แม่ท้องเครียด ภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้แน่ ๆ ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรรู้วิธีจัดการความเครียดเพื่อไม่ให้ลงลูกในท้องนะคะ ถ้ารักลูกอย่าเครียดเลยนะจ๊ะแม่!!
สงสารลูกเถอะ! แม่ท้องเครียด ลูกในท้องก็เครียดได้ ส่งผลไม่ดีต่อพัฒนาการลูกเข้าไปอีก
รู้ไหมค่ะ ตอนที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรรภ์มีความเครียด อารมณ์นี้ไม่ได้แค่ส่งผลเสียต่อตัวแม่คนเดียว แต่ยังเลี้ยวไปกระทบต่อเจ้าตัวเล็กในท้องด้วย สาเหตุที่ทำให้แม่ท้องเกิดความเครียดขึ้นได้ง่าย ๆ อาจเกิดจาก
- ผลของอาการตั้งครรภ์ที่คุณแม่ยังปรับตัวไม่ทัน เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะบ่อย ปวดหลัง เป็นต้น
- เครียดจากความกังวลเรื่องลูกในท้อง การเลี้ยงดูลูกที่จะเกิดมา ความคาดหวังของตัวเองในการเป็นพ่อแม่ที่ดี
- เครียดจากปัญหาการเงิน การที่จะใช้จ่ายเงินในการเลี้ยงดูลูกเพิ่มขึ้น
- เครียดจากการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม
และอีกปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้แม่เครียดในขณะตั้งครรภ์ได้ ส่งผลต่อการพัฒนาการทารกภายในครรภ์ในหลายด้าน
#ส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ถดถอย
จากผลการวิจัยต่าง ๆ ระบุว่า หากแม่ท้องเครียด จะทำให้ความอยากอาหารน้อยลง เมื่อแม่กินน้อย ลูกในท้องก็จะได้รับสารอาหารน้อย ส่งผลทำให้การพัฒนาการของลูกถดถอย รวมถึงสุขภาพของคุณแม่ก็ทรุดโทรม ร่างกายไม่แข็งแรงก็อาจทำให้ป่วยได้ง่ายขึ้นด้วย
#ส่งผลด้านพัฒนาการสมอง
ผลจากที่คุณแม่เครียดจะมีการหลั่งสารความเครียดออกมา ซึ่งสารนี้จะเข้าไปกระทบกับลูกในครรภ์โดยตรง ส่งผลถึงการทำลายเซลล์สมองของทารก ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ล่าช้า และเกิดมามีโอกาสที่จะเป็นเด็กสมาธิสั้น มีความเครียดบ่อย งอแง เลี้ยงยาก และเป็นเด็กที่มีภาวะอารมณ์ที่แปรปรวน ขี้หงุดหงิด เสี่ยงต่อการเกิดอาการโรคซึมเศร้า มีพฤติกรรมก้าวร้าว และไม่เข้าสังคม เพราะความเครียดที่ได้รับจากคุณแม่ในตอนท้องนั่นเอง
#ส่งผลต่อความเสี่ยงลูกคลอดก่อนกำหนด
คุณแม่ที่มีความเครียดสูงในขณะตั้งครรภ์ จะมีอัตราในการคลอดก่อนกำหนดที่สูง ทำให้ลูกมีน้ำหนักตัวน้อยและขนาดของทารกที่เล็กกว่าทารกปกติได้
#ส่งผลทำให้เกิดอาการแท้ง
เมื่อแม่มีภาวะเครียดระหว่างตั้งครรภ์มาก ลูกน้อยในครรภ์ก็จะอยู่ในสภาวะอ่อนแอ ในบางรายคุณแม่อาจจะมีรกเกาะต่ำอยู่แล้วก็ยิ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดการแท้งเกิดขึ้นได้ง่าย
#ส่งผลให้สุขภาพแม่ท้องให้อ่อนแอลง
หากเครียดมากจะทำให้คุณแม่นอนไม่หลับ รับประทานอาหารได้น้อยลง และหากเป็นเรื้อรังก็อาจจะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์ขึ้นได้
ดังนั้นวิธีที่จะไม่ให้เกิดผลเหล่านี้กับตัวคุณแม่และลูกน้อยคือ การพยายามที่จะ “ไม่เครียด” ในช่วงท้องนี้นะคะ คุณแม่ต้องพยายามหาทางผ่อนคลายและลดความเครียดด้วยการหากิจกรรมต่าง ๆ ทำ เช่น การออกไปเดินเล่น ชวนคุณพ่อให้พาไปเดินช้อปปิ้งบ้าง เวลาอยู่บ้านให้เปิดเพลงสบาย ๆ ฟัง อ่านหนัง หรือดูหนังตลก สนุก ๆ เข้าไว้ ดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ที่สำคัญที่สุดคือการหันไปปรึกษาคนข้าง ๆ ซึ่งมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อลูกในท้องด้วย ช่วยกันแก้ปัญหาความเครียดที่เกิดขึ้นให้ตรงจุด ช่วงนี้คุณแม่ต้องมองโลกสวยเข้าไว้ พึงระลึกไว้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้นะคะ ยังมีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่คอยช่วยเหล่าได้ อย่าปฏิเสธความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่รู้สึกอ่อนแอ เพราะกำลังใจสำคัญมากจริง ๆ เมื่อคุณแม่ไม่เครียด ไม่กังวลกับอนาคต ดูแลตัวเองในปัจจุบันให้ดี ก็จะเกิดผลดีขึ้นกับลูกน้อยในท้องนะคะ
อ้างอิงข้อมูลจาก :
www.siamhealth.net
บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
เครียดตอนท้อง มีผลกับลูกไหม ? เรื่องที่ไม่ควรมองข้ามระหว่างตั้งครรภ์
5 วิธีชิล ๆ ดูแลตัวเองตอนท้องไม่ให้เครียด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!