อาการเจ็บป่วย เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใคร แม้เด็กจะอายุยังน้อย แต่ก็ป่วยได้ตลอดเวลาเหมือนผู้ใหญ่ แถมเด็กยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่อีกด้วย ดังนั้น อาจจะเห็นว่าเด็กบางคนก็ป่วยบ่อยซะเหลือเกิน ซึ่งอาการป่วยบางอย่าง ก็รักษาหายได้ง่าย ๆ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล แต่อาการป่วยบางอย่าง ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงอาการอันตรายที่เกิดขึ้นได้กับเด็ก และเป็นภัยต่อชีวิตเด็กได้ อาการอันตราย ที่ต้องรีบพาลูกน้อยไปโรงพยาบาล มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
อาการอันตรายที่เกิดได้กับทารก
เด็กทารกอาจจะป่วยบ่อย ๆ แต่อาการบางอาการ ก็ถือว่าอันตรายต่อเด็ก ซึ่งคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอยู่เสมอ ว่าลูกมีอาการดังต่อไปนี้หรือไม่
- หายใจเร็วและถี่ หากเด็ก ๆ หายใจมีเสียงดังวี๊ดและแหลมสูง อาจเป็นไปได้ว่าเด็กกำลังมีภาวะหลอดลมตีบ เมื่อคุณแม่สังเกตพบอาการเหล่านี้ ไม่ควรนิ่งนอนใจเด็ดขาด ควรรีบพาลูกเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาให้ไวที่สุด
- หยุดหายใจ ปกติแล้ว เด็กจะหายใจเฉลี่ย 20-40 ครั้งต่อนาที แต่หากสังเกตเห็นว่าเด็กหยุดหายใจ ให้รีบพาเด็กไปโรงพยาบาลทันที
- สีปากเปลี่ยนเป็นสีเขียว เด็กทั่วไปจะมีปากสีชมพู แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ลูกน้อยของเราปากเป็นสีเขียวหรือออกไปทางสีม่วง ก็เป็นไปได้ว่าลูกมีภาวะซัยยาโนสิส (Cyanosis) ที่อาจเกิดจากโรคทางสมอง โรคปอด หรือโรคหัวใจ แต่บางกรณี ก็อาจเกิดจากการที่เด็กอยู่ในที่ที่อากาศเย็นจัดก็เป็นได้
- มีไข้สูง หากเด็กเป็นไข้และมีอุณหภูมิร่างกายสูง 39-40 องศา เด็กอาจมีอาการชักได้ ซึ่งอาการชักนั้น อาจเกิดจากภาวะอื่น ๆ เช่น การอักเสบของทางเดินหายใจ หูชั้นกลางอักเสบ ปอดบวม ภาวะติดเชื้อทางระบบประสาท หรือภาวะขาดน้ำ เป็นต้น
- ตัวเหลือง ถ้าบริเวณใบหน้า ลำตัว แขน และขาของเด็กเหลืองผิดปกติ ควรพาเด็กไปตรวจเลือดโดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้นาน เด็กอาจชักได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : โรคหน้าหนาว ต้องระวังลูกป่วย ทารก เด็กเล็ก เสี่ยงโรคร้าย แถมมีโรคแทรกซ้อนรุนแรงถึงชีวิต!
