ระบบประสาท รวมถึงสมองของลูกในท้องนั้น จะมีพัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากที่ลูกน้อยปฏิสนธิ คุณแม่ควรเริ่มส่งเสริมพัฒนาการสมองของลูกน้อยตั้งแต่ หรือแม้แต่ก่อนตั้งครรภ์ เรามาดูกันว่า 4 วิธีสร้างเสริมพัฒนาการสมองของลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แบบง่าย ๆ มีอะไรบ้าง
4 วิธีสร้างเสริมพัฒนาการสมองของลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์
1. รับประทานอาหารที่ดี
พัฒนาการสมองที่รวดเร็วและเหมาะสม จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ดีเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ ทารกในครรภ์นั้น ต้องการกรดโฟลิกและไขมันโอเมก้า 3 เพื่อช่วยให้ระบบประสาทและสมองของลูกมีการพัฒนาได้ดี ดังนั้น คุณแม่ที่มีแผนจะตั้งครรภ์ หรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรรับประทานอาหารที่มีโฟเลตและไขมันโอเมก้าสูง โดยอาหารที่คุณแม่ควรรับประทาน ได้แก่ อโวคาโด้ บล็อกโคลี น้ำส้ม และผักใบเขียว ซึ่งมีประโยชน์สำหรับแม่ท้อง รวมถึง ปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาหิมะ หรือไข่ที่มี DHA สูง เป็นต้น
2. หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ
สารพิษและสารเคมีที่มีพิษที่มีอยู่ทั่วไปรอบตัวแม่ท้อง รวมถึงในอาหารและในสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นอันตรายต่อพัฒนาการสมองของตัวอ่อน ที่บางครั้งคุณแม่เองอาจไม่ทันระวัง ซึ่งในระหว่างที่ตั้งครรภ์นั้น แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงสถานที่รถติด มีมลภาวะ และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ ที่มีสารก่อมะเร็ง ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อพัฒนาการด้านสมองของทารกในครรภ์ได้ หากได้รับในปริมาณมาก
นอกจากนี้ แม่ท้องยังควรหลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารกระป๋อง เนื้อและปลาสุก ๆ ดิบ ๆ หรือไม่สุก และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
และหากคุณแม่จำเป็นต้องรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์ว่า ยาที่รับประทานปลอดภัยสำหรับลูกในท้องจริง ๆ เพราะหากซื้อยามาทานเอง ก็อาจไม่ปลอดภัย และเกิดผลเสียกับลูกในท้องได้
3. ออกกำลังกายเหมาะสม
การออกกำลังกายส่งผลต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะท้องหรือไม่ มีรายงานระบุว่าพัฒนาการสมองที่รวดเร็วของทารกนั้น เกิดจากคุณแม่ที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายระหว่างตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม
คุณไม่จำเป็นต้องยกน้ำหนัก หรือออกกำลังกายหนัก แต่ควรเคลื่อนไหว และพยายามเดินเบา ๆ ว่ายน้ำ เล่นโยคะ หรือออกกำลังกายตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเหมาะสม
4. กระตุ้นความรู้สึกลูกน้อย
จริง ๆ แล้ว ทารกสามารถได้ยินและเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ดังนั้น แม่ท้องจึงควรมีปฏิสัมพันธ์กับลูก อย่างเช่น ลูบท้อง พูดคุยกับลูก ซึ่งจะช่วยพัฒนาสมองของลูกในครรภ์ได้ เมื่อลูกเคลื่อนไหว ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ คุณแม่สามารถส่องไฟบนท้อง และลูกก็มักจะตอบโต้ด้วยการเตะ! (แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไปนะครับ เพราะอาจจะเป็นการรบกวนลูกได้)
นอกจากนี้ การเปิดเพลง หรือร้องเพลงให้ลูกฟัง ยังช่วยให้ลูกผ่อนคลายและมีการตอบสนอง โดยลูกจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเพลงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ไปจนถึงหลังคลอดเลยครับ นอกจากนี้ การทำกิจกรรมต่าง ๆ กับลูก ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์ จะช่วยสร้างความผูกพันตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง และช่วยลดความเครียดของแม่ได้อีกด้วย
เพราะพัฒนาการสมอง และการตอบสนองของลูกนั้น เริ่มต้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ดังนั้น ยังไม่สายเกินไป ที่จะเริ่มใส่ใจพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยของลูกน้อยนะครับ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ท้องแข็งแบบต่าง ๆ แยกอย่างไร ลูกโก่งตัว แค่กินอิ่ม หรือใกล้คลอดแล้ว
วิธีนับลูกดิ้น นับอย่างไร ถึงจะรู้ว่าลูกปลอดภัย ไม่เสียชีวิตในครรภ์
อาหารคนท้องอ่อน แบบไหนบำรุง แบบไหนแสลง อะไรห้ามกิน อะไรกินได้