สุขใดเท่า ให้ลูกดูดเต้า ชีวิตจริงของแม่ให้นม ลูกอยากดูดตอนไหนก็พร้อมเปิดเต้าเสมอ

ช่วงเวลาที่แสนสุขแต่ท้าทายของการเป็นแม่นั่นคือ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะบางคราวคุณแม่จะต้องเจอกับความเจ็บปวดในขณะที่ลูกดูดเต้า อาการคัดเต้าเจ็บจี๊ดเพราะน้ำนมมาเยอะ หรือแม้กระทั่งการปั๊มนมจนเต้านมยาน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภาพของแม่มือใหม่หลายคนที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นอาจไม่สวยงามเหมือนภาพถ่ายตามโฆษณาในโทรทัศน์ หรือในหนังสือ หรือตามที่จินตนาการไว้แต่แรก เพราะสิ่งที่คุณแม่จะสัมผัสเมื่อ ให้ลูกดูดเต้า คือความเจ็บปวดจี๊ดๆ ที่คุณแม่มือใหม่ยังไม่เคยเจอมาก่อน แต่เมื่อคุ้นเคยกับสัมผัสเหล่านี้ คุณแม่จะรู้สึกได้เลยว่ามันช่างอบอุ่นขนาดไหนเมื่อมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในอ้อมกอด

Hwang คุณแม่และศิลปินได้ถ่ายทอดภาพวาด แสดงให้เห็นถึงการเป็นพ่อแม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรู้สึกของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นเป็นอย่างไร แม้มันจะดูวุ่น ๆ ในการเลี้ยงลูกแต่มันก็เต็มไปด้วยความรัก

สุขใดเท่า ให้ลูกดูดเต้า ชีวิตจริงของแม่ให้นม ลูกอยากดูดตอนไหนก็พร้อมเปิดเต้าเสมอ

ภาพการปั๊มน้ำนมแม่นั้นดูมีมนต์ขลัง

คุ้กกี้และนมแม่นั้นเป็นการผสมผสานของอาหารว่างของเจ้าหนูผู้ยังไม่ยอมเลิกเต้า

ไม่ว่าจะ 10 หรือ 1 ออนซ์ นมทุกหยาดหยดมีความหมายในทุก ๆ เวลาที่ปั๊มน้ำนม

เวลาเจ้าตัวน้อยกินนมแม่นั้น ราวกับกำลังออกท่าโยคะยังไงยังงั้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อีกครั้งที่การให้นมแม่คือช่วงเวลาที่เงียบสงบและคุณแม่จะได้พักไปกับลูกด้วย

ความเป็นแม่และการให้นมลูกนั้นไม่มีวันหยุด แม้ในยามที่เจ็บป่วยก็ตาม

ลึก ๆ แล้วคุณแม่คงอยากจะได้ตัวช่วยจริง ๆ 

แน่นอนว่าในช่วงให้ลูกดูดนมนั้น คุณแม่สามารถทำอย่างอื่นไปพร้อม ๆ กันได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แม้กระทั่งช่วงเวลาที่ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ

อย่าลืมที่จะเปิดเพลงโปรดฟังในขณะที่ให้นมลูกไปด้วย

การปั๊มนมไปทำงานไปด้วยมันจะกลายเป็นเรื่องปกติไปเลย

การให้ลูกดูดนมจากเต้านั้นจะทำให้เจ้าตัวน้อยมีความสุขกับความอบอุ่นจากสัมผัสร่างกายของคุณแม่ และคุณจะรู้สึกว่ามือของลูกจะยุกยิกอยู่กับเต้าไม่ห่างเลย …  ^^

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทารกแรกเกิดควรให้นมอื่นได้ไหมนอกจากนมแม่ ให้ลูกดูดเต้าเท่าไหร่ถึงพอ บ่อยแค่ไหน นานเท่าไหร่ การเป็นคุณแม่มือใหม่ ทำให้พวกคุณต้องหาคำตอบใน เรื่องเกี่ยวกับนมแม่ ให้มากที่สุดเพื่อให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีและมีประโยชน์สูงสุด

