เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ร่วมกันสอบปากคำ นางสาววรินทร์นิภา อายุ 23 ปี อยู่หมู่ที่ 6 ต.ร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาพยายามฆ่าผู้อื่น ด้วยการนำไปทิ้งหลังโรงพยาบาลกมลาไสย ตรงบ่อขยะด้วยการขุดหลุมวางไว้บนกองดินแล้วเอาเศษใบไม้กลบ แต่โชคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยเหลือได้เสียก่อน
พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ โดยทราบว่า ด.ญ.บี ซึ่งเป็นบุตรของผู้ต้องหา ได้ฝากท้องแล้วคลอดที่โรงพยาบาลกมลาไสย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน จนเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 18.10 น. พนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า ผู้ต้องหาได้แจ้งว่า มีชายชุดแดงขโมยลูกไป โดยอ้างว่าตนเอง กำลังจะเข้าห้องน้ำ แล้วได้ฝากชายชุดแดงให้อุ้มลูกเอาไว้ แต่ภายหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำปรากฏว่าลูกสาวได้หายไปพร้อมชายชุดแดง จึงได้แจ้งตำรวจ
“แต่ภายหลังจากทำการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธหลายอย่าง จึงได้เค้นสอบถาม สุดท้ายผู้ต้องหาจึงให้การสารภาพว่า ตนได้นำบุตรสาวของตนเองที่เพิ่งคลอดได้ 5 วัน นำไปทิ้งไว้ที่บริเวณบ่อขยะหลังโรงพยาบาลกมลาไสย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบก็พบว่า มีเด็กทารกถูกนำไปทิ้งจริง โดยพบว่ามีเศษใบไม้ขนาดใหญ่คลุมร่างทารกน้อยอยู่ แต่เด็กนอนนิ่งและเริ่มมีมดแดงขึ้น แต่เมื่อไปจับตัวดูปรากฏว่าเด็กร้อง จึงได้ช่วยชีวิตไว้ทัน” พล.ต.ต.จตุพล กล่าว
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาฆ่าเด็กไม่ลง แต่เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว เพราะมีสามีเป็นชาวอินเดีย รวมถึงตนและสามีก็มีลูกอยู่แล้วหนึ่งคน พอพูดคุยกันก็รู้ว่าสามีไม่ต้องการจะมีบุตร จึงได้คิดที่จะนำเด็กไปทิ้ง ซึ่งหากโชคไม่ดีเด็กคงเสียชีวิต แต่ในกรณีนี้ถือว่าโชคดีที่เด็กรอดอย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย ได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทารกน้อยที่น่าสงสารรายนี้ได้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ซึ่งตอนนี้เด็กปลอดภัย และพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้ารอดูอาการโดยรวม นับว่าเป็นโชคดีของทารกรายนี้ที่พ้นขีดอันตรายแล้ว อย่างไรก็ดี ทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ทุกคนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีผู้ใจบุญที่พร้อมจะรักและดูแลเข้ามาติดต่อขอรับทารกรายนี้ไปเลี้ยงดูต่อไปนะคะ
ที่มา: ข่าวสด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยคุมกำเนิดได้จริงหรือ?
เรื่องที่ควรรู้ก่อนคิดการฝังยาคุมกำเนิด