ย้อนกลับไปสมัยยังเป็นเด็ก หลาย ๆ คนเติบโตมากับการ์ตูนดิสนีย์ เรื่องราวของเจ้าหญิง เจ้าชาย ปราสาทอันโอ่อ่า วิจิตรตระการตา ยังมีอีกหนึ่งเรื่องราวของชายหนุ่มที่ไม่ได้เป็นเจ้าชาย และไม่ได้เกิดในตระกูลสูงส่ง หากแต่เขาได้รับพรวิเศษ เปลี่ยนจากหัวขโมย ให้กลายเป็นผู้ครองหัวใจเจ้าหญิงได้ในพริบตา ชายหนุ่มผู้มีนามว่า อะลาดิน ( Aladdin ) อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
The Asianparent ชวนออกตามหา ข้อคิดที่ได้จาก พร 3 ข้อของ อะลาดิน ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของตะเกียงวิเศษ ไปพร้อม ๆ กัน
พรจากตะเกียงวิเศษ และจินนี่เพื่อนยักษ์เปลี่ยนชีวิตของ อะลาดิน ในพริบตา จากหัวขโมยสู่ผู้ครองหัวใจเจ้าหญิงจัสมิน มาดู ข้อคิดที่ได้จาก พร 3 ข้อของ อะลาดิน กัน
อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
ที่ผ่านมา เรารู้จัก “อะลาดิน” ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ ออกมาในรูปแบบลายเส้นของนิทาน การ์ตูน ภาพยนตร์ที่เป็นคนแสดง และละครเวทีสุดยิ่งใหญ่ Aladdin The hit broadway musical ที่สร้างความประทับใจให้คนดูกว่า 1.4 ล้านคน ทั้งในประเทศออสเตรเลีย ประเทศนิวซีแลนด์ และประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2019
แม้ว่านิยายอมตะเรื่องนี้ จะถูกสร้างออกมาหลายครั้ง ได้รับการดัดแปลงเนื้อหา เรื่องราวให้เข้ากับยุคสมัย แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับอะลาดินเสมอมา ก็คงจะเป็นบทเพลงที่ยังอยู่ในใจของทุกคนอย่าง A Whole New World ที่สะกดใจด้วยทำนอง และเนื้อหา เพียงแค่จังหวะดนตรีแรก ก็รู้สึกราวกับล่องลอยไปบนท้องฟ้าแสนกว้างใหญ่ บนผืนพรมวิเศษ เฉกเช่นเดียวกับจัสมิน และอะลาดิน
เพลง A Whole New World เวอร์ชั่นล่าสุด (2019) จากดิสนีย์
บทความที่เกี่ยวข้อง 10 เพลงดิสนีย์ จังหวะสนุก ความหมายดี ฟังเพลิน แฮปปี้ได้ทุกสถานการณ์
ข้อคิดดี ๆ และสิ่งที่ได้จากพร 3 ข้อ ของอะลาดิน อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
กล้าที่จะฝัน
ภาพของชายหนุ่มที่ชื่ออะลาดินในความทรงจำของทุกคน คงจะมาพร้อม ๆ กับตะเกียงวิเศษที่ขอพรได้ 3 ข้อ หากชายหนุ่มไม่กล้าที่จะขอพรจากจินนี่ ตอนจบของอะลาดินอาจจะไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้ง เฉกเช่นที่เคยดูมา ข้อคิดหนึ่งที่ได้จากการ์ตูนดิสนีย์เรื่องนี้ ก็คือ การยอมรับหัวใจตัวเอง และอนุญาตให้ตัวเองได้ฝัน ไม่มีความปรารถนาใดที่สมควรถูกทอดทิ้ง เช่นเดียวกับที่จินนี่ในตะเกียงวิเศษ เสกสร้างพรทุกข้อให้อะลาดินสมปรารถนา แม้ว่าจะต้องเตือนสติชายหนุ่มบ้างในบางครั้งก็ตาม
