คำถามที่ว่า ปัญหาแม่ไม่มีน้ำนมให้ลูก เกิดจากอะไร หลังคลอดน้ำนมไม่ไหล ทำอย่างไรดี ? วันนี้เรามาหาคำตอบกัน โดยปกติแล้ว ร่างกายของคุณแม่ จะเริ่มกระบวนการผลิตน้ำนม มาตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์แล้ว โดยในระหว่างการตั้งครรภ์นั้น ร่างกายจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เป็นตัวยับยั้งไม่ให้เกิดการหลั่ง หรือมีน้ำนมไหลออกมา และ หลังจากที่คุณแม่คลอดเจ้าตัวน้อยออกมาแล้ว ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนนี้ ก็จะค่อย ๆ ลดต่ำลง ส่งผลให้กลไกที่เคยยับยั้งการหลั่ง หรือมีน้ำนมไหลออกมานั้นหายไป อีกทั้งยังมีฮอร์โมนโปรแลคตินที่คอยกระตุ้นทำให้ร่างกายมีการสร้างน้ำนมมากขึ้น แต่หากว่า หลังคลอดน้ำนมไม่ไหล ทำอย่างไรดี ปกติไหมนะ ปัญหาแม่ไม่มีน้ำนมให้ลูก เกิดจากอะไร มาหาคำตอบไปด้วยกัน
น้ำนมหลังคลอด น้ำนมแม่น้อย เกิดจากอะไรกันแน่?
หลังจากคลอดแล้ว การที่น้ำนมจะมาเร็วหรือมาช้านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง คุณแม่ส่วนใหญ่จะเริ่มมีน้ำนมไหลออกมาในระยะหลังคลอด ในขณะที่คุณแม่บางคนอาจจะเริ่มมีน้ำนมออกมาตั้งแต่ช่วงสามเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์เลยก็มี โดยน้ำนมที่หลั่งออกมาในช่วงแรกนั้นจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองข้น หรือที่เราเรียกกันว่า หัวน้ำนม นั่นเอง แต่ระยะ 1 – 2 วันแรกหลังคลอด หากว่าน้ำนมของคุณแม่ยังมาน้อยอยู่ ก็อย่ากังวลหรือเครียดจนเกินไปนะครับ เพราะถือว่าเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งเด็กแรกเกิดนั้นมีน้ำและอาหารสะสมมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จึงยังไม่ต้องการน้ำนมปริมาณมาก ๆ ในช่วงแรก และไม่จำเป็นต้องให้นมอื่นเสริมครับ
วิธีช่วยให้น้ำนมมาเร็วและมีมากทำอย่างไร ?
#1 เริ่มให้ลูกดูดเร็ว
หากเป็นไปได้ควรให้ลูกเริ่มดูดนมเร็ว หรือภายใน 1 ชั่วโมงหลังคลอด โดยข้อดีของการให้ลูกดูดนมแม่เร็วที่สุดนั้นก็เพื่อ
- กระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนโปรแลกติน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนม ทำให้น้ำนมของคุณแม่มาเร็ว
- กระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนออกซิโตซิน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้น้ำนม หลั่งออกจากท่อน้ำนม และยังช่วยกระตุ้นให้มดลูกหดตัวทำให้ลดการตกเลือด อีกทั้งยังช่วยขับน้ำคาวปลา และทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วอีกด้วย
#2 ให้ลูกดูดบ่อย
คุณแม่ควรให้ลูกได้ดูดนมบ่อย ๆ ในช่วงแรก หรือประมาณวันละ 8 ครั้งขึ้นไป แต่ในช่วง 1 – 2 วันแรกนั้นลูกอาจจะยังง่วงอยู่ หากว่าลูกหลับและปลุกไม่ค่อยอยากตื่นก็อาจจะต้องรอสักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยปลุกใหม่ ยิ่งลูกตื่นตัวดีก็จะยิ่งทำให้เขาดูดนมได้ดี นอกจากนั้นในช่วงที่ลูกไม่ได้ดูดนม คุณแม่ควรบีบน้ำนมออกบ่อยๆเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมด้วยนะครับ
#3 ให้ลูกดูดอย่างถูกวิธี
คุณแม่ควรให้ลูกอบงับลานนมให้ลึกพอ และควรให้ลูกดูดจนเกลี้ยงเต้า หากคุณแม่ไม่มั่นใจว่าจัดท่าให้นมลูกได้ถูกต้องหรือไม่ ให้สังเกตง่ายๆดังนี้
- ลูกอมงับลานนมด้านล่างได้มากกว่าด้านบน ซึ่งจะสังเกตได้ว่ายังมองเห็นลานนมด้านบน ในขณะที่ลานนมด้านล่างถูกปากลูกอมจนมิดหรือเกือบมิด
- ปากลูกอ้ากว้างแนบสนิทกับเต้านมแม่
- ริมฝีปากล่างบานออกเหมือนปากปลา
กรณีใดบ้างที่ต้องให้นมเสริม
ปกติแล้วไม่จำเป็นต้องให้นมเสริม แต่อาจยกเว้นในกรณี ดังต่อไปนี้
- ทารกน้ำหนักน้อยหรือคลอดก่อนกำหนด
- ทารกมีน้ำหนักแรกเกิดมาก จึงต้องการพลังงานมากกว่าปกติ
- ทารกมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
อาหารเพิ่มน้ำนม สำหรับแม่
ก่อนจะไปดูเมนูอร่อย ๆ มารู้จักวัตถุดิบชั้นดี ที่จะช่วยให้น้ำนมแม่ไหลเยอะ
- มะรุมบำรุงน้ำนม – ใบและดอกของมะรุม มีวิตามินซีสูง วิตามินเอสูง โพแทสเซียมสูง โปรตีนสูง ที่ช่วยในการขับน้ำนม
- ตำลึงบำรุงน้ำนม – มีเส้นใยอาหารในปริมาณมากช่วยบำรุงนํ้านมคุณแม่สุด ๆ ในผักตำลึงที่มีโปรตีน มีวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี แคลเซียม และเหล็ก ยังช่วยบำรุงเลือด กระดูก สายตา ผม และประสาท
- หัวปลีบำรุงน้ำนม – มีธาตุเหล็กมาก ช่วยกระตุ้นน้ำนมได้ดี และยังมีแคลเซียมสูง มีโปรตีน ฟอสฟอรัสส และสารอื่น ๆ เช่น วิตามินอี เบตาแคโรทีน ที่ยังช่วยป้องกันโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ บำรุงเลือด
- ใบกะเพราบำรุงน้ำนม – มีแคลเซียม ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัสสูง ความร้อนจากใบกะเพราช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมให้กับคุณแม่หลังคลอดได้
- มะละกอบำรุงน้ำนม – มะละกอเป็นผลไม้ที่มีธาตุเหล็ก และแคลเซียมสูง ช่วยขับน้ำนม บำรุงเลือด บำรุงกระดูก และสายตา
- ขิงบำรุงน้ำนม – ขิง มีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย โปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 คาร์โบไฮเดรต มีสรรพคุณคือช่วยขับลม แก้อาเจียน ช่วยย่อยไขมัน เพิ่มการไหลเวียนเลือดได้เป็นอย่างดีและทำให้น้ำนมแม่ไหลดี
- กุยช่ายบำรุงน้ำนม – ทั้งใบและต้นสดของกุยช่าย มีคุณค่าทางสารอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก คาร์โบไฮเดรต แบต้าแคโรทีน และวิตามินซี สรรพคุณของใบกุยช่าย คือจะช่วยเพิ่มน้ำนม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
- อินทผลัมบำรุงน้ำนม – ช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนมแม่ เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะมีวิตามินมากมาย
สาระสำคัญเกี่ยวกับการให้นมแม่
องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ดังนี้
- ควรให้นมแม่ทันทีในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
- ควรให้นมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด
- ควรให้นมแม่ต่อเนื่อง ควบคู่กับอาหารเสริมที่ปลอดภัย มีคุณค่าและเหมาะกับอายุ ตั้งแต่เดือนที่ 6 ไปจนถึงลูกอายุ 2 ขวบ หรือนานกว่า
ที่สำคัญคือ คุณแม่ต้องกินอาหารให้เหมาะสม เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด หรือกังวลจนเกินไป เพราะ หากคุณแม่มีความเครียดแล้ว ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำนมมาช้า และทำให้น้ำนมมีน้อยได้ด้วยเช่นกันนะครับ
ที่มา : thaibreastfeeding , unicef
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