หากลูกน้อยของคุณแม่มีอาการเหล่านี้ หรือทั้งมีไข้ เซื่องซึม ท้องเสีย ไม่ยอมกินนม หรืออาเจียน ขออย่าได้นิ่งนอนใจและคิดเพียงว่าเป็นแค่อาการเจ็บป่วยธรรมดา ให้พาเด็ก ๆ เข้าพบคุณหมอทันที เพื่อรับตรวจร่างกายจะดีที่สุดครับ
อาการอันตรายที่เด็กทั่วไปเป็นกันได้ พ่อแม่อย่าชะล่าใจ
อาการน้ำมูกไหล เป็นหวัด ไอ ปวดท้อง หรือผื่นคัน เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับเด็กกำลังโต อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้ง อาการบางอย่าง ก็เกิดจากโรคร้ายที่แอบแฝงอยู่ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำ คือ หมั่นสังเกตลูก ๆ ให้ดี ว่ามีอาการที่น่ากังวลไหม ซึ่งเด็กเริ่มโตบางคน อาจมีอาการที่เป็นอันตรายต่อไปนี้
- ปวดหัวอย่างมาก อาการปวดหัว เกิดขึ้นได้กับเด็ก ๆ แต่หากเด็ก ๆ ปวดหัวเป็นเวลานาน กินยาก็ไม่หาย หรือปวดหัวอย่างรุนแรง อาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคบางอย่างได้ รวมทั้ง หากเด็กไม่กินข้าว มีไข้ อาเจียน หรือเซื่องซึม ก็ยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่ ซึ่งอาการเหล่านี้ อาจบ่งชี้ ว่าลูกของเราติดเชื้อรุนแรง หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบก็เป็นได้
- มีผื่นขึ้นทั่วตัว หากเด็กมีผื่นขึ้นที่แขนหรือเท้าเพียงเล็กน้อย ก็ไม่ต้องเป็นกังวลใจไป แต่หากเมื่อไหร่ที่ผื่นกระจายขึ้นทั่วตัว และกลายเป็นผื่นขนาดเล็กสีแดง หรือสีม่วง กดลงไปแล้วไม่เปลี่ยนสี ก็ควรรีบพาลูกน้อยไปหาคุณหมอโดยทันที เพราะอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเด็กมีอาการไข้ร่วมด้วย
- ปวดท้องมาก หากลูกปวดท้อง อาเจียนบ่อย มีอาการท้องเสียติดต่อกัน 8 ชั่วโมง อาจทำให้ลูกน้อยเกิดภาวะร่างกายขาดน้ำได้ ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากคุณหมออย่างใกล้ชิด
- คอแข็ง อาการคอแข็งอาจเกิดจากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยปกติแล้ว อาการคอแข็งนั้น อาจเกิดจากกล้ามเนื้อตึงหรืออักเสบ หากลูกมีอาการคอแข็งเพียงอย่างเดียว อาจเกิดจากการนอนตกหมอน แต่หากเด็กคอแข็งเพราะเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เด็กจะมีอาการไข้และปวดศีรษะร่วมด้วย ถ้าคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าลูกยืนตัวตรงคอแข็งทื่อ ไม่ยอมหันซ้ายหันขวา ควรพาลูกน้อยไปตรวจอาการกับคุณหมอทันที
สุขภาพของลูกน้อยนั้น เป็นเรื่องที่พ่อแม่และผู้ปกครองทุกท่านไม่ควรมองข้าม แม้ว่าอาการป่วยจะเกิดขึ้นได้ แต่หากพบว่าลูกน้อยรู้สึกไม่สบายอย่างรุนแรง มีการผิดปกติต่าง ๆ เกิดขึ้น ควรรีบพาเด็กไปโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษา หากเด็กมีอาการยังไม่รุนแรงมาก ก็จะได้รักษาได้หายขาดครับ
ที่มา : mamypoko , webmd , amazonaws , mamypoko
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีรับมือลูกป่วยตอนเดินทาง การปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากลูกเจ็บป่วย และเคล็ดลับการป้องกันไม่ให้ลูกป่วยระหว่างการเดินทาง
เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ลูกป่วยเป็นอะไรได้บ้างในฤดูกาลต่างๆ
ลูกป่วยกระทันหัน มีผื่น ตัวร้อนมาก เซื่องซึม ต้องทำอย่างไร
แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับลูกไม่สบาย ได้ที่นี่!
ลูกไม่สบาย อาการแบบไหน ที่แม่ควรรีบพาไปหาหมอคะ