สาเหตุหลักๆที่ทำให้ลูกของเรากินไม่เลิก กินเหมือนไม่รู้จักอิ่มอาจมาจาก 5 ปัจจัยนี้
1.การบังคับให้กินจนหมดจาน
คุณแม่ต้องถามตัวเองก่อนว่าบังคับเรื่องการกินของลูกมากเกินไปหรือเปล่า เช่นบังคับให้ลูกกินข้าวให้หมดจานทั้งๆที่ลูกอิ่มแล้ว คะยั้นคะยอต่อรองให้ลูกกินอาหารอะไรบางอย่างในจานให้หมดก่อนถึงยอมให้เลิกกิน พฤติกรรมนี้คือหนทางนำไปสู่การส่งเสริมให้ลูกกินมากจนเกินความต้องการของร่างกายได้
2.ถูกตามใจมากเกินไป
หรือคุณแม่ตามใจลูกมากเกินไปรึเปล่า เวลาที่ลูกร้องว่าอยากกินอะไรคุณแม่ต้องรีบจัดมาให้ทุกครั้ง แม้ในบางครั้งลูกไม่ได้อยากกินจริงๆ ทำให้ลูกติดนิสัยกินพร่ำเพรื่อ กินจุบจิบ กินไปเรื่อย อยากกินต้องได้กินตลอดเวลา
3.เลียนแบบผู้ใหญ่
เด็กเป็นวัยที่จดจำและเลียนแบบพฤติกรรมจากคนใกล้ตัว หากลูกมีอาการกินไม่เลิก หิวไม่หยุด คุณพ่อคุณแม่ควรรีบตรวจดูพฤติกรรมการกินของตัวเองด่วน ว่าเราเองก็มักจะหิวทั้งวัน ปากว่างไม่ได้ต้องหาอะไรเคี้ยวให้เพลิดเพลินตลอดทั้งวันด้วยหรือไม่ ถ้าตัวอย่างมีให้เห็นตลอดเวลา เด็กก็จะซึมซับพฤติกรรมการกินแบบมีปัญหาจากคนใกล้ตัวโดยอัตโนมัติ
4.ให้รางวัลลูกด้วยของกิน
การให้รางวัลเมื่อลูกทำดีด้วยของกินเช่น ถ้าไม่ดื้อจะพาไปกินขนม ถ้ายอมไปโรงเรียนดีๆแล้วจะให้กินลูกอม กินข้าวให้หมดจานแล้วแม่จะให้ดื่มน้ำอัดลมเป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้จะเป็นตัวส่งเสริมให้ลูกกินทั้งๆที่ไม่ได้หิวจริงๆ เพราะเป็นรางวัลที่พ่อแม่เสนอให้ หิวไม่หิวก็ฟาดเรียบ ในที่สุดจะกลายเป็นความเคยชินรู้สึกดีกับการหาข้ออ้างในการกินขนม ของหวาน ใช้ของกินเป็นรางวัลสำหรับตัวเองในทุกเรื่อง กินไม่รู้จักอิ่ม กินไม่เลิกทั้งๆที่ไม่ได้หิวจริงๆ
5.มีความเครียด
บางครั้งเด็กก็อาจมีเรื่องกังวลใจ มีความเครียดทั้งจากเรื่องที่โรงเรียนหรือปัญหาในครอบครัว พ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยๆ มีความโกรธ ความอาย แล้วไม่กล้าบอกพ่อแม่ สะสมจนเป็นความเครียดทำให้เกิดอาการกินเร็ว หิวบ่อย หยุดกินไม่ได้
เมื่อทราบถึงสาเหตุหลักๆที่ทำให้ลูกเราหิวทั้งวันแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรรีบเข้ามาช่วยแก้ไขปรับพฤติกรรมการกินให้ลูกโดยด่วน เพราะหากทิ้งไว้นานกลายติดนิสัยกินไม่หยุดจนอาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพเป็นโรคอ้วน นำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ หรือหากลูกเรามีปัญหาเรื่องความเครียดหากไม่รีบพูดคุยแก้ปัญหาให้ลูกอาจทำให้ปัญหาฝังใจใหญโตลุกลามบานปลายจนแก้ไขยากขึ้นไปอีก หากพยายามแก้ไขด้วยตัวเองแล้วไม่สำเร็จแนะนำให้พาลูกไปพบจิตแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีค่ะ
แหล่งข้อมูล