อยู่ดีๆ ลูกก็เดินไม่ได้ ยืนไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้!! แม่แชร์ ลูกติดเชื้อไวรัส MSP ทำให้เดินไม่ได้เฉียบพลัน

คุณแม่นิคเล่าประสบการณ์เมื่อ อยู่ๆ วันหนึ่ง ลูกชายวัย 7 ขวบ ป่วยจนไม่สามารลุกขึ้นยืนหรือเดินได้ ลูกป่วยเป็นอะไร? มันเกิดได้ยังไง? อันตรายหรือไม่? แล้วลูกจะกลับมาเดินได้หรือเปล่า?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เริ่มแรกเลยคือน้องเป็นโรคมือเท้าปากก่อน หลังจากหายจากมือเท้าปากประมาณสองอาทิตย์ แม่นิคก็นึกว่าลูกชายดีขึ้นแล้ว เลยพาไปเรียนว่ายน้ำที่โรงเรียนตามปกติ

แต่หลังจากเรียนว่ายน้ำตอนเช้า ช่วงเย็นน้องก็มีไข้สูงแบบเฉียบพลัน

มีอาการอาเจียน กินอะไรก็ออกหมด กินยาลดไข้ไข้ลด หมดฤทธิ์ยาตัวร้อน

เลยพาน้องไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล คุณหมอบอกน้องน่าจะติดเชื้อไวรัส คุณหมอก็ให้ยามาทานแต่คุณหมอไม่ได้บอกว่าน้องติดเชื้อไวรัสอะไร แม่นิคก็ให้ลูกชายกินยาตามที่หมอสั่ง

ครบทุกตัวจนอาการน้องดีขึ้น แต่ก็มีอาเจียนบ้างเป็นระยะ

แต่หลังจากนั้นก็เริ่มสังเกตุน้อง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น้องกินข้าวน้อยลง

เบื่ออาหาร

แต่ก็ยังไม่สงสัยอะไรมาก

แต่น้องเปลี่ยนไปเยอะ เริ่มผอม ผิวคล้ำลง กินข้าวน้อย จากเด็กที่กินข้าวเยอะ ผิวขาวเหลือง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

กลายเป็นดำ คล้ำ

แบบมีแต่คนทักว่าทำไมน้องคล้ำขนาดนี้ แต่แม่นิดก็คิกว่าลูกคงไม่ได้เป็นอะไรมาก

ก็ให้น้องไปโรงเรียนตามปกติ

ไปโรงเรียนประมาณ 2 วัน   พอวันที่ 3 แม่นิคไปรับลูกชายที่โรงเรียน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สังเกตุว่าน้องเดินกระเพลกนิดหน่อย   แต่ยังกิน  ยังเล่น ได้เป็นปกติ

วันต่อมา  การเดินของน้องเริ่มกระเพลกมากขึ้น ที่หัวเข่าเริ่มมีรอยเขียวช้ำเหมือนล้มหรือกระแทกอะไรอย่างแรง

ตอนแรกแม่นิคเข้าใจว่าเล่นกับเพื่อนแล้วล้มทำให้ขาพลิก หรือกระแทกพื้นจนช้ำเลยเดินกระเพลก  ตกกลางคืนก้อให้น้องทานยาลดไข้ แก้ปวดแล้วนอน

 

แต่เช้าวันรุ่งขึ้น  น้องมีอาการหนักกว่าวันก่อนคือการเดินของน้องกระเพลกมาก

นั่งแล้วลุกขึ้นไม่ได้

เวลาลุกขึ้นขาจะสั่น

ตกเย็นเลยแม่นิคเลยตัดสินใจพาน้องไปโรงพยาบาล

คุณหมอตรวจอาการน้อง บอกว่าคอน้องแดง น่าจะเกิดจากเชื้อไวรัสและให้ยามาตามอาการ แล้วส่งน้องไปแผนกกระดูกเพื่อให้หมอกระดูกตรวจและ X-ray

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ผล X-ray น้องปกติทุกอย่าง กระดูกแข็งแรงดี หมอกระดูกเลยวินิจฉัยว่าน้องน่าจะเอ็นพลิก หรือกล้ามเนื้อข้อเข้าอักเสบ

แม่นิคก็พาน้องกลับมาบ้าน และให้นอนพักช่วงบ่าย

แต่พอนอนตื่นนอนตอนเย็น น้องมีผื่นขึ้นที่หน้า ต้นแขนสองข้าง ตอนแรกเป็นผื่นแดงๆ

แต่สักพักก้อเป็นผื่นจ้ำเขียวๆ เหมือนอาการคนเกล็ดเลือดต่ำ

แม่นิคร้อนใจมากเลยพาน้องกลับไปที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง

ไปพบคุณหมอกุมารเวชอีกรอบ แต่รอบนี้ไปด้วยอาการผื่น

คุณหมอขอเจาะเลือดเพราะกลัวว่าน้องเกล็ดเลือดจะต่ำ อาจจะเป็นไข้เลือดออกได้

พอผลเลือดออกมา ผลเลือดน้องเป็นปกติ เกร็ดเลือดไม่ได้ต่ำ เม็ดเลือดสมบูรณ์ดี

คุณหมอให้ยากลับมากินอีกครั้ง

น้องกลับมาบ้าน กิน เล่น ปกติ กินนมได้ แต่ไม่ยอมกินข้าว

แม่นิคเฝ้าคอยดูอาการลูกทั้งคืน กลัวน้องมีไข้ แต่ก็ไม่มี

พอตื่นนอนตอนเช้า ปรากฏว่าน้องลุกจากเตียงไม่ได้  เดินไม่ได้ ขยับไม่ได้  ยืนไม่ได้

คราวนี้เลยตัดสินใจพาน้องไปหาอาจารย์หมอที่โรงพยาบาลเสรีรักษ์

อาจารย์หมอเป็นหมอแผนกอายุรกรรม

ตอนแรกพยาบาลตรงเคาน์เตอร์ถามว่าพบหมอกุมารเวชดีไหมคะ แม่นิคเลยบอกว่าไม่ค่ะ พอดีรักษากับหมอประจำ อยากให้ลูกตรวจกับอาจารย์หมอมากกว่า

พอเข้าพบอาจารย์หมอ

แม่นิคก็เล่าให้อาจารย์หมอฟังทุกอย่าง

อาจารย์หมอฟัง เริ่มตรวจเชคร่างกายน้อง  เริ่มดูตามร่างกาย

ปรากฏว่าน้องมีรอยเขียว  ตามข้อต่างๆ  หัวเข่าข้างซ้ายบวมเขียวช้ำ

คุณหมอวินิจฉัยว่าน้องติดเชื้อไวรัส MSP

เชื้อไวรัสตัวนี้อาการจะคล้ายๆ ไข้หวัดใหญ่

อาจารย์หมอบอกว่าคนที่ได้รับเชื้อนี้จะมีอาการปวดตามข้อต่างๆ

แต่จะหนักตรงที่จะทำให้เดินไม่ได้เฉียบพลัน

ตอนแรกที่ฟังคือตกใจมาก

คือไม่คิดว่าจะมีเชื้อไวรัสอะไรแบบนี้ในโลกนี้ด้วย

แม่นิดถามอาจารย์หมอว่าแล้วมันเกิดได้ยังไง?   อันตรายหรือไม่?

แล้วลูกจะกลับมาเดินได้หรือเปล่า?

คือวินาทีนั้นกลัวมาก

อาจารย์หมอบอกว่าเชื้อไวรัสตัวนี้มันมีมานานมากแล้ว

เรียกว่าเป็นเชื้อไวรัสที่ในสมัยก่อนมีคนเป็นเยอะ

แต่มาสมัยปัจจุบันไม่ค่อยพบ

เชื่อไวรัสตัวนี่มากับหน้าฝนหรือหน้ามรสุม

หากคนที่มีภูมิต้านทานต่ำมากๆ

ก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัสนี้ได้

แต่อาการมากน้อยขึ้นอยู่ที่ร่างกาย

กรณีที่น้องเป็นเนื่องจากเป็นช่วงที่น้องภูมิต้านทานต่ำมาตั้งแต่ตอนเป็นมือเท้าปาก เลยรับเชื้อได้ง่าย

เชื้อไวรัสตัวนี้เลยเข้ามาโจมตีตามข้อต่างๆ โดยเฉพาะข้อเข่าเลยทำให้น้องเดินไม่ได้

แต่ถ้าปล่อยให้หายเองอาจารย์หมอบอกใช้เวลาประมาณ 1 เดือนหรือ 4 อาทิตย์

แต่หากรักษาโดยการทานยาประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็จะหายเป็นปกติ

เชื้อไวรัสตัวนี้ไม่อันตราย ไม่ใช่โรคติดต่อ

น้องก็ได้ยามาทาน รักษาตามอาการ

ทั้งหมดทั้งมวลอาการที่เป็นหลังจากน้องหายจากมือเท้าปาก อาจารย์หมอบอกเชื่อมโยงกันทั้งหมด

หลังจากทานยาอาจารย์หมอ

น้องก็เริ่มเดินได้ จนตอนนี้หายเป็นปกติแล้วค่ะ

ขอบคุณ: Nooknik Kamonthip

10 อาการป่วยของลูก ที่ไม่ควรมองข้าม

ลูกป่วยบ่อยมาก ทำไงดี?

เป็นไข้ตอนท้อง อันตรายแค่ไหน