#นมชนิดใดเหมาะสมที่สุดสำหรับทารกแรกเกิด

“นมแม่” เป็นสิ่งที่คุณแม่หลายคนรู้ดีว่าคืออาหารที่วิเศษที่สุดสำหรับลูกน้อย เพราะมีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน และเหมาะสมกับความต้องการของทารก รวมถึงเป็นวัคซีนหยดแรกที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย เพราะในน้ำนมแรกที่เรียกว่า น้ำนมเหลืองหรือคอลอสตรัมนั้นอุดมไปด้วยแอนติบอดี้และสารอาหาร นอกจากนี้ในนมแม่ยังมีเซลล์และสารเพิ่มภูมิต้านทานอีกหลายชนิดที่ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อให้แก่ทารก ช่วยให้ลูกแข็งแรงทั้งร่างกาย มีพัฒนาการที่ดี ส่งผลต่อความฉลาด สำหรับทารกที่ได้รับนมแม่ยาวนานกว่า 6 เดือน

Read : หลายวิจัยชี้ ลูกกิน “นมแม่” นาน ส่งผลฉลาด เพิ่มค่าไอคิวสูง!!

#ควรให้ลูกได้เริ่มกินนมแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ วันหนึ่งให้บ่อยแค่ไหน และควรกินนานเท่าไหร่

การให้ลูกดูดนมจากอกแม่เร็วที่สุดเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ทารกควรได้รับนมแม่ได้ตั้งแต่แรกเกิดในห้องคลอด หรือหากคุณแม่ทำการผ่าตัดคลอด ก็สามารถให้นมลูกเร็วที่สุดได้ถ้าแม่สามารถอุ้มทารกไว้แนบอกได้ เพราะทันที่อุ้มลูกน้อยเข้าเต้า สัญชาตญาณของทารกจะค้นหาเต้านมของแม่และจะเริ่มดูดนมจากอกแม่ทันที ซึ่งนมแม่ในช่วงวันแรก ๆ นั้นยังมีปริมาณไม่มาก ควรสลับให้ทารกได้ดูดนมแม่ทั้ง 2 เต้าบ่อย ๆ ในทุก 1-3 ชั่วโมง แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลว่านมจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูก เพราะในเด็กแรกเกิดนั้น ขนาดกระเพาะอาหารของเขาเล็กเท่าผลองุ่น และจุได้ 5-7 มิลลิลิตร ซึ่งทารกต้องการนมแม่เพียงเล็กน้อยในแต่ละครั้งเท่านั้น

ดังนั้นการให้ทารกได้ดูดนมแม่บ่อย ๆ ร่างกายคุณแม่จะสร้างกลไกการหลั่งน้ำนมขึ้นมา และถูกกระตุ้นให้มีน้ำนมเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีน้ำนมเพียงพอกับความต้องการของทารก  และให้ทารกดูดนมแม่ห่างเป็นทุก 3-4 ชั่วโมง ซึ่งคุณแม่สามารถให้นมแม่เป็นอาหารเพียงอย่างเดียวได้ยาวถึง 6 เดือน หลังจากนั้นหากปริมาณนมแม่อย่างเดียวอาจไม่พอต่อความต้องการของลูกน้อย ก็สามารถให้ลูกกินอาหารเสริมอื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับวัยได้นอกเหนือจากนมแม่ เช่น ข้าว กล้วย เนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง ผัก และผลไม้ เป็นต้น

#ในกรณีที่แม่ไม่สามารถให้นมได้ หรือเจ็บป่วยไม่สบาย ไม่สามารถให้ลูกกินนมจากเต้าได้จริง ๆ ควรให้นมชนิดใดเพื่อทดทนนมแม่ได้อย่างเหมาะสม และให้กินอย่างไร

กรณีที่แม่ไม่สามารถให้ลูกกินนมแม่หรือป่วยไข้ไม่สบาย ควรให้นมผงสูตรที่ดัดแปลงสำหรับทารกแรกเกิดถึง 1 ปี หรือนมสูตร 1 ที่ทำจากนมวัวซึ่งปรับลดส่วนประกอบให้มีสารอาหารต่าง ๆ ใกล้เคียงกับนมแม่และมาตรฐานกำหนดในการผลิต ทารกแรกเกิดที่จำเป็นต้องกินนมผง คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญในการชงนม ต้องชงให้ถูกส่วน ตามตารางการชงนมที่แสดงไว้ในบรรจุภัณฑ์ โดยเริ่มชงนมผงจากปริมาณ 1-2 ออนซ์ และให้กินทุก 3 ชั่วโมง เมื่อลูกน้อยอายุ 3-4 เดือน จำเป็นต้องให้ปริมาณนมเพิ่มขึ้นและให้กินทุก 4 ชั่วโมง หลังอายุ 6 เดือนก็สามารถให้อาหารเสริมตามวัย เช่นเดียวกับทารกที่กินนมแม่ และเริ่มหัดให้เจ้าตัวน้อยเลิกมื้อดึก เพื่อลดปัญหาการเกิดฟันผุจากการหลับคาขวดนมในปากได้

#จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกกินนมแม่อิ่มหรือไม่อิ่ม ไม่มากไปหรือน้อยไป

หากอยากรู้ว่าลูกกินอิ่มหรือยัง คุณแม่ต้องคอยสังเกตอาการหลังจากลูกที่กินนม ถ้าทารกนอนหลับได้นาน 3-4 ชั่วโมง มีการขับถ่ายปกติ และมีการเจริญเติบโตปกติ แสดงว่าลูกกินอิ่มและได้รับนมเพียงพอ (เปรียบเทียบค่าน้ำหนักตัวและความยาวของทารกในคู่มือกราฟมาตรฐานการเจริญเติบโตของเด็ก) ที่คุณแม่จะได้รับสมุดบันทึกสุขภาพของลูกจากทางโรงพยาบาลมาตั้งแต่แรกเกิด) แต่ถ้าทารกกินนมมากไป หรือ overfeeding ทารกอาจมีการแหวะหรืออาเจียนหลังกินนมเกือบทุกครั้ง สำหรับทารกที่กินนมแม่น้อยไป เมื่อกินไม่อิ่มทารกจะมีอาการงอแง หรือหลับแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ตื่นบ่อย อาจส่งผลให้มีน้ำหนักตัวน้อยหรือการเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ

#ถ้าหลัง 6 เดือนทารกไม่ได้รับอาหารเสริม จะเกิดผลเสียต่อเด็กหรือไม่

ถึงแม้ว่าการกินนมแม่จะมีประโยชน์และสามารถให้ลูกกินนมแม่ได้ยาว ๆ จนถึง 12 เดือนหรือมากกว่านั้น แต่หลัง 6 เดือนการให้ทารกทานอาหารเสริมควบคู่ไปกับนมแม่นั้น เพราะลูกน้อยต้องการพลังงานมากขึ้น  และต้องการสารอาหารอื่น ๆ เพิ่ม การให้ลูกน้อยได้ทานอาหารเสริมนั้นยังช่วยให้ลูกได้ฝึกทานอาหาร การบดเคี้ยว การกลืน การย่อยอาหาร ด้วย แต่ถ้าได้กินนมแม่อย่างเดียวในวัยนี้อาจทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวและความยาวไม่เพิ่มขึ้น เกิดภาวะขาดสารอาหาร ภาวะซีดหรือเลือดจาง และยังทำให้ลูกน้อยขาดโอกาสพัฒนาการกินหรือเคี้ยวอาหารที่ไม่ใช่นม จนกลายเป็นเด็กติดนมขวดทำให้เลิกขวดนมยาก และจะเป็นเด็กที่ไม่ยอมกินข้าวเอาแต่นมขวดอย่างเดียว

#ทารกแต่ละวัยควรได้รับนมอย่างไร

การให้ลูกได้รับนมพอเหมาะกับความต้องการนอกจากจะส่งผลที่ดีต่อร่างกายแล้ว ยังดีต่อพัฒนาการของทารกด้วย เด็กทารกในขวบปีแรกควรได้กินนมเป็นอาหารหลัก และควรให้ได้กินนมแม่ล้วน ๆ อย่างน้อยจนถึง 6 เดือน และหลังจากนั้นควรให้ทารกได้กินอาหารเสริมตามวัย เมื่อทารกสามารถเลิกนมมื้อดึกได้ มื้อนมก็จะลดลงเป็นสัดส่วนกับมื้ออาหารตามวัยที่เพิ่มขึ้น หลังอายุ 1 ปีลูกควรได้กินอาหารเป็นหลัก และนมเป็นอาหารเสริมที่ให้แคลเซียม ซึ่งในวัยนี้ลูกควรกินนมรสจืดและฝึกการกินจากแก้วหรือหลอดดูดจากกล่อง และควรเลิกดูดขวดนมก่อนอายุ 18 เดือน เพื่อที่จะได้กินอาหารหลักได้ครบ 3 มื้อ และไม่มีปัญหาจากการติดขวดนม


ที่มา : www.scarymommy.com

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

“ให้ลูกดูดเต้าเท่าไหร่ถึงพอ บ่อยแค่ไหน นานเท่าไหร่” กับอีกสารพัดเรื่องเกี่ยวกับ “นมแม่”

เรื่องน้ำนมน้อยแก้ได้ ใช้เทคนิค 4 ดูดช่วยให้ “นมแม่” มามาก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Napatsakorn .R