อยากให้ลูกสูง แต่พ่อแม่ไม่สูง
คุณพ่อคุณแม่หลายคน อยากให้ลูกสูง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าพ่อแม่ไม่สูงล่ะ ลูกจะมีโอกาสที่ตัวจะสูงไหม แล้วจะต้องทำอย่างไรให้ลูกสูง
ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจก่อนว่า ส่วนสูงของลูกนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์เป็นปัจจัยสำคัญ แต่จะสูงเท่าไหร่นั้น มียีนหลายคู่ที่ส่งผลด้วย เพราะฉะนั้น ใช่ว่าถ้าทั้งพ่อทั้งแม่เตี้ย แล้วลูกจะไม่สูง และก็ใช่ว่าถ้าทั้งพ่อทั้งแม่สูง จะทำให้ลูกของคุณสูงมากเช่นกัน
อยากให้ลูกสูง ทำอย่างไร
อย่างที่ได้กล่าวไปว่า ความสูงของลูกนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ และยีนของพ่อแม่เป็นปัจจัยหลัก แต่ก็มีปัจจัยเสริมอื่น ๆ ที่จะช่วยในการเพิ่มความสูงของลูกได้ ด้วยวิธีต่อไปนี้
1. ทานอาหารให้ถูก อย่าลืมแคลเซียม
โภชนาการที่ดี มีส่วนช่วยทำให้ลูกสูงขึ้นได้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์และจำเป็นสำหรับเด็ก ทั้งเกลือแร่ วิตามิน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และ ไขมัน ที่สำคัญ คือ อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอด้วยนะครับ
นอกจากอาหารแล้ว ควรให้ลูกดื่มน้ำให้เพียงพอ และดื่มนมหรือทานอาหารที่มีแคลเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่ทำให้กระดูกแข็งแรง โดยแคลเซียมนั้น มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กมาก โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาให้ข้อมูลว่า เด็กอายุ 1-3 ปีควรได้รับแคลเซียม 700 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนเด็กอายุ 4-8 ปี ควรได้รับแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และเมื่ออายุ 9-18 ปีควรได้รับแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน
2. นอนให้พอและเป็นเวลา
ถ้าอยากให้ลูกสูง ต้องพยายามให้ลูกนอนหลับอย่างเพียงพอ เพราะเวลาที่กำลังนอนหลับนั้น เป็นเวลาที่ฮอร์โมนการเจริญเติบโตทำงาน
สำหรับเด็กเล็ก ควรนอนหลับ 10 – 13 ชั่วโมงต่อคืน ที่สำคัญคือถ้าอยากให้ลูกสูง และมีสุขภาพที่ดี ควรให้ลูกเข้านอนเป็นเวลา และตื่นเป็นเวลา หรือนอนและตื่นเวลาเดียวกันในทุก ๆ วันด้วย แม้แต่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ตาม
3. ให้ลูกออกกำลังกาย
ถ้าอยากให้ลูกสูง คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้มีเวลาออกกำลังกายประมาณ 60 นาทีต่อวัน การออกกำลังกายไม่ได้แค่ช่วยเรื่องส่วนสูงและการเจริญเติบโตเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันโรคอ้วนในเด็กได้อีกด้วย
หรือหากว่ามีเวลาไม่มากนัก ก็ชวนลูกขยับแข้งขยับขานิดหน่อยก็ยังดี อาจชวนกันไปเดินเล่น พาสุนัขไปเดินเล่น ชวนลูกเดินไปซื้อของหน้าปากซอยด้วยกันก็ได้นะครับ
หากพบความผิดปกติเรื่องส่วนสูง ให้รีบไปหาหมอ
ถ้าลูกของคุณมีความผิดปกติจริง ๆ เช่น เตี้ยกว่าค่าเฉลี่ยของเด็กวัยเดียวกันมากเกินไป แนะนำว่าคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่า เพราะนั่นอาจหมายถึงความผิดปกติของร่างกายได้
ถ้าอยากทราบว่าแต่ละเดือนลูกจะหนักหรือสูงเท่าไหร่ ติดตามได้จากบทความด้านล่างนี้เลย
>>เช็กกันหน่อย ลูกควรสูงแค่ไหน หนักเท่าไหร่ในแต่ละเดือน<<
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรสนใจ และสอนลูกมากที่สุดคือ ให้เขามั่นใจในตนเองไม่ว่ารูปร่างของเขาจะเป็นอย่างไรมากกว่า และที่สำคัญก็คือ อย่าเน้นไปที่ความสูงอย่างเดียว ควรเน้นให้ลูกคุณสูงขึ้นและแข็งแรงไปด้วยจะดีที่สุดครับ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีฝึกลูกกินข้าวเอง บ้านไหนลูกไม่ยอมกินข้าวต้องลอง!
อาการแพ้นมวัว เป็นอย่างไร อันตรายแค่ไหน จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกแพ้นมวัว
ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง