เศร้า เด็กชายหาย จากค่ายลูกเสือ สุดท้ายพบศพอยู่ก้นสระ

หลังจากการหายตัวไปนาน 3 วันภายในค่ายทหาร ล่าสุดพบศพของเด็กชายวัย 13 ปีแล้ว

เศร้า! เด็กชายหาย จากค่ายลูกเสือ สุดท้ายพบศพอยู่ก้นสระ

จากกรณี เด็กชายหาย ตัวไป คือ เด็กชายเนวิน นาคคงดำ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ในระหว่างเดินทางไปยังค่ายลูกเสือ  ภายในสำนักปฏิบัติธรรมปิติมาตุภูมิ บ้านปางก๋อง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเพื่อนและคณะครูของโรงเรียน ซึ่งทั้งคณะครูและนักเรียนก็ได้ทำการพักค้างแรมที่บริเวณดังกล่าว โดยเด็กชายเนวิน ได้หายตัวไปตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 19 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา

 

 

ซึ่งในระหว่างนั้น ไม่มีใครทราบเลย จนกระทั่งเช้าของวันที่ 20 มกราคม 2560 ทางคณะครูของโรงเรียนได้ตรวจสอบยอดของนักเรียนที่เดินมาเข้าค่าย จึงทำให้ทราบว่า เด็กชายเนวินนั้นได้หายตัวไป ทางคณะครูก็ได้ช่วยกันออกตามหาตัวในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง นี้ แต่ก็ไม่พบเจอตัว จึงได้แจ้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยเข้าช่วยเหลือตามหาอีกทางหนึ่ง

ตลอดทั้งวันทางเจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันตามหาจนทั่ว ภายในพื้นที่รอบนอกจากที่ทางคณะครูและนักเรียนใช้เป็นจุดเข้าค่าย รวมทั้งติดต่อสอบถามไปยังพ่อแม่เด็ก และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงแต่ปรากฎว่า ไม่มีผู้ใดพบเจอเด็กชายคนดังกล่าวแต่อย่างใด

 

จนกระทั่งวันที่ 21 มกราคม 2560 ตลอดตั้งแต่ช่วงเช้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยจาก ศูนย์กู้ชีพ เวียงฟ้า , กู้ภัยพร้าว , กู้ภัยแม่โจ้ , อปพร.นครลำปาง ได้ร่วมกันนำกำลังปูพรมทำการออกตามหาเด็กชายที่สูญหายอีกครั้ง สันนิษฐานว่า เด็กชายเนวิน น่าจะเดินหลงป่าเพียงลำพัง แต่ก็ยังคงไม่พบเจอตัว และจากการตรวจสอบภายในจุดที่ใกล้กับที่คณะครูและนักเรียนทำการเข้าค่ายนั้นพบว่ามีบ่อน้ำขนาดใหญ่อยู่ ซึ่งเป็นจุดเดียวที่ยังไม่ได้มีการค้นหา จึงได้ดำเนินการขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำเพื่อเข้าทำการค้นหาร่างเด็กผู้สูญหายภายในบ่อดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีการทางไสยศาสตร์ จุดธูปเทียน ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้เจ้าที่เจ้าทางช่วยชี้ทาง เปิดตาให้ได้พบร่างของเด็กชายที่สูญหายไป

 

เศร้า เด็กชายหาย จากค่ายลูกเสือ สุดท้ายพบศพอยู่ก้นสระ  ขอบคุณภาพข่าวจาก dailynews.co.th

 

ภายหลังการทำพิธี และการจัดชุดเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำลงค้นหาร่างของของเด็กชายเนวิน นานร่วมชั่วโมง ในที่สุดก็สามารถงมหาร่างของเด็กชายคนดังกล่าวเจอในที่สุด โดยศพของเด็กชายมีสภาพร่างขาวซีด ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่าระหว่างที่เด็กชายเดินหลงอยู่นั้นน่าจะพลัดตกลงไปในบ่อน้ำจนทำให้จมน้ำและเสียชีวิตในที่สุด

ซึ่งจะได้ทำการส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะได้แจ้งให้ทางญาติมารับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

ที่มา: Khaosod

 

จากข่าว " เด็กชายหาย จากค่ายลูกเสือ สุดท้ายพบศพอยู่ก้นสระ " ในครั้งนี้  ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ที่ต้องดูแลเด็กๆ  ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยเด็ก หรือ วัยรุ่นก็ตาม  เนื่องจากปัจจุบันเด็กๆ ไม่ได้อยู่ในสายตาเราตลอดเวลา  บางช่วงต้องไปอยู่ที่โรงเรียน  หรือไปทำกิจกรรมนอกสถานที่   เด็กแต่ละช่วงวัย มีปัจจัยที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้ "เด็กหาย" แตกต่างกัน  เช่น เด็กเล็ก  อาจจะหายจากการหลงทาง พลัดหลง หรือโดนลักพาตัว  เด็กวัยรุ่น อาจหายจาก การหนีออกจากบ้าน การถูกล่อลวงจากคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งการถูกล่อลวงจากการใช้สื่อออนไลน์ที่ไม่ปลอดภัย

จากข้อมูลของ ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์  ระบุว่า  ปี 2562 มีสถิติข้อมูลคนสูญหายทั้งสิ้น 805 คน  ซึ่งหากพิจารณาดูข้อมูลพบว่า เป็นเด็กอายุ 0-13  ปี จำนวน 13 คน  และอายุ 11-15 ปี จำนวน  148 คน   ดังนั้น ผู้สูญหายที่เป็นเด็ก อายุ 0-15 ปี มีจำนวนทั้งหมด  161 คน  คิดเป็น 20 % ของจำนวนผู้สูญหายทั้งหมด

ซึ่งวิธีการป้องกันเด็กหาย แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย เช่นกัน  ถ้าเป็นเด็กเล็ก พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องไม่ปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียวหรืออยู่ตามลำพัง สอนให้ลูกจดจำชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ให้ของตนเองและของคุณแม่ หากเป็นเด็กที่อยู่ในช่วงวัยเรียนซึ่งต้องห่างจากการดูแลของพ่อแม่ ผู้ปกครอง  ต้องสอนให้ลูกไม่ไปในที่เปลี่ยว หรือที่รกร้าง ลับตาคน   ไม่คุยกับคนแปลกหน้าในสถานที่เปลี่ยว   หากอยู่ในช่วงวัยรุ่น  ต้องสอนให้ลูก ต้องบอกกล่าวพ่อแม่ หรือเพื่อนสนิทที่ไว้ใจ  ทุกครั้งที่จะไปไหน

รวมถึงปัจจุบัน มีเทคโนโลยี มาช่วยในการป้องกันเด็กหาย หลากหลายวิธี อาทิ

  1. การใช้ นาฬิกาอัจฉริยะ   ซึ่งนาฬิกานี้ จะช่วยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ทราบตำแหน่งของลูก ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง รู้ความเคลื่อนไหวของลูกตลอดเวลา ลดความกังวลใจไปได้ระดับหนึ่ง  ซึ่งปัจจุบัน นาฬิกาอัจฉริยะ มีให้เลือก หลายรูปแบบ ให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก  ซึ่งข้อควรระวังในการใช้นาฬิกาอัจฉริยะ คือ ต้องตรวจสอบแบตเตอรี่ และการเชื่อมต่อสัญญาณ GPS อย่างสม่ำเสมอ
  2. แจ้งตำแหน่งที่ตั้งของลูกผ่าน มือถือโดยแอพ GoogleMap โดยเปิดแชร์ location ให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ตลอดเวลา จะทำให้ทราบตำแหน่งที่อยู่ของลูกตลอดเวลา

 

เศร้า เด็กชายหาย จากค่ายลูกเสือ สุดท้ายพบศพอยู่ก้นสระ  ขอบคุณภาพข่าวจาก freepik.com

ทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วยนะคะ

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

ป้องกันเด็กหาย เริ่มที่พ่อแม่สอนลูกให้ถูกทาง

รู้ไว้ก่อนสาย เพราะเด็กหายอาจเป็นลูกคุณ

Techhub คลับของคนรักเทคโนโลยี

ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ WWW.BACKTOHOME.ORG

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ป้องกันเด็กหาย เริ่มที่พ่อแม่สอนลูกให้ถูกทาง

รู้ไว้ก่อนสาย เพราะเด็กหายอาจเป็นลูกคุณ

ไข้เลือดออกเด็กตาย อีกหนึ่งราย มันมาแล้ว ระบาดหนักเกือบ 700 ราย

บทความโดย

Muninth