อาเจียน ท้องเสีย เสี่ยงติดเชื้อโนโรไวรัส ที่กำลังระบาดหนัก

ช่วงเดือนนี้หมอได้ตรวจเด็กๆ ที่มีอาการอาเจียนเยอะตามมาด้วยท้องเสีย หลายคนมากๆ บางคนมีอาการขาดน้ำมาก จนต้องให้น้ำเกลือ นอนโรงพยาบาล เมื่อเก็บอุจจาระส่งตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการก็พบว่าติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าโนโรไวรัส (Norovirus)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันนะคะ

 

เชื้อโนโรไวรัสคืออะไร?

โนโรไวรัส (Norovirus) คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุของการระบาดของการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ก่อให้เกิดอาการอาเจียนและท้องเสียที่พบบ่อยในทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เชื้อไวรัสชนิดนี้มีมานานแล้วค่ะไม่ได้เป็นเชื้อที่เกิดใหม่ เดิมชื่อว่า Norwalk virus ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรค “ไวรัสลงกระเพาะ” มานานแล้ว นั่นเองค่ะ

 

เชื้อโนโรไวรัสติดต่อได้อย่างไร?

โนโรไวรัสเป็นเชื้อโรคที่ทนและติดต่อแพร่กระจายได้ง่าย เชื้อไวรัสชนิดนี้พบว่ามีการติดต่อได้บ่อยในเด็กเล็ก เนื่องจากเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำดื่ม อาหาร สิ่งคัดหลั่งเช่น อุจจาระ อาเจียน จึงอาจติดเชื้อได้เมื่อสัมผัสของเล่น หรือวัตถุสิ่งของที่มีเชื้อจากเด็กที่ป่วยแล้วนำมาแตะจมูก ปาก หรือตา , การสัมผัสละอองเสมหะจากอาเจียนของผู้ป่วย เด็กที่ติดเชื้อโนโรไวรัสอยู่อาจจะสามารถแพร่เชื้อไปสู่เพื่อนๆได้อย่างรวดเร็วหากมีการกินอาหารหรือการใช้ภาชนะร่วมกัน หรือสัมผัสใกล้ชิดเช่นจับมือกัน บางครั้งพบการระบาดในโรงเรียนจากการที่ผู้ประกอบอาหารมีการติดเชื้อชนิดนี้อยู่

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณหมอจะวินิจฉัยการติดเชื้อโนโรไวรัสในทางเดินอาหารได้อย่างไร?

หากเด็กหรือผู้ใหญ่มีอาการอาเจียนเยอะๆ ร่วมกับท้องเสีย คุณหมออาจจะขอเก็บตัวอย่างอุจจาระส่งตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเชื้อโนโรไวรัส จึงจะทราบได้ว่ามีการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ค่ะ

 

หากสงสัยว่าลูกมีอาการที่สงสัยการติดเชื้อโนโรไวรัสควรทำอย่างไร?

เนื่องจากยังไม่มียาต้านไวรัสจำเพาะในการรักษา และการให้ยาปฏิชีวนะก็ไม่ได้มีประโยชน์ในการกำจัดเชื้อไวรัสชนิดนี้ หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย จากการติดเชื้อชนิดนี้ หากอาการไม่มาก ทานน้ำ ทานข้าวได้ปกติ ก็อาจให้ลูกทานยาแก้อาเจียน น้ำเกลือแร่ ทานอาหารอ่อนๆ และดูอาการที่บ้านก่อนได้ เพราะหากอาการไม่รุนแรงจะหายเองได้ภายใน 3-5 วัน แต่หากลูกมีอาการซึม ตาโหล ปากแห้งอันบ่งถึงภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยคือ การขาดน้ำเนื่องจากการอาเจียนและท้องเสีย ทานไม่ได้ หรือมีไข้สูง ควรรีบไปพบคุณหมอทันที ซึ่งคุณหมออาจจะรับตัวไว้ดูอาการในโรงพยาบาล ให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด ร่วมกับการรักษาตามอาการอื่นๆ ค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เราจะการป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อโนโรไวรัสได้อย่างไร?

เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันเชื้อไวรัสชนิดนี้ เราจึงสามารถป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัสได้โดยใช้หลักการเช่นเดียวกับการป้องกันการติดเชื้อในทางเดินอาหารทั่วไปค่ะ ได้แก่ การสอนเด็กๆ ให้รู้จักการล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะหลังการใช้ห้องน้ำหรือก่อนทานอาหาร ดื่มน้ำและทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกเสมอ หรือตามสโลแกน “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” นั่นเอง

 

สำหรับการแพร่กระจายและการระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ สามารถป้องกันได้โดยหากลูกมีอาการอาเจียนหรือท้องเสีย ควรงดไปโรงเรียนหรือสถานที่รับเลี้ยงเด็กเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือควรทำความสะอาดและทิ้งเศษอาเจียนและอุจจาระอย่างระมัดระวังโดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ซับไม่ให้มีการฟุ้งกระจายก่อนและทิ้งลงในถุงพลาสติกแล้วผูกให้มิดชิดก่อนนำไปใส่ถังขยะนะคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แม่เล่า ลูกท้องเสียอย่านิ่ง ไวรัสโรต้าอาจถามหา

ลูกอาเจียนบ่อยๆ อาจเป็นโรคกรดไหลย้อนได้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา