คิดดีๆ ก่อนให้ลูกเล่นเเละเสี่ยงหูมีปัญหา เพราะเสียงลูกโป่งเเตกดังกว่าเสียงปืน
เตือนคุณพ่อคุณเเม่ที่ให้ลูกเล็กๆ ลูกวัยเตาะเเตะ ลูกวัยอนุบาล เล่นลูกโป่งนะคะ อาจจะต้องคิดใหม่ คิดดีๆ ก่อนให้ลูกเล่นเเละเสี่ยงหูมีปัญหา เพราะเสียงลูกโป่งเเตกดังกว่าเสียงปืน เเละนั่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยค่ะ
เสียงลูกโป่งเเตก อันตราย
เเม้ในวัยเด็ก (หรือเเม้เเต่วัยทำงาน) การเล่นที่เกี่ยวข้องกับการทำให้ลูกโป่งเเตก ไม่ว่าจะเป็น ยิงลูกโป่งให้เเตก ปาเป้าลูกโป่ง เหยียบลูกโป่ง หรือทับลูกโป่ง จะฮิตในหมู่เด็กเล็กเด็กโต โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ กลายเป็นเรื่องที่ทำร้ายเจ้าหนูทางตรงไปเเล้วนะคะ เพราะเสียงเเตกของลูกโป่งนั้นดังกว่าเสียงปืน จนทำให้เป็นอันตรายต่อหูของเด็กๆ ได้
โดยการเป่าลูกโป่งจนเเตกนั้นจะมีเสียงที่ดังที่สุด เเต่เเม้ว่าการทำให้ลูกโป่งเเตกด้วยวิธีอื่น เสียงจะดังน้อยลงมา เเต่ก็ยังดังในระดับที่เป็นอันตรายต่อหูอยู่นะคะ ซึ่งหูของเด็กๆ อาจจะเสียหายถาวรได้เลย
เสียงลูกโป่งเเตกดังเเค่ไหน
- เสียงลูกโป่งเเตกดัง 168 เดซิเบล
- เสียงยิงปืนลูกซองดัง 165 เดซิเบล
- เสียงฟ้าร้องดัง 120 เดซิเบล
- เสียงไซเรนฉุกเฉินดัง 120 เดซิเบล
- เสียงเครื่องดูดฝุ่นดัง 88 เดซิเบล
- โดยเสียงดังปกติที่ไม่ส่งผลอันตรายต่อหูของคนเรา จะดังไม่ควรเกิน 140 เดซิเบลเท่านั้นค่ะ
ลูกจะสูญเสียการได้ยิน
ปัญหาหูหนวก หรือสูญเสียการได้ยิน คือเรื่องที่มองไม่เห็นค่ะ จนกว่าลูกจะเป็น เเละเเก้ไขไม่ได้เเล้วด้วย เมื่อปัญหานี้เกิดขึ้น มันก็จะส่งผลกระทบต่อทุกอย่างไปเสียเเล้ว
ดังนั้น นี่คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ง่ายมากๆ เเม้เด็กทุกคนจะชอบลูกโป่ง เเต่การทำให้มันเเตกคืออีกเรื่องที่คุณพ่อคุณเเม่ควบคุมได้นะคะ
ที่มา Dailymail
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
6 อันดับ ของเล่นที่ คุ้ม ถูก เเละเล่นได้นานที่สุด
13 สารเคมีอันตรายที่พบในของเล่นเด็ก!!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!