อย่าลืมที่จะเป็นตัวเอง
ทั้งอะลาดิน และจัสมิน ได้มอบบทเรียนอีกบทหนึ่งให้กับผู้ชมทุกคน นั่นคือ อย่าลืมที่จะเป็นตัวเอง หากยังจำกันได้ พรอีกข้อหนึ่งที่อะลาดินขอ หลังจากถูตะเกียงเป็นครั้งที่ 2 ก็คือ ขอเป็นเจ้าชายจากต่างแดนสักครั้ง เพื่อหวังจะพิชิตใจเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์อย่างจัสมิน ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ชายจรจัดอย่างอะลาดิน จะวางตัวเป็นเจ้าชายได้ในข้ามคืน จึงต้องลำบากจินนี่เพื่อนรัก คอยจัดแจงกิริยาท่าทางให้ ราวกับเป็นผู้รอบรู้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว อะลาดินก็ไม่อาจวางตัวเป็นเจ้าชายได้ตลอดไป เขาเป็นเพียงชายหนุ่มยากจน จิตใจดี ที่ช่วยเหลือผู้ยากไร้คนอื่น ๆ ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกสักเท่าไหร่
” Tell me, princess, now when did you last let your heart decide? “
” บอกทีสิ เจ้าหญิง ครั้งสุดท้ายที่เธอยอมเลือกตามหัวใจ คือเมื่อไหร่กัน ? “
– ท่อนหนึ่งของเพลง A Whole New World จากเรื่อง อะลาดิน กับ ตะเกียงวิเศษ
จัสมินเองก็เช่นกัน ด้วยสถานะอันสูงส่งของเจ้าหญิง แม้ว่าเธอจะขีดให้อยู่ในกรอบทองของสตรีผู้สูงศักดิ์ หากแต่ตัวตนของจัสมินนั้น เต็มไปด้วยความกล้าหาญ และรักในอิสระ รอยยิ้มของจัสมินปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัด ในครั้งที่เธอหนีออกจากวัง และได้พบผู้คนมากมาย ราวกับเป็นโลกใบใหม่ ความสุข และการตัดสินใจของจัสมิน จึงอาจเกิดขึ้นจาก ณ จุดนั้น
ภาพจากละครเวที Aladdin The hit broadway musical : รอยยิ้มของจัสมินปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัด ในครั้งที่เธอสามารถปลดปล่อยความกล้าหาญในการใช้หัวใจตัดสิน ราวกับเป็นโลกใบใหม่ ความสุข และการตัดสินใจของจัสมิน จึงอาจเกิดขึ้นจาก ณ จุดนั้น
ระวังความลุ่มหลงในพรวิเศษ
ระหว่างที่นั่งดูชายหนุ่มเจ้าของตะเกียงวิเศษ ค่อย ๆ นึกถึงสิ่งที่อยากได้ หลาย ๆ คนก็คงจะคิดตามไปว่า ถ้าหากเราได้พรวิเศษ 3 ข้อนั้นบ้างล่ะ จะขออะไรดี ? ถ้าขอให้ได้พรมากกว่านี้ จะได้หรือเปล่า ? ด้วยความไร้เดียงสา เด็ก ๆ หลายคนคงจะคิดเช่นนั้น แต่ครั้นโตขึ้น ความคิดเหล่านั้น ก็หายไป กลายเป็นคำถามว่า หากอะลาดินขอพรไม่สิ้นสุด สุดท้ายแล้ว ยักษ์จินนี่จะเป็นอย่างไร จะมีโอกาสเป็นอิสระ อย่างเช่นในฉากสุดท้ายของอะลาดิน ฉบับดิสนีย์หรือไม่
พรข้อที่หนึ่ง : ขอให้ได้ออกจากถ้ำ
