อัลตราซาวด์ บอกน้ำหนักตัวเด็กได้หรือไม่
อัลตราซาวด์ นอกจากจะสามารถบอกเพศของเด็กในท้องได้แล้วยังช่วยในการคำนวณน้ำหนักของทารกได้ แต่ว่าการตรวจอัลตราซาวด์นั้นมักจะคลาดเคลื่อนเมื่อใช้คำนวณน้ำหนักทารกในครรภ์
ซึ่งภาพอัลตราซาวด์นั้นสามารถคาดคะเนน้ำหนักของลูกน้อยได้ แต่ก็ยังคลาดเคลื่อนมากกว่าหรือน้อยกว่าถึงราวๆ 2.5 กิโลกรัม เพราะวิธีการคาดคะเนน้ำหนักผ่านอัลตราซาวด์มีหลายทางและอาจมีความคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไป จึงไม่แนะนำให้ใช้การอัลตราซาวด์ สำหรับการวางแผนผ่าคลอดที่คาดคะเนจากน้ำหนักของลูกในครรภ์ครับ
ปัจจุบันมีสูตรการคำนวณนำ้หนักทารกมากกว่า 30 สูตรจากการอัลตราซาวด์ ส่วนใหญ่คาดคะเนจากเส้นรอบวงศีรษะ รอบตัว ความยาวขา และอื่นๆ และยังสามารถคาดคะเนอายุของทารก อายุครรภ์ และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งมีความแม่นยำแตกต่างกันไป
นอกจากนี้พยาบาลผดุงครรภ์หรือคุณหมอสามารถคาดคะเนน้ำหนักทารกได้โดยใช้มือคลำที่ท้องเมื่อตรวจครรภ์ ซึ่งช่วยตรวจตำแหน่งของทารกได้ด้วย แต่การตรวจแบบนี้ก็ยังคำนวณน้ำหนักของทารกได้ไม่แม่นยำนัก
เด็กตัวใหญ่ต้องผ่าคลอดเสมอจริงไหม ติดตามได้หน้าถัดไปครับ
เด็กตัวใหญ่ต้องผ่าคลอดเสมอจริงหรือ?
คุณแม่หลายคนอาจจะเคยได้ยินวิธีการเพิ่มขนาดตัวของทารกในครรภ์เพราะตองการให้ลูกตัวใหญ่ หรือแม้กระทั่งเชื่อว่าสามารถนัดเวลาผ่าคลอดจากการคำนวณน้ำหนักของทารกผ่านการอัลตราซาวด์ อีกทั้งแม่หลายคนเชื่อว่าหากลูกหนักมากกว่า 3 กิโลกรัมจะต้องผ่าคลอด
คุณแม่นามว่าอแมนดาเล่าเรื่องการคลอดของเธอให้ฟังว่า “คุณหมอของฉันต้องการให้ฉันทำการผ่าคลอด เพราะลูกคลอดช้ากว่ากำหนด ฉันอัลตราซาวด์ก่อนที่จะคลอด คุณหมอบอกว่าลูกน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม แต่ปรากฏว่าลูกฉันหนักเกือบ 4 กิโลกรัม ซึ่งหนักเกินกว่าที่คาดไว้มาก!”
มีการศึกษาหลายชิ้นระบุว่าเด็กตัวใหญ่ที่เห็นจากการอัลตราซาวด์มักจะต้องผ่าคลอด แต่ก็ไม่เสมอไปครับ
ซึ่งหากคุณอัลตราซาวด์ระหว่างการตั้งครรภ์ระยะที่ 3 คุณอาจจะต้องระวังเรื่องต่อไปนี้
- ตำแหน่งรก
- ตำแหน่งทารก
- ปริมาณน้ำคร่ำ
- ลักษณะทางกายภาพ
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอหรือพยาบาลผดุงครรภ์ เพราะไม่จำเป็นว่าเด็กตัวใหญ่จะต้องผ่าคลอดเสมอไปครับ
ที่มา verywell.com