ไขข้อข้องใจ รู้ได้อย่างไรว่าทารกแรกเกิดทำไมตาเหล่

lead image

ทารกแรกเกิด คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตเห็นว่า ตาของลูกทำไมดูเหมือนตาเหล่ ตาเข โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่อาจจะรู้สึกกังวลมากเป็นพิเศษ กลัวว่าลูกจะตาเหล่ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แล้วอาการนี้จะหายหรือไม่ ทารกจะมองเห็นได้ปกติหรือไม่ เรามีคำตอบ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พัฒนาการด้านการมองเห็นของทารก

แรกเกิด1 เดือน

ทารกแรกเกิดตาเหล่, ทารกแรกเกิดทำไมตาเหล่

การมองเห็นเป็นพัฒนาการที่ทารกเพิ่งได้เรียนรู้เมื่อออกมาจากท้องของคุณแม่   ดังนั้น  คุณแม่จะเห็นว่าลูกจะหน้านิ่วคิ้วขมวดและเพ่งไปยังจุดที่เขาสนใจในระยะประมาณ 8-12 นิ้ว ทั้งนี้ ทารกน้อยจะสามรถมองเห็นได้อย่างเลือนลางและมองในลักษณะเลื่อนลอยบ้างในบางครั้ง ที่สำคัญดวงตาของทารกจะมีความไวต่อแสงมาก

การมองเห็นจะเริ่มดีขึ้นเมื่ออายุ 1 เดือน  มองเห็นชัดเจนได้ไกลขึ้นเป็นรัศมีประมาณ 15 นิ้ว การมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นนี่เอง ทำให้หนูน้อยพยายามเอื้อมมือไปไขว่คว้าสิ่งของที่มองเห็น ลูกเริ่มจะเรียนรู้ในการโฟกัสสิ่งของ โดยใช้สายตาทั้งสองข้าง ทำงานประสานกัน

2  – 3 เดือน

จากภาพที่เห็นลาง ๆ ก็จะเริ่มมองเห็นได้ดีขึ้น เริ่มเป็นรูปร่าง เริ่มกลอกตาซ้ายขวาได้ การมองเห็นก็จะเริ่มดีขึ้น การมองเห็นสีสำหรับลูกที่จะแยกแยะสีที่มีโทนสีใกล้เคียงกัน เช่น สีแดงกับสีส้ม ดังนั้น ลูกน้อยจึงชอบมองสิ่งของที่มีสีขาวสลับดำหรือวัตถุใดก็ตามที่มีสีตัดกันมากๆ

บทความแนะนำ   โมบายล์สีขาวดำดีต่อพัฒนาการมองเห็นของลูก

4 – 6 เดือน

พัฒนาการการมองเห็นของทารกค่อนข้างเกือบจะสมบูรณ์ คือ  สามารถปรับภาพการมองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะต่าง ๆ หนูน้อยเริ่มพัฒนาการรับรู้เกี่ยวกับความลึก ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการทำงาน ของการใช้แขนไขว่คว้าได้ดีขึ้น

7 – 9 เดือน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การมองเห็นเริ่มดีขึ้น ตา 2 ข้างเริ่มทำงานประสานกัน  มีการทำงานของมือที่ประสานกับการทำงานของตาได้ดีขึ้น  เด็กจะเห็นภาพได้คมชัดดีใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ และมีพัฒนาการในการมองควบคู่กับการใช้มือหยิบจับ  ลูกจึงสามารถเอื้อมมือหยิบจับสิ่งของที่อยู่ข้างหน้าได้แม่นยำขึ้น  ลูกน้อยสามารถมองเห็นได้แม้กระทั้งวัตถุเล็ก ๆ หรือวัตถุที่เคลื่อนที่ หรือบางครั้งแค่เห็นสิ่งของนั้นบางเสี้ยว ไม่ได้เห็นทั้งหมด แต่หนูน้อยก็สามารถจดจำสิ่งของนั้นได้

10 – 12 เดือน

การมองเห็นของลูกพัฒนาขึ้นจนเกือบจะเท่ากับผู้ใหญ่ทั้งในด้านความชัดเจน และการรับรู้เกี่ยวกับความชัดลึก แต่การมองสิ่งของในระยะใกล้ ๆ จะดีกว่าการมองสิ่งของที่อยู่ไกล ๆ

การมองเห็นของลูกจะดีพอจนสามารถมองข้ามห้องที่ค่อนข้างกว้างไป สังเกตเห็นผู้คน หรือสิ่งของที่เขาคุ้นเคยได้ ส่วนความสามารถในการรับรู้เรื่องสีก็ดีเกือบจะสมบูรณ์แล้ว   สามารถแยกแยะสีในโทนต่างๆ ได้ดี ไม่ได้ชอบเฉพาะสีตัดกันเหมือนช่วงแรกๆ อีกต่อไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ไขข้อข้องใจ รู้ได้อย่างไรว่าทารกแรกเกิดทำไมตาเหล่