ไม่มีใครล่วงรู้ได้ แต่พรวิเศษ 2 ข้อแรกที่ได้รับ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นความปรารถนาส่วนตัวของอะลาดินทั้งสิ้น แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีจิตใจดีเป็นพื้นฐาน แต่ความแวววาวล้ำค่าของเพชรนิลจินดาภายในถ้ำ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาต้องใช้พรข้อแรกในการขอออกจากถ้ำ
พรข้อที่สอง : ขอให้เป็นเจ้าชาย
อาจเรียกได้ว่าเป็นการเติมเต็มความปรารถนาของชายผู้ยากไร้อย่างอะลาดินก็ได้ เมื่อเขาได้ใช้พรข้อถัดไป เนรมิตขบวนพยุหยาตราอลังการ แปลงร่างจากชายจรจัดเป็นเจ้าชายจากต่างแดน ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อขอรับหัวใจของเจ้าหญิงจัสมิน และแน่นอนว่า อะลาดินก็เกือบจะทำสำเร็จ หากว่าความลับไม่แตกไปเสียก่อน
มาถึงตรงนี้ จินนี่ สอนให้เรารู้ว่า ถ้าหากเจ้าของตะเกียงลุ่มหลงไปกับพรวิเศษอย่างไม่สิ้นสุดแล้วล่ะก็ ชีวิตของยักษ์ผู้รักษาตะเกียง คงเป็นอนันต์ และไม่มีวันสิ้นสุดเป็นแน่
บทความที่เกี่ยวข้อง 5 วิธีสอนลูกให้รู้จักแบ่งปัน
ให้คุณค่ากับมิตรภาพ
มิตรภาพระหว่างอะลาดิน และจินนี่ได้รับการพิสูจน์ผ่านการขอพรข้อสุดท้าย ที่ชายหนุ่มเลือกจะมอบอิสระให้กับเพื่อนยักษ์ แม้ระหว่างทาง ความโลภหลงในลาภยศจะครอบงำเสี้ยวหนึ่งในจิตใจของอะลาดิน แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เลือกที่จะมอบสองสิ่งที่ล้ำค่า หนึ่งคืออิสรภาพ และสองคือมิตรภาพที่แท้จริง ให้กับเพื่อนรักในตะเกียง
บทเพลงที่ยังอยู่ในใจของทุกคนอย่าง A Whole New World ที่สะกดใจด้วยทำนอง และเนื้อหา เพียงแค่จังหวะดนตรีแรก ก็รู้สึกราวกับล่องลอยไปบนท้องฟ้าแสนกว้างใหญ่ บนผืนพรมวิเศษ เฉกเช่นเดียวกับจัสมิน และอะลาดิน
สิ่งที่ได้จากการฟังนิทาน อ่านหนังสือ หรือดูภาพยนตร์ แตกต่างกันไปตามเลนส์ของแต่ละคน อะลาดินกับตะเกียงวิเศษในมุมมองของลูก กับคุณพ่อคุณแม่อาจจะแตกต่างกันก็ได้ นอกจากจะดูเพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลินแล้ว อย่าลืมชวนลูกคุยกันเล่น ๆ ว่าลูกมีความคิดเห็นอย่างไร เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ นิทานเรื่องนี้ก็ให้ข้อสังเกต และมีเรื่องให้ถกเถียงเกี่ยวกับศีลธรรม ความดีงาม ที่เกิดจากการกระทำของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นอะลาดิน เจ้าหญิงจัสมิน ยักษ์จินนี่ หรือแม้แต่จุดจบของตัวร้ายอย่างจาร์ฟา
ไม่แน่ว่า คุณพ่อคุณแม่อาจจะได้ข้อคิดที่แตกต่างออกไป และเป็นมุมมองใหม่ ๆ ที่ผู้ใหญ่อย่างเราไม่เคยได้เห็นจากนิทานอมตะเรื่องนี้ก็เป็นได้
บทความที่เกี่ยวข้อง ชวนคุยกับลูก 15 คำถามที่ใช้ถามลูกนอกจากคำว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”
source : medium.com , siamrath.co.th
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!