เคล็ดลับสร้างสมองลูก ใน 1000 วันแรก ช่วยลูกฉลาด พัฒนาการสมวัย

เคล็ดลับสร้างสมองลูก จากการเปิดเผยของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตามคำแนะนำของแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เคล็ดลับสร้างสมองลูก ใน 1000 วันแรก ช่วยลูกฉลาด พัฒนาการสมวัย

เคล็ดลับสร้างสมองลูก ในช่วงเวลาทอง ช่วยลูกฉลาด สุขภาพดี พัฒนาการสมวัย ซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำว่า ในช่วง 2 ปีแรก หรือ 1,000 วันแรกของชีวิตนั้น เป็นช่วงเวลาทองที่สำคัญในการสร้างสมอง โดยเน้นที่การกิน กอด เล่น เล่า นอน เฝ้าดูฟัน ซึ่งจะช่วยให้เด็กไทยมีพัฒนาการที่ดี พร้อมเติบโตสมวัย แข็งแรง

เคล็ดลับสร้างสมองลูก

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ได้ให้คำแนะนำว่า ช่วงเวลาทองที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสมองของเด็ก ก็คือช่วงตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิจนถึงอายุ  2 ปี เพราะโครงสร้างสมองจะมีการพัฒนาสูงสุด ทั้งการสร้างเซลล์สมองและการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์สมองเกิดเป็นโครงข่ายใยประสาทนับล้านโครงข่าย และการที่เซลล์สมองมีการเชื่อมต่อกันนั้น จะทำให้เกิดการสื่อสารระหว่างเซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ส่งผลต่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

นอกจากนี้ การเตรียมความพร้อมของคุณแม่ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอด ก็เป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งสามารถเป็นตัวกำหนดสุขภาพและโรคในอนาคตได้อีกด้วย

เคล็ดลับสร้างสมองลูก

  • ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 12 สัปดาห์ ควรกินวิตามินธาตุเหล็กและกรดโฟลิก สัปดาห์ละ 1 เม็ด
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและโฟเลท เช่น ตับ เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อความพิการแต่กำเนิด อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองและระบบประสาทของลูกด้วย
  • ในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอดไปจนกระทั่งเด็กอายุ 2 ปี ต้องให้ความสำคัญกับโภชนาการที่ดีตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต คือ ช่วงที่อยู่ในท้องแม่ ช่วงเด็กอายุ 0-6 เดือน ช่วงเด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี แม่ควรกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้หลากหลายครบ 5 หมู่ เช่น ปลา ตับ ไข่ ผัก ผลไม้ และนมสดรสจืด และกินวิตามินบำรุงที่มีไอโอดีน เหล็ก และโฟลิกทุกวัน เพราะหากขาดไอโอดีนลูกน้อยสมองพัฒนาไม่สมบูรณ์ไอคิวต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
  • ดูแลสุขภาพฟันและช่องปากในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด
  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
  • นอนหลับวันละ 7-9 ชั่วโมงทุกวัน

หลังจากนั้นจะต้องเลี้ยงดูและพัฒนาทักษะของเด็กโดยกระบวนการกระตุ้นผ่านกิจวัตรประจำวัน ในรูปแบบกิน กอด เล่น เล่านอน เฝ้าดูฟัน

เคล็ดลับสร้างสมองลูก เรื่องของการกิน

  • คุณแม่ควรให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเดียวไปจนถึงถึง 6 เดือน และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่กับอาหารตามวัย เน้นข้าว เนื้อสัตว์สลับตับ ไข่ ผัก ผลไม้ในปริมาณเพียงพอสัดส่วนเหมาะสมอาหารตามวัยบดละเอียดไปหยาบจนถึงอายุ 2 ปีขึ้นไป เพราะนมแม่มีสารอาหารที่สำคัญสำหรับการพัฒนาสมองซึ่งไม่มีอาหารใดเทียบได้
  • เมื่อลูกอายุได้ 1-3 ปี ควรให้ลูกกินอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ ในปริมาณเพียงพอ ตามสัดส่วนที่เหมาะสม โดยเน้นกินปลา ตับ ไข่ นม

ทั้งนี้ เมื่อลูกเข้าสู่วัยเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องดูแลให้เด็กกินอาหารถูกหลักโภชนาการ จัดอาหารหลักให้เด็กกินให้ครบทั้ง 3 มื้อ ไม่เว้นมื้อใดมื้อหนึ่ง โดยเฉพาะมื้อเช้า เพราะจะทำให้เด็กความจำดี พัฒนาสมอง และควรจัดอาหารให้ เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเด็ก โดยใน 1 วัน เด็กควรกินอาหารดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ข้าว/แป้ง 8 ทัพพี
  • ผัก 4 ทัพพี
  • ผลไม้ 3 ส่วน
  • เนื้อสัตว์ 6 ช้อนกินข้าว
  • นม 2 แก้ว