เมื่อได้ทราบถึงพัฒนาการด้านการมองเห็นของทารกน้อยแล้ว  แต่ไม่วายยังมีข้อสงสัยเรื่องตาเหล่ ตาเขของทารกแรกเกิด ตกลงว่าเป็นอย่างไรกันแน่คะ ???? (แอบได้ยินคำถามในใจแม่ ๆ)  ทีมงานของเราจึงไปหาคำตอบมาให้ดังนี้ค่ะ

ตาเหล่ ตาเข ในทารกแรกเกิด

นับแต่วินาทีแรกลูกน้อยคลอดก็สามารถมองเห็นแสงสว่าง ได้ยินเสียง และสามารถกะพริบตาได้ทันทีตามสัญชาตญาณ (Blink reflex) ก็เพื่อปกป้องดวงตาที่บอบบางจากอันตรายภายนอก   เป็นการเริ่มต้นของพัฒนาการด้านการมองของลูกน้อย  ทารกแรกเกิดคุณแม่อาจจะสังเกตเห็นว่า ดวงตาของลูกดูเหมือนเหล่ หรือตาเข ตาสองข้างทำงานไม่สอดคล้องกัน  ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ !!!!

เนื่องจากการทำงานของประสาทตายังไม่สมบูรณ์  แต่ถ้า 3 เดือนไปแล้วดวงตาของลูกน้อยยังมีอาการตาเหล่ ตาเขอยู่  แบบนี้คงไม่ดีแน่ ต้องพาเจ้าตัวน้อยไปพบคุณหมอแล้วค่ะ เพราะอาจเกิดความผิดปกติของดวงตาได้

1. การปรับโฟกัสสายตา (Accommodation) แก้วตาหรือเลนส์ตาของทารกน้อยจะมีการเปลี่ยนแปลงและหดขยายเพื่อที่จะปรับภาพให้ชัด เมื่อทารกมีอายุได้ 3 เดือน จึงจะมีทักษะในการปรับโฟกัสของเลนส์ตาได้ดีเท่าๆ กับผู้ใหญ่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. การเคลื่อนไหวสายตา (Saccades) ทารกสามารถกวาดสายตาเพื่อจับภาพวัตถุใดวัตถุหนึ่ง หรือค้นหาตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งจากภาพกว้างๆ ในเด็กแรกเกิดยังไม่ค่อยมีทักษะนี้มากนัก แต่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในช่วง 4 เดือนแรก

3. การขมวดสายตา (Vergence) โดยทั่วไปเวลาที่เราเพ่งมองวัตถุใดอยู่ ลูกตาดำของเราจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่ถ้าลองเพ่งมองดูที่ปลายจมูกของตัวเอง ลูกตาดำจะเคลื่อนเข้าหากันจนมองดูเหมือนตาเหล่ แต่สำหรับทารกเมื่อเขาขมวดสายตาเพื่อเพ่งจ้องอะไรบางอย่างจนลูกตาดำของเขาเคลื่อนเข้าหากันนั้นไม่ใช่อาการตาเหล่นะคะ

วิธีดูแลทำความสะอาดดวงตาของทารก

1. ทำความสะอาดดวงตาให้ลูกน้อยโดยใช้สำลีชุบน้ำต้มสุกอุ่น ๆ เช็ดจากหัวตาไปยังหางตา แล้วเปลี่ยนสำลีก้อนใหม่เช็ดตาอีกข้าง ห้ามใช้เช็ดซ้ำกับตาอีกข้างเพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อกระจายได้ง่าย

2. ควรทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้ารองนอนให้ลูกบ่อยๆ ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าตา

3. หลีกเลี่ยงพาลูกไปในที่มีแสงจ้ามาก ๆ ฝุ่นควันเยอะ ๆ หรือมีลมแรง

เมื่อได้อ่านข้อมูลข้างต้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่คงคลายความกังวลไปได้บ้างนะคะ  อย่างไรก็ตามคุณแม่ซึ่งมักจะใกล้ชิดลูกมากที่สุดควรตรวจดูพัฒนาการของลูกให้เหมาะสมกับวัย  หากเกิดสิ่งผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น ควรปรึกษาคุณหมอนะคะ

ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์   คลอดบุตร   รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ  หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://goodmamee.wordpress.com

https://www.doctorvision.net

https://www.bangkokhealth.com

https://www.kodomoclub.com

เครดิตรูปภาพจาก  https://marciejessee.files.wordpress.com

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

13 อาหารบำรุงสายตาลูกให้แจ่มแจ๋ว

เช็คพัฒนาการลูกน้อยวัย 1 เดือนอย่างละเอียด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา