั่งพระอรหันต์
ดังนั้น การทำแท้งฆ่าเด็กทารกในครรภ์หนึ่งคนจึงอาจจะมีบาปเทียบเท่ากับฆ่าพระอรหันต์หนึ่งพระองค์ การฆ่ามนุษย์นั้นว่าบาปมากแล้วแต่การฆ่าเด็กทารกที่บริสุทธิ์เป็นบาปหนักยิ่งกว่า ซึ่งก็เป็นไปตามหลักความหนักของกรรมว่าด้วย วัตถุ ประโยคและเจตนาอีกทีหนึ่ง
หากว่ากันตามหลักของ “วัตถุกรรม” นั้น คือ เด็กที่จะมาเกิดเป็นลูกเราบังเอิญว่าเป็นผู้มีภูมิธรรมขั้นสูงมาเกิดหรืออาจจะเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมามาเกิดเสวยชาติ หรือเป็นอภิชาตบุตร บาปจะยิ่งหนักมากขึ้น
ถ้าว่ากันด้วยหลักของ ประโยคกรรม หรือความพยายามมีความพยามมากเท่าใด กรรมหนักก็จะหนักยิ่งขึ้นไปตามความพยายามที่จะทำแท้งให้สำเร็จมากเท่านั้น
และถ้าจะว่ากันด้วยหลักของ “เจตนากรรม” คือถ้าเจตนามากต้องการให้เด็กตายโดยไม่สำนึกเสียใจเลย กรรมหนักก็จะมากดังนี้เป็นต้น
พระพุทธองค์นั้นทรงตรัสถึงโทษที่สตรีผู้ทำแท้งจะต้องได้รับหลังตายไว้ว่า
“ขุราธารมนุกฺกมฺม ติกฺข ทุรภิสมฺภวํ ปตนฺติ คพฺภปาตินิโย ทุคฺคํ เวตฺตรณี นทึ อโยมยา สิมฺพลิโย โสฬงฺคุลิกณฺฏกา อุภโต อภิลมฺพนฺติ ทุคฺคํ เวตฺตรณึ นทึ”
แปลความหมายว่า หญิงที่ทำแท้งนั้นต้องตกนรก ย่างเหยียบบนคมมีดอันคมกริบที่ไม่น่ารื่นรมย์ แล้วตกไปในแม่น้ำชื่อว่า “เวตตรณี” ซึ่งปีนขึ้นฝั่งได้ยาก เพราะมีต้นงิ้วที่มีหนามเป็นเหล็กห้อยย้อยปกคลุมอยู่ทั้งสองฝั่ง
อ้างอิงจาก พระไตรปิฎก( มจร.)เล่มที่ ๒๘ หน้า ๓๗
ผลกรรมที่อาจจะตกกับตัวผู้เป็นแม่
ผลกรรมจากการทำแท้งนั้น ขณะมีชีวิตอยู่ผู้เป็นมารดาอาจจะได้รับผลกรรมสนองจากโรคร้ายต่าง ๆ เช่น มีอาการป่วยหนักหรือมีอาการป่วยแบบแปลก ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่ไปทำแท้งมา มักจะมีอาการปวดเมื่อยตามลำคอ ตามแขน ตามบ่า เพราะจิตวิญญาณของเด็กนั้นอาจจะห้อยโหนอยู่ในบริเวณนั้นอยู่ตลอดเวลา
แต่เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วดวงจิตวิญญาณไม่สามารถเข้าไปได้เพราะบ้านแต่ละหลังก็มีเจ้าที่มีผีบ้านผีเรือน ก็จะต้องเกาะอยู่ตามประตูรั้วบ้าน กำแพงบ้านแล้วก็ล่องลอยอยู่ตรงนั้น คือ พวกสัมภเวสีต่างๆ ที่อยู่บริเวณด้านนอก ก็จะเข้ามาทำร้ายจิตวิญญาณของเด็กน้อยนั้นด้วย ทำให้วิญญาณของเด็กเหล่านั้นเพิ่ม ความโกรธ ความแค้น ความอาฆาต ต่อบิดามารดามากขึ้นไปอีก
การที่ดวงวิญญาณของเด็กมาผูกติดกับผู้เป็นแม่เช่นนี้ก็เพราะ วิญญาณหรือจิตของเด็กนั้นต้องมาตาย อยู่ในท้องของผู้หญิง ดวงจิตวิญญาณพอหลุดออกมาจากครรภ์แล้วเขาก็จะคิดว่าผู้หญิงที่เป็นแม่นั้น เป็นผู้ทำกรรมต่อเขา จึงมีความอาฆาตพยาบาท จึงเกาะติดกับผู้หญิงคนนี้ไปอยู่ตลอด
และแน่นอนว่าเมื่อมีวิญญาณที่มีจิตอาฆาตมาผูกติดอยู่เช่นนี้ตัวผู้เป็นแม่อาจจะประสบเคราะห์กรรมต่าง ๆได้อย่างไม่คาดฝันนอกจากจะมีโรคร้ายคุกคามแล้ว ชีวิตส่วนตัวหน้าที่การงานอาจจะประสบความยากลำบากไปด้วยหรือ มีผลต่อบุตรที่เกิดมาแล้วลูกที่เกิดมาอาจพิการ,ดื้อรั้นไม่เชื่อฟังและคอยสร้างปัญหาให้กับผู้เป็นแม่อยู่ตลอด ฯลฯ
ผลกรรมที่อาจจะตกอยู่กับตัวผู้เป็นพ่อ
แม้จะกล่าวว่าผลกรรมอาจตกอยู่กับตัวผู้เป็นแม่มากกว่าแต่คนที่เป็นพ่อนั้นก็ถือว่าเป็นผู้ที่ได้สร้างกรรมร่วมกันมาไม่อาจจะปฏิเสธความจริงในข้อนี้ได้ คนเป็นพ่อนั้นอย่าได้คิดย่ามใจเพียงเพราะว่าตนไม่ได้เป็นฝ่ายตั้งครรภ์และรับภาระเช่นเดียวกับฝ่ายหญิงไม่มีโอกาสที่วิญญาณจะตามติดเหมือนผู้เป็นแม่ แต่อย่างไรก็ตามต้องได้รับผลกรรมที่ตนเองกระทำไปเช่นเดียวกัน
เมื่อเป็นผู้ร่วมกระทำกรรมนั้นร่วมกัน ก็จะส่งผลกรรมที่มีต่อชีวิตได้อย่างไม่คาดฝันเพราะการทำแท้งนั้นเป็นกรรม “ปาณาติบาต” อาจส่งผลให้อายุสั้นกว่าวัยอันควร,มีโรคร้ายรุมเร้า, ถูกขัดขวางไม่ให้พบความเจริญ,เกิดความฉิบหายมาสู่ตนอย่างหาสาเหตุไม่ได้,กลายเป็นคนที่ไม่มีใครเชื่อถือ ทำงานอะไรก็จะพบกับความยากลำบากมาก ถ้าสำเร็จได้ก็เพราะบุญเก่ามากเท่านั้น และอาจจะต้องมีเหตุให้พบกับเรื่องที่ทำให้เสียเงินโดยไม่คาดคิดอยู่เสมอหรือชีวิตครอบครัวมีปัญหาอยู่ตลอดเวลา
และยิ่งถ้าหากจิตวิญญาณของเด็กผู้ตายนั้นมีจิตอาฆาตพยาบาทรุนแรงด้วยแล้วยิ่งลำบากหนัก เพราะจิตอาฆาตนั้นจะเฝ้าจองเวรกันทุกลมหายใจเข้าออก ทำให้ชีวิตไม่เป็นสุขทุกข์ทรมานต้องพบกับความล้มเหลวอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือบางท่านบางรายก็ต้องพบแต่ความทุกข์ระทม ล้มละลายทั้งชีวิตการงานและชีวิตครอบครัวหาความสงบสุขได้ยาก ต้องชดใช้กรรมกันไปอย่างยาวนานจนกว่าแรงกรรมนั้นจะได้ชำระกันจนหมดสิ้น หรือ จนกว่าเป็นที่พึงพอใจของจิตวิญญาณนั้น จนในที่สุดก็จะยกให้เป็นอโหสิกรรม
ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า “ทำแท้งมาหนึ่งครั้ง ชีวิตตกต่ำไปอย่างน้อยอีก 7 ปี” จึงไม่ใช่คำพูดลอย ๆที่เอาไว้ขู่ให้กลัวหรือเป็นคำพูดที่ไร้สาระเลยแม้แต่น้อย
ที่มา : bbc.com และ ph.theasianparent.comและ https://th.theasianparent.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ภัยในร้านอาหาร เมื่อลูกเกือบกลืนเศษพลาสติกลงคอ
เห็นเด็กสำลักอาหาร ไม่มีใครช่วยเพราะมัวแต่ถ่ายรูป
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!