เคล็ดลับสร้างสมองลูก เรื่องของการเล่น

  • ตั้งแต่แรกเกิด คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุย เล่นส่งเสียง ร้องเพลงกับลูก
  • ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 เดือน ให้เลือกของเล่นที่มีเสียงและเป็นภาพ และเป็นของเล่นที่เด็กสามารถคว้าจับได้
  • อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี ให้ลูกได้นั่งเล่นของเล่น โดยของเล่นที่แนะนำก็อย่างเช่น บล็อกตัวต่อนิ่ม หรือลูกบอลเล็ก
  • อายุ 2-3 ปี ให้ลูกเล่นรูปต่อเป็นภาพ หุ่นมือ ตุ๊กตา หรือกระโดดปีนป่าย
  • เมื่อลูกมีอายุได้ 3-5 ปี ควรให้ลูกได้เล่นกับเด็กคนอื่น และได้ใช้จินตนาการเกี่ยวกับการดำรงชีวิต

เคล็ดลับสร้างสมองลูก เรื่องของการเล่า

  • คุณพ่อคุณแม่สามารถเล่านิทานให้ลูกฟังได้ตั้งแต่ที่ลูกยังอยู่ในครรภ์ของคุณแม่
  • คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มเล่านิทานให้ลูกฟังเป็นประจำทุกวันไปจนกระทั่งเด็กโต
  • เลือกนิทานที่มีภาพน่ารัก หรือรูปสัตว์ต่าง ๆ
  • ใช้เสียงสูง ต่ำ หรือร้องเพลงประกอบขณะเล่า
  • ควรเล่าให้จบเล่ม และเก็บหนังสือไว้ที่เดิมให้ลูกมองเห็นได้

เคล็ดลับสร้างสมองลูกน้อย

นอกจากนี้ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ควรฝึกลูกให้กินอาหารตรงเวลา ไม่กินจุบจิบ ไม่กินขนมก่อนอาหารมื้อหลัก
  • ส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกายชนิดที่มีแรงกระแทกของข้อ เช่น กระโดดเชือก กระโดดยาง กระโดดตบ เล่นบาสเก็ตบอล โดยทำต่อเนื่องไม่น้อยกว่าครั้งละ 10-15 นาที ทุกวัน วันละ 60 นาที หรือทำแบบสะสมเวลา ร่วมกับการนอนหลับสนิทอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของลูก เช่น ไม่เล่นเกมก่อนนอน ไม่วางโทรศัพท์ไว้บนที่นอน หรือไม่เปิดทีวีทิ้งไว้ในห้องนอน เพื่อให้นอนหลับสนิท ซึ่งจะส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth hormone) ที่สำคัญต่อการเจริญเติบโต การเพิ่มความสูง และควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ให้เป็นไปอย่างปกติ
  • พ่อแม่ควรกอดลูกทุกวันเพื่อให้เด็กรับรู้ว่าพ่อแม่รักและหวังดีเสมอ
  • การอบรมเด็กต้องทำด้วยความรัก ความเข้าใจและใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์บังคับ ฝืนใจ ไม่ดุด่าให้ลูกกลัวและเสียกำลังใจ
  • คอยให้คำแนะนำ พูดชมเชยและให้รางวัลถ้าลูกทำได้ดี ซึ่งรางวัลสำหรับเด็กเล็กเพียงแค่กอด หอมแก้ม ตบมือให้ เท่านี้เด็กก็ภูมิใจแล้ว

อีกทั้งปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการส่งเสริมให้ลูกฉลาด แข็งแรง เติบโตสมวัย ก็คือการเฝ้าดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของลูกตั้งแต่ฟันซี่แรก เพราะหากลูกมีปัญหาฟันผุก็จะทำให้ลูกเกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อ และปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กได้

การมีฟันผุหลายซี่ในปากยังมีความสัมพันธ์กับภาวะแคระแกร็นของเด็ก และเด็กที่มีฟันน้ำนมผุมากจะมีแนวโน้มว่า ฟันแท้จะผุมากขึ้นเช่นกัน หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที โรคจะลุกลามและสูญเสียฟันในที่สุด และอาการเจ็บปวดอาจทำให้ต้องหยุดเรียน ส่งผลกระทบต่อการเรียนด้วย


ที่มา : anamai.moph.go.th

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ลำดับการขึ้นของฟันลูก ฟันซี่แรกขึ้นตรงไหน ฟันน้ำนม ฟันแท้ขึ้นตอนไหน

ลูกหัวเบี้ยวทําไงดี อยากให้ลูกหัวทุยสวย ไม่เบี้ยว ไม่แบน ต้องทำอย่างไร

ลูกนอนไหลตาย เพราะอากาศร้อนเเละควันบุหรี่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

P.Veerasedtakul