พ่อแม่หัวร้อน เขกกะโหลก ตบหัว รังแกลูกเหมือนในละครดราม่าอ่านไว้!!

โบราณว่าการตบหัว ทำโทษลูกด้วยการเขกกะโหลก จะทำให้เด็กมีเคราะห์ร้ายต่าง ๆ นานา เจ็บป่วยง่ายไม่สบาย รวมถึงการทำให้ลูกฉี่รดที่นอนบ่อยด้วย จริงหรือ?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เขกกะโหลก ตบหัวลูก โบราณว่าจะทำให้ลูกไม่สบายบ่อย ฉี่รดที่นอนบ่อย? พ่อแม่ที่ชอบ เขกกะโหลก ตบหัวลูก ทำร้ายรังแกลูก ในสมัยก่อนนั้นคนโบราณมีกุศโลบายที่แยบยลมาเป็นคำเตือนที่ห้ามไม่ให้พ่อแม่ทำร้ายลูกหลานตัวเอง ด้วยคำพูดว่า “อย่าไปตีหัวลูกนะ เดี๋ยวคืนนี้มันจะฉี่รดที่นอน” นอกจากนี้ยังว่า ถ้าเขกหัวลูกจะทำลูกมีเคราะห์ร้าย ทำให้ขวัญเด็กหนีจากตัวไป ส่งผลทำให้เด็กเจ็บป่วยง่าย ไม่สบายบ่อย ๆ ทำให้เด็กไม่ฉลาด เรียนรู้ช้า ซึ่งอุบายนี้ได้กลายมาเป็นข้อห้ามที่ไม่ให้พ่อแม่คอยเอาแต่เขกหัวลูก โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก

พ.ญ.เพียงทิพย์ พรหมพันธุ์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้อธิบายว่า การตบ ตี หรือเขกศีรษะลูกนั้นนอกจากจะทำให้เด็กรู้สึกเจ็บมากแล้ว บางครั้งการใช้ความรุนแรงอาจทำให้สมองของเด็กกระทบกระเทือนได้ ถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ เพราะกระหม่อมเด็กยังปิดไม่สนิท หัวหรือกระโหลกของเด็กนั้นยังไม่แข็งแรงพอ และอีกอย่างการตบหัว ตีหัวที่ถือว่าศีรษะเป็นของสูงนั้น ถือเป็นสิ่งไม่ดีและกิริยามารยาทไม่ดี การที่พ่อแม่ทำแบบนี้ก็จะมีส่วนให้ลูกจดจำนำไปทำกับผู้อื่นซึ่งก็จะส่งผลไม่ดีต่อตัวเด็กเอง

หัว ของลูก อย่าไปตีเลย ตบหัว อันตรายเปล่า ๆ

ส่วนความเชื่อที่ว่า การตีหัวลูกจะทำให้เด็กฉี่รดที่นอนหรือขวัญหายนั้น อธิบายได้ว่า ลูกที่ถูกตีนั้นบางครั้งอาจพ่วงด้วยการถูกดุ ซึ่งก็ส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจไปด้วย จนทำให้ตอนกลางคืนเก็บไปฝันร้ายหรือระบายความรู้สึกที่ไม่สบายใจ ออกมาด้วยการปัสสาวะรดที่นอนก็เป็นได้ ในหลักทางจิตวิทยากุศโลบายในเรื่องนี้ก็คือคือความหวังดีของคนโบราณ แต่ยังไม่มีคำอธิบายที่เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะสาเหตุที่แท้จริงของการฉี่รดที่นอนนั้นร้อยละ 85 มาจากพันธุกรรม และเป็นได้โดยธรรมชาติของเด็ก เมื่ออายุ 2-3 ขวบ จะมีเพียง 1 ใน 3 ที่ยังปัสสาวะรดที่นอน และจะหายไปเมื่อเข้าสู่อายุ 6 ขวบ แต่หากยังไม่หายอาจเป็นภาวะที่เกิดจากการควบคุมการปัสสาวะไม่ได้ ซึ่งพบในเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป หากพบว่าลูกในวัยนี้มีการปัสสาวะรดที่นอน ควรพาลูกไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ.

การกระทำพ่อแม่ ตบหัว ทำร้ายจิตใจลูก แบบไม่รู้ตัว!!!

การกระ ทำพ่อแม่ ทำร้ายจิตใจลูก หากพ่อแม่อยากให้ลูกเติบโตขึ้นอย่างคนที่ “เก่ง ดี มีสุข” คนสำคัญที่จะสามารถสร้างให้ลูกได้ ก็คือพ่อแม่ แต่บางครั้งพ่อแม่อาจมองข้ามการกระทำของตัวเองที่ส่งไปให้ลูก การกระทำของพ่อแม่ที่อาจทำร้ายจิตใจลูก โดยไม่รู้ตัว มาให้ทราบกันค่ะ

การกระทำ พ่อ แม่ ทำร้ายจิตใจลูก  แบบไม่รู้ตัว!!!

ด้วยความรักของพ่อแม่ที่อยากให้ลูกได้ดีมีอนาคตสดใส บางครั้งอาจจะเพลี่ยงพล้ำใส่อารมณ์กับลูก จนหลุดคำพูด หรือการกระทำที่ไม่ดีจนไปกระทบกับจิตใจของลูก ซึ่งพ่อแม่รู้กันหรือไม่ว่าคำพูด หรือการกระทำที่ไม่ดี สามารถสร้างปมในใจลูกไปจนโตได้ และต่อให้ลูกทำสิ่งต่างๆ ได้ดีแค่ไหน เขาก็จะมีคำพูดร้ายๆ จากพ่อแม่ที่คอยหลอกหลอนเขาอยู่ตลอดเวลา คำพูดที่ไม่ดี การกระทำที่แย่ๆ จากพ่อแม่ คือตัวขัดขวาง เป็นเสมือนอุปสรรคให้ลูกไปไม่ถึงฝั่งฝัน และไม่ประสบความสำเร็จกับทุกเรื่องในชีวิต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

กำลังใจที่ดีและสำคัญที่สุดในชีวิตลูก ก็คือพ่อกับแม่ แล้วถ้าหากคุณกำลังทำหน้าที่พ่อแม่ให้กับหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ คุณจะไม่อยากเห็นลูกที่รักเติบโตขึ้นอย่างเด็กที่มีคุณภาพกันหรือคะ   และนี่คือเรื่องที่พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจทำร้ายจิตใจลูกไปโดยไม่รู้ตัว


ที่มา : www.knowledgesharing.thaiportal.net

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

14 ข้อที่จะบอกว่าคุณเป็น “พ่อแม่รังแกฉัน” กันหรือเปล่า

อะไรบ้างที่บอกว่าคุณ เป็นพ่อแม่ที่แย่มาก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Napatsakorn .R