เมื่อประจำเดือนขาด เป็นสัญญาณเตือนว่าอาจจะมีการตั้งครรภ์ ขั้นตอนต่อไปคือตรวจเช็กให้แน่ใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ สาว ๆ สามารถตรวจดูด้วยตัวเองก่อน โดยการ การตรวจปัสสาวะตั้งครรภ์ ใช้ชุดตรวจครรภ์ หรือ เครื่องตรวจท้อง และอ่านผลในเบื้องต้น ก่อนจะไปพบแพทย์ ซึ่งการตรวจครรภ์ด้วยชุดตรวจ ให้ผลแม่นยำได้มากและไม่ยากอย่างที่คิดหากใช้อย่างถูกต้อง มาดูกันว่า วิธีใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ ชุดตรวจตั้งครรภ์ ที่ตรวจครรภ์ท้อง วิธีดูที่ตรวจครรภ์ ผลตรวจตั้งครรภ์ ที่ถูกต้องใช้อย่างไร อ่านค่าแบบไหน ดูอย่างไรว่าท้อง หรือไม่ท้อง
การตรวจปัสสาวะตั้งครรภ์ เครื่องตรวจครรภ์ หรือ ชุดตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง ที่ตรวจครรภ์ท้อง
วิธีตรวจครรภ์แบบจุ่ม ชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง เป็นการทดสอบหาฮอร์โมน HCG (Human chorionic gonadotropin) ในปัสสาวะ ซึ่งหากมีการตั้งครรภ์ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากรก จะเริ่มผลิตฮอร์โมนเอชซีจีขึ้น หลังจากที่มีการปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน และจะขึ้นสูงสุดในช่วง 8 – 12 สัปดาห์ ชุดตรวจครรภ์นี้มีความแม่นยำมาก และสามารถตรวจหาได้ในผู้ที่ประจำเดือนขาดตั้งแต่วันที่ 10 – 14 ขึ้นไป
ประเภทของชุดตรวจครรภ์ และวิธีตรวจครรภ์ด้วยชุดตรวจครรภ์อย่างถูกต้อง
ประเภทของชุดตรวจครรภ์แบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ แบบจุ่ม แบบหยด และ แบบปัสสาวะผ่าน ซึ่งแต่ละแบบแสดงผลจากการตรวจหาฮอร์โมนการตั้งครรภ์ในปัสสาวะเช่นเดียวกัน แตกต่างกันที่ราคา และวิธีการใช้งาน
เพิ่มความสำเร็จในการตั้งครรภ์ด้วยการ นับวันตกไข่ ที่แม่นยำ และ วางแผนการตั้งครรภ์ ได้ดั่งใจ ด้วยการ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ผ่าน แอปพลิเคชัน ALive
1.การตรวจครรภ์ แบบที่ 1 แบบแถบจุ่ม ( Test Strip) และ แผ่นตรวจครรภ์
ชุดตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม ประกอบด้วย แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ (แผ่นตรวจครรภ์) และ ถ้วยตวงปัสสาวะ (อาจจะมีถ้วยตวงปัสสาวะมาให้ หรือไม่มีก็ได้)
ข้อดี ราคาถูก ประมาณ 100 -140 บาท
ข้อเสีย ในระหว่างการทดสอบ ต้องระวังไม่ให้ปัสสาวะเลยขีดที่กำหนด และต้องระวังความเสื่อมสภาพของชุดตรวจ หากเก็บเอาไว้นาน หรือวางเอาไว้ใกล้สารเคมี
บทความที่เกี่ยวข้อง : การตรวจครรภ์ กรณีสงสัยว่าท้องหลังขาดประจำเดือน
การตรวจครรภ์ วิธีใช้ที่ตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม วิธีดูที่ตรวจครรภ์
- ให้เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง
- นำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ด้านที่มีลูกศรชี้ลง จุ่มลงในถ้วยปัสสาวะที่เตรียมไว้ จุ่มกระดาษลงในถ้วยปัสสาวะเพียง 3 วินาทีเท่านั้น
- ระวังอย่าให้น้ำปัสสาวะเลยขีดที่กำหนดในแผ่นทดสอบ เพราะจะทำให้แผ่นทดสอบหมดประสิทธิภาพการทำงาน
- นำแผ่นทดสอบออกจากถ้วยปัสสาวะถือไว้สักพัก หรือวางไว้ในแนวนอน และต้องวางในพื้นที่ที่แห้งสนิทเท่านั้น
- ผลการทดสอบการตั้งครรภ์จะแสดงผลภายในเวลา 1 – 5 นาที แต่ทางที่ดีควรรอจนกว่าจะครบ 5 นาที เพื่อให้ความแม่นยำ
2. แบบที่ 2 แบบตลับ หรือแบบหยด (Pregnancy Test Cassette)
ชุดตรวจครรภ์แบบตลับ หรือแบบหยด ประกอบด้วย ตลับทดสอบการตั้งครรภ์ ถ้วยตวงปัสสาวะ และหลอดหยดสำหรับดูดน้ำปัสสาวะ
ข้อดี คือ แผ่นทดสอบมีโอกาสเสื่อมประสิทธิภาพได้น้อย การใช้วิธีหยดลงบนชุดตรวจ ทำให้สามารถควบคุมปริมาณปัสสาวะได้
ข้อเสีย หากปริมาณปัสสาวะมากเกิน จะทำให้ชุดตรวจเสื่อมประสิทธิภาพ
วิธีใช้ที่ตรวจครรภ์แบบตลับ หรือแบบหยด วิธีดูที่ตรวจครรภ์
- เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง แล้วนำหลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะขึ้นมาในปริมาณที่พอเหมาะ
- หยดน้ำปัสสาวะลงบนตลับทดลอง ที่วางไว้บนพื้นประมาณ 3 – 4 หยด ไม่ควรหยดมากกว่านี้
- วางชุดทดสอบนี้ไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อดูผลการทดสอบ
3. แบบที่ 3 แบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests)
ชุดตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน จะมีเพียงแค่แท่งทดสอบการตั้งครรภ์เท่านั้น
ข้อดี ใช้งานได้สะดวกไม่ต้องเก็บน้ำปัสสาวะในถ้วย เป็นการลดขั้นตอนในการทดสอบ
ข้อเสีย มีราคาสูงที่สุดในบรรดาชุดตรวจครรภ์ด้วยตัวเองทั้งหมด ประมาณ 180 – 220 บาท
วิธีใช้ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน
- ถอดฝาครอบออก พร้อมกับถือแท่งทดสอบโดยให้หัวลูกศรชี้ลง
- ปัสสาวะโดยให้น้ำปัสสาวะผ่านบริเวณที่ดูดซับน้ำปัสสาวะ ซึ่งจะอยู่ต่ำกว่าลูกศรต้องให้เปียกชุ่ม
- ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที โดยถือแท่งไว้ หรือวางในบริเวณที่แห้งสนิทในแนวราบ
- รออ่านผลการทดสอบได้ตั้งแต่ประมาณ 30 วินาทีเป็นต้นไป แต่ทางที่ดีควรรอประมาณ 5 นาที เช่นเดียวกับที่ทดสอบชุดอื่น เพื่อความแน่นอนของผลการทดสอบ
สามารถใช้ชุดตรวจครรภ์ด้วยตนเองได้เมื่อไหร่
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ สามารถจะแสดงผลจากระดับฮอร์โมน HCG ที่ร่างกายหลั่งออกมาทางปัสสาวะ วิธีการตรวจให้มีความแม่นยำมากที่สุด ควรทำการทดสอบหลังจากประจำเดือนขาดไปประมาณ 1 สัปดาห์ และตรวจจากปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนทันที
แม้ว่าเครื่องตรวจครรภ์ด้วยตัวเองนี้ จะมีประสิทธิภาพความแม่นยำถึงร้อยละ 99 แต่ในระยะเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนในร่างกายยังเปลี่ยนแปลงอยู่มาก จึงควรตรวจมากกว่า 1 ครั้ง โดยแต่ละครั้ง ห่างกันประมาณ 2 – 3 วัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ประจำเดือนไม่มากี่วันถึงมีโอกาสท้อง ตรวจครรภ์แบบไหนแม่นยำที่สุด
วิธีดูที่ตรวจครรภ์ ด้วยตนเอง ผลตรวจตั้งครรภ์
บนชุดตรวจครรภ์จะมีขีด C (Control line) ซึ่งหมายถึงอายุการใช้งานของชุดตรวจครรภ์ และ T (Test line) ซึ่งจะแสดงผลการตรวจพบฮอร์โมนการตั้งครรภ์ในปัสสาวะ
-
ผลตรวจตั้งครรภ์ ตรวจแล้วขึ้น 1 ขีด ขึ้นที่ขีด C อย่างเดียว
คือ ได้ผลลบ แปลว่า “ไม่น่าจะตั้งครรภ์” หมายความว่า อาจจะไม่ตั้งครรภ์ หรืออาจจะตั้งครรภ์แล้วแต่ยังตรวจไม่พบก็ได้อาจต้องทำการตรวจซ้ำในอีก 2 – 3 วัน
-
ตรวจแล้วขึ้น 2 ขีด หรือ ขึ้น 2 ขีด จาง ๆ
ขึ้นที่ขีด C และ T คือ ได้ผลบวก แปลว่า “น่าจะมีการตั้งครรภ์” แต่ถ้าตรวจแล้วขีด T ขึ้นจาง ๆ ขอแนะนำว่าให้รออีก 2 – 3 วันแล้วค่อยตรวจใหม่
-
ตรวจแล้วไม่ขึ้นแถบสีหรือ ไม่ขึ้นสักขีด หรือ ขึ้น 1 ขีดบนตัว T
คือ อ่านค่าไม่ได้ แปลว่า “ชุดทดสอบการตั้งครรภ์เสีย” เช่น การเก็บไม่ถูกวิธี การใช้ปัสสาวะเก่า เป็นต้น จะต้องทำการตรวจใหม่อีกครั้ง
บทความที่เกี่ยวข้อง : การตรวจครรภ์ กรณีสงสัยว่าท้องหลังขาดประจำเดือน
ได้ทราบวิธีการใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ อย่างถูกวิธีกันแล้ว ลองนำไปปฏิบัติตามได้ แต่อย่างไรก็ตามให้อ่านคำแนะนำ และวิธีใช้ให้ถูกต้อง และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญการตรวจด้วยตนเอง เป็นการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น ทางที่ดีควรยืนยันผลการตรวจ จากคุณหมออีกครั้งจะดีที่สุด หากตั้งครรภ์จะได้ฝากครรภ์ กับคุณหมอได้เลย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ราคาที่ตรวจครรภ์ ยี่ห้อไหนดี รวมหมดทุกแบบไว้ที่นี่!
ความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ รู้ตัวอีกทีก็ท้องโตซะแล้ว
ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม ควรใช้อย่างไร จะเลือกใช้ ที่ตรวจครรภ์ยี่ห้อไหนดี