อายแชโดว์ คนท้องใช้ได้หรือไม่ คนท้องแต่งตาได้หรือไม่ ส่งผลกับลูกมั้ย

อายแชโดว์ คนท้องใช้ได้หรือไม่ คนท้องแต่งตาได้หรือไม่ ส่งผลกับลูกมั้ย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อายแชโดว์ ผู้หญิงกับเรื่องความสวยเป็นของคู่กัน แล้วแบบนี้คุณแม่สามารถใช้ อายแชโดว์ ได้หรือไม่ หากทาแล้วจะส่งผลอะไรกับลูกหรือเปล่า เราไปดูกันเลยค่ะ

 

คนท้อง สามารถใช้ อายแชโดว์ ได้หรือไม่

อายแชโดว์

คุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรระวังเรื่องสิวอุดตัน เพราะอาจมีการขับของซีบัมหรือไขมันบนใบหน้ามากขึ้นกว่าช่วงปกติ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ ระบุว่า “non-comedogenic” และทำความสะอาดผิวให้หมดจด (double cleansing) และทุกครั้งที่จะซื้อผลิตภัณฑ์กลุ่มเมคอัพ ตรวจดูให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีส่วนผสมของสารกลุ่ม retinoids สารนี้มักผสมในอัพสำหรับผิวที่ต้องการควบคุมความมัน เป็นสิวง่าย

 

สิวอุดตันขึ้นเต็ม หลังแต่งหน้า ผิดปกติหรือไม่ 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่ ต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้ดี ทุกครั้งหลังใช้ เพื่อป้องกันการเกิดสิวอุดตัน เนื่องจากฮอร์โมน ที่เปลี่ยนไป ทำให้คุณแม่บางท่านมีสิวเห่อขึ้นได้ง่าย เราขอแนะนำ ให้คุณแม่ทำจิตใจให้สบาย นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ ออกกำลังกายบ้าง งดของมึนเมา ก็จะช่วยให้ผิวพรรณมีสุขภาพดีขึ้น ผ่องใส แม้ไม่ต้องใช้เครื่องสำอาง

 

การเลือกเครื่องสำอางสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ มีวิธีการเลือกอย่างไร

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อายแชโดว์

  • เลือกผลิตภัณฑ์ออแกนิก

ผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติปราศจากสารเคมี อย่างที่บอกไปนั่นแหละค่ะ คนท้องผิวพรรณและฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่อ่อนโยน อาจเป็นการทำร้ายผิวได้ เพราะผิวของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์อ่อนแอเป็นอย่างมาก ระคายเคืองได้ง่าย จึงควรดูแลอย่างพิถีพิถัน

 

  • สำหรับคุณแม่ที่หาหมอผิวหนัง

เช่น หมอสิวอยู่เป็นประจำ ควรบอกคุณหมอด้วยว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ เพื่อให้คุณหมอเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ไม่เป็นอันตรายต่อคุณแม่นะคะ สวยได้แต่ต้องสวยอย่างถูกวิธี ถูกสถานการณ์ด้วยนะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • หากใช้เครื่องสำอางตัวไหนแล้วแพ้ ให้หยุดใช้ทันที

แต่หากหยุดใช้แล้วยังไม่หาย ให้รีบไปปรึกษาแพทย์เลย อย่าฝืนใช้ต่อหรือทดลองใช้ต่อนะคะ ผิวคุณแม่อ่อนแอมาก

 

  • ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง

เช้าและเย็นให้สะอาดหมดจด และบำรุงด้วยโลชั่นที่เหมาะสมกับสภาพผิวเดิมเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวสุขภาพดีอยู่สม่ำเสมอ

 

  • เลือกเครื่องสำอางที่น่าเชื่อถือ

มีเลขที่จดแจ้งชัดเจน ตรงตามชื่อแบรนด์ และหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางยี่ห้อแปลก ๆ

 

เครื่องสำอางประเภทไหนที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง

  • ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัฑณ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ขาว (Whitening)

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ขาว หรือผลัดผิว ที่เราคุ้นหูได้ยินกันบ่อย ๆ ได้แก่ กรดผลไม้หรือ AHA เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ ถ้าต้องการใช้ ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำก่อน นอกจากนี้การขัดถู หรือสครับบ่อยเกินความจำเป็น ก็อาจทำร้ายผิวมากขึ้นไปอีก

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ครีมแก้ฝ้า 

เนื่องจาก ระหว่างตั้งครรภ์ จะมีฮอร์โมนออกมา ค่อนข้างมาก ทำให้สีผิวเข้มขึ้นในหลาย ๆ ตำแหน่ง เช่น บริเวณรักแร้ ขาหนีบ หน้าท้อง และรอบหัวนม  โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าที่คุณผู้หญิงกลัวกันมากที่สุด คือ ฝ้า ดังนั้นจึงสรรหาครีมต่าง ๆ มาทาเพื่อให้รอยดำต่าง ๆ เหล่านี้จางลง ต้องระวังครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีส่วนผสมของโลหะหนักเช่น ปรอท ซึ่งนอกจากใช้ติดต่อกันจะทำให้เกิดฝ้าถาวรแล้ว ปรอท ยังมีผลต่อระบบประสาท ทำให้ทารกในครรภ์พิการได้

 

  • ยากลุ่มรักษาสิว 

กลุ่มยารักษาสิว เนื่องจาก อาจมีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ ซึ่งจากรายงานพบว่า ถ้าได้รับโดยการรับประทาน ขณะตั้งครรภ์สามารถทำให้เด็กเกิดความผิดปกติหรือแท้งได้ โดยปกติแพทย์ จะหลีกเลี่ยงการให้ยากลุ่มนี้ ทั้งในรูปของยารับประทาน และชนิดทาที่ผิวหนัง

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : ทำไม ยารักษาสิว จึงอันตรายกับลูกในท้อง 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 75

 

แพ้เครื่องสำอาง มีอาการอย่างไร 

  • แพ้ทางผิวหนังที่พบได้บ่อยคือเกิดจากการระคายเคืองหรือการสัมผัส โดยอาจเกิดเป็นตุ่มหรือผื่นแดง
  • อาจเป็นตุ่มพอง ตุ่มใสหรือมีน้ำเหลืองซึมได้ อาจมีอาการแสบหรือคันร่วมด้วย
  • ให้หยุดใช้ สักพักอาการจะทุเลาลง แต่ถ้าไม่หาย หรือกลับเป็นมากขึ้น แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนัง เพื่อพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
  • ควรแจ้งแพทย์ด้วยทุกครั้ง ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ เพื่อเลือกยาที่ไม่มีอันตรายต่อทารกในครรภ์ โดยทั่วไปแล้ว การแพ้แบบนี้ ไม่มีผลกระทบต่อเด็ก จึงไม่ต้องกังวลมากนัก

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : เคสสุดแปลก แม่เป็นโรคผื่นแพ้ แพ้ลูกตัวเอง เป็นผื่นแดงทั่วท้อง ขณะตั้งครรภ์

 

วิธีสังเกตเครื่องสำอางต้องห้าม สำหรับแม่ท้อง

อายแชโดว์

แม่ ๆ สามารถสังเกต ส่วนผสม ที่อยู่ข้างขวด หรือฉลากบนขวด ของผลิตภัณฑ์ ที่คุณแม่ใช้อยู่ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่ และลูกน้อย

  • ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant)

ให้คุณแม่สังเกตตรงส่วนประกอบค่ะ ถ้าไม่มี อะลูมิเนียม คลอไรด์ (Aluminum chloride hexahydrate) เป็นใช้ได้ เนื่องจากอะลูมิเนียม คลอไรด์ ซึมเข้าผิวหนังและผ่านไปถึงรกหรือน้ำนม ทำให้ลูกในครรภ์ได้รับไปด้วย และอาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

 

  • สารเคมีในกลุ่มของ BHA (Beta hydroxy acids)

ที่มี Salicylic acid, 3-hydroxypropionic acid, trethocanic acid และ tropic acid เนื่องจากเป็นสารที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ค่ะ

 

  • ครีมกันแดด

ที่มีส่วนผสมดังต่อไปนี้ค่ะ Avobenzone, homosalate,  octisalate,  octocrylene,  oxybenzone,  oxtinoxate,  menthyl anthranilate และ oxtocrylene เพราะสารเคมีจะไปรบกวนระบบฮอร์โมนในร่างกาย

 

  • สบู่และแชมพู

ควรหลีกเลี่ยงสบู่และแชมพู ที่มีสารเหล่านี้เป็นส่วนประกอบค่ะ Diethanolamine (DEA), Oleamide DEA, Lauramide DEA และ Cocamide DEA เนื่องจากทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากในส่วนผสมมีเกลือ nitrates อยู่ด้วยจะเกิดเป็น Nitrosodiethanolamine (NDEA) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งทันทีค่ะ

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : สบู่อาบน้ำเด็ก แนะนำสบู่เหลวอาบน้ำ อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองสำหรับลูกน้อย

 

  • น้ำยายืดผม และกาวต่อขนตา

ที่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde), quaternium-15, dimethyl-dimethyl (DMDM), hydantoin, imidazolidinyl urea, diazolidinyl urea, sodium hydroxymethylglycinate, และ 2-bromo-2-nitropropane-1, 3-diol (bromopol) เนื่องจากเป็นสารระเหยที่มีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง

 

  • พาราเบน

หรือหาส่วนผสมเหล่านี้ค่ะ propyl, butyl, isopropyl, isobutyl และ methyl parabens เนื่องจากเป็นสารกันเสียและสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และมีการตกค้างของสารเคมีในร่างกายเมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน อาจจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นทางที่ดีที่สุด คือหยุดผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีตัวนี้ก่อนจะวางแผนตั้งครรภ์

 

  • น้ำหอม

ที่มี Phthalates, diethyl และ dibutyl เนื่องจาก ทำให้ระบบทางเดินหายใจ และระบบประสาท เกิดการระคายเคืองได้ ส่งผลทำให้ปวดและเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน และเลวร้ายที่สุด คือ สามารถทำลายอวัยวะภายในได้เลยทีเดียว

 

  • ผลิตภัณฑ์ใส่ผม ครีมกำจัดขน และน้ำยาดัดผม

ที่มี Thioglycolic acid, labeled acetyl mercaptan, mercaptoacetate, mercaptoacetic acid และ thiovanic acid เนื่องจากทำให้ระบบทางเดินหายใจและผิวหนังระคายเคือง

 

  • ยาทาเล็บ

ที่มีสาร Toluene, methylbenzene, toluol และ antisal 1a เนื่องจากดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทำให้ทารกมีความพิการ และทำให้สมองเติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น

 

ที่มา : (Lovellatrendy),(Thairath),(Cosmenet)

บทความโดย

Nanticha Phothatanapong