เคล็ดลับกินเพื่อลูกในท้องแบบไม่เครียด

คำแนะนำก็คือ คุณแม่ต้องรับประทานอาหารที่มีจำพวกธาตุเหล็ก เกลือแร่ โปรตีน โฟลิคและวิตามินเอให้ได้เป็นประจำทุกวัน และเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเราซึ่งสามารถยกตัวอย่างได้ดังนี้

• งดทานปลาทูน่าหรือปลาที่มีขนาดใหญ่ เพราะว่าปลาเหล่านี้จะมีสารปรอทสูงและจะส่งผลไม่ดีต่อพัฒนาการด้านสมองของลูกน้อย หันมาทานปลาตัวเล็ก กุ้งแห้งหรืองาดำกันดีกว่าค่ะ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูกของลูกน้อย
• งดทานของสุกๆดิบๆ
• งดทานเนื้อสัตว์แปรรูป ยกตัวอย่างเช่น ปลาแซลมอนรมควัน เพราะถ้าหากปรุงไม่สุกเจ้าแบคทีเรียในเนื้อปลาที่เรียกว่า ลิสเทอเรีย นี้จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่สบายและเป็นหวัดได้ง่าย ทั้งยังนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ทางด้านสุขภาพ การคลอดก่อนกำหนดและการแท้งบุตรอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณแม่ไม่สามารถรับประทานปลาแซลมอนได้นะคะ เพียงแต่ควรรับประทานประเภทที่สุกแล้วเท่านั้น เพราะปลาแซลมอน มีวิตามินดีเป็นส่วนผสมและมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันของทารกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของไตรมาสสองและสาม
• งดทานเนยและชีส
• ควรบริโภคตับ ซึ่งในตับจะมีทั้งวิตามินเอ ธาตุเหล็ก เกลือแร่ โฟลิค และโปรตีนอยู่ครบ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะถ้าหากมากเกินไปจะทำให้เสี่ยงต่อการแท้งบุตรและเด็กคลอดออกมาพิการได้
• ควรบริโภคน้ำมันตับปลา เพราะมีส่วนผสมของดีเอชเอและโอเมก้า 3 ซึ่งจะไปช่วยในเรื่องของพัฒนาการด้านสมองของทารกในครรภ์ให้มีความเฉลียวฉลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากบริโภคมากเกินไปก็จะทำให้เลือดแข็งตัวได้ยาก และไม่ควรรับประทานในช่วงใกล้คลอดหรือสามเดือนหลังของการตั้งครรภ์
• ทานผักและผลไม้ให้มาก เพราะในผักและผลไม้จะมีกรดโฟลิคสูง ช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่าย และถ้าเป็นไปได้ควรรับประทานประเภทออแกนิคเพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีจำพวกยาฆ่าแมลง แต่ข้อเสียคือจะมีราคาสูง
• เลี่ยงรับประทานอาหารที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกหรือโฟม ถ้าเป็นไปได้ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่
• ควรบริโภคนมที่ผ่านการพลาสเจอไรท์แล้ว เพื่อไปช่วยในการเสริมสร้างกระดูกของคุณแม่ให้แข็งแรง

ทุกอย่างอยู่ที่ความพอดีค่ะ มากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็มีโทษ เพียงแค่คุณแม่เลือกที่จะทานแต่ของมีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะเท่านี้ การกินเพื่อลูกในท้องก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวลอีกต่อไปแล้วใช่ไหมละคะ

ขอบคุณที่มา: https://www.theguardian.com

บทความที่เกี่ยวข้อง:

ลูกกระดูกเปราะเพราะผงชูรสจริงหรือ? คำอธิบายจากหมอ

ประโยชน์ของการมีท้องใหญ่