อดีตแพทย์เสี่ยงคุก! ใช้สเปิร์มตัวเองกับคนไข้จนมีลูก 8 คน

คุณแม่หลายท่านอาจเคยได้ยินข่าวสลับลูก หรือเลี้ยงลูกคนอื่นกันมาบ้างแล้ว แต่ข่าวนี้อาจทำให้คุณแม่ตกตะลึงยิ่งกว่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อดีตคุณหมอรักษาผู้มีบุตรยากอาจติดคุกเพราะใช้สเปิร์มตัวเองกับคนไข้

ด็อกเตอร์ Donald J. Cline อดีตแพทย์รักษาผู้มีบุตรยากในรัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา อาจถูกดำเนินคดีจากการใช้สเปิร์มของตัวเองเพื่อให้คนไข้ของเขาตั้งท้อง

เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อหญิงในรัฐอินเดียน่าคนหนึ่งได้ทราบผลการตรวจดีเอ็นเอ จาก 23andMe ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการตรวจสอบจีโนม เธอรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเมื่อพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับหญิงที่ใช้บริการเว็บไซต์ของ 23andMe อีก 8 ราย หลังจากนั้นเธอจึงรีบติดต่อไปยังสำนักข่าวท้องถิ่น และมีการดำเนินการสืบหาข้อมูลจนพบว่า ลูกของทั้ง 8 คนนั้นเป็นพี่น้องกัน จนกระทั่งได้พบเบาะแสสำคัญคือ แม่ของเด็กทั้ง 8 คนล้วนแต่เป็นคนไข้ที่ได้รับการผสมเทียมจากคลินิกของ Cline ในระยะเวลา 8 ปีช่วงปี 1970

นาย Cline วัย 77 ปี กล่าวว่าเขาใช้สเปิร์มจากนักศึกษาทันตแพทย์และนักศึกษาแพทย์ อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างดังกล่าวไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะนักศึกษาแพทย์ได้รับอนุญาตให้มีการบริจาคสเปิร์มได้ไม่เกิน 3 ครั้งเท่านั้น อีกทั้งยังไม่น่าเป็นไปได้ที่นักศึกษาแพทย์คนเดิมจะบริจาคสเปิร์มถึง 8 ปี

นาย Cline ให้การปฎิเสธในตอนแรกว่า "ผมขอยืนยันว่าผมไม่เคยทดลองใช้สเปิร์มของผมกับคนไข้ในการผสมเทียม" อย่างไรก็ตาม ระหว่างการพบกันของเขาและหนึ่งในหญิงผู้เสียหายเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา นาย Clineได้ยอมรับว่าเขาได้บริจาคสเปิร์มของเขาให้กับคลินิกตัวเอง ในตอนแรก เขากล่าวว่าทำเรื่องดังกล่าวไม่เกิน 8 ครั้ง แต่สุดท้าย เขาก็ยอมรับว่าเขาได้ใช้สเปิร์มของตัวเองไปมากกว่า 50 ครั้งเลยทีเดียว

นาย Cline กล่าวว่า เขาต้องการช่วยเหลือผู้หญิงที่ต้องการมีลูกอย่างมาก และเนื่องจากคลินิกของเขาไม่มีสเปิร์มที่สามารถใช้ได้เป็นจำนวนมากพอ เขาจึงจำเป็นต้องใช้สเปิร์มของตัวเอง

หากนาย Cline ถูกตัดสินว่าผิดจริง เขาอาจถูกจำคุกนานถึง 5 ปีเลยทีเดียว ตามรายงานจาก CNN

ที่มา sg.theasianparent.com

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ควรมีเซ็กส์บ่อยแค่ไหน จึงจะเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์

เข้าใจหลักการรักษาภาวะมีบุตรยาก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

P.Veerasedtakul