1.นอนเยอะๆ
ถ้า ลูกป่วย เเละ เมื่อร่างกายได้รับ เชื้อเข้ามา แน่นอนว่าจะ อ่อนแอกว่าปกติค่ะ ลูกควรจะต้องนอนหลับพักผ่อน ให้มีคุณภาพ และ นอนเยอะมากกว่าปกติ เนื่องจากเวลาที่ลูกนอนหลับ ร่างกายจะโฟกัสไปที่การ ทำงานเพื่อรักษาตัวเองให้หายจากอาการป่วย ได้รวดเร็วกว่าตอนที่ลูกตื่นค่ะ ปกติแล้วเด็กในวัย 1-2 ขวบ จะนอนตอนกลางคืน 11-14 ชั่วโมงต่อวัน เด็กวัย 3-5 ขวบ จะนอนกลางคืน 10-13 ชั่วโมงต่อวัน และ นอนกลางวัน อีกครั้งละ 1-2 ชั่วโมง (อ้างอิงจาก National Sleep Foundation)
ถ้าในช่วงที่ลูกไม่สบายอยู่ เขานอนทั้งวัน ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไปค่ะ ร่างกายของลูกกำลังต่อสู้กับเชื้อโรคร้ายอยู่นั่นเอง
2.กินน้ำเยอะๆ
ถ้า ลูกป่วย ให้ลูกกินน้ำเยอะๆ ในช่วงนี้ เนื่องจากน้ำจะเป็นตัว ชำล้างเชื้อโรคที่ไม่ดีออกจาก ร่างกายของลูก คุณพ่อ คุณแม่ ต้องอธิบายง่าย ๆ ให้ลูกเข้าใจถึงเรื่องนี้ หากลูกยังไม่เข้าใจ เรื่องเชื้อโรค ก็บอกเขาง่าย ๆ อย่างเช่น น้ำจะทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ ดื่มเข้าไปเล้ว บ่อยครั้งที่เด็กในวัยนี้ไม่ชอบกินน้ำ มันจึงเป็นเรื่องยากที่ คุณพ่อ คุณแม่ ต้องเกลี่ยกล่อมให้ลูกดื่มน้ำให้เพียงพอ พวกเขาจะได้หายจาก อาการไปสบายได้เร็วขึ้นยังไง ละคะ
ลองใช้วิธีอย่างการหาอนิเมชั่นง่าย ๆ ให้ลูกดูแล้วเข้าใจ ตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ จะทำให้ลูกคล้อยตาม หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงลูกแนวธรรมชาติไม่ได้ให้ดูทีวี ก็ลองเล่าเป็นนิทานสั้น ๆ ให้ลูกเข้าใจ และ ยอมทำตามได้ค่ะ
3.ล้างจมูก
เด็ก ๆ วัยนี้ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถสั่ง ขี้มูกออกมาได้ด้วยตัวเองนะคะ หรือ บางคนก็สั่งแรงเกินไปจนทำให้ หูอักเสบได้ การล้างจมูกคือ การเอาเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำมูกออกจากร่างกายได้ดี อีกวิธีหนึ่ง เด็กบางคนที่มีน้ำมูกเยอะจะทำให้ หายใจไม่สะดวกเวลานอน กลายเป็นเด็กที่นอนกรน และ ทำให้หลับไม่สนิทค่ะ ช่วงที่ลูกเป็นหวัดการล้างจมูกลูกทุก 3-4 ชั่วโมงได้จะยิ่งดีนะคะ
4.บรรเทาอาการไอ
เมื่อเด็ก ๆ ที่อาการไอ ทั้งไอแห้ง และ ไอแบบมีเสมหะ การรักษาที่ได้ผลดีที่สุดคือ ให้ลูกกินน้ำอุณหภูมิห้อง หรือ น้ำอุ่นบ่อย ๆ เด็กที่ไอมาก ๆ หรือไอรุนแรง จะทำให้เจ็บบริเวณกระดูกซี่โครงได้เหมือนกัน นะคะ หากการกินน้ำบ่อย ๆ อย่างเดียวแล้วยังไม่ดีขึ้น ลองโทรศัพท์ปรึกษาคุณหมอประจำตัวของลูกดูก่อน เพื่อหาวิธีแก้ไขอื่นค่ะ
5.พาไปหาคุณหมอ
หากลูกเป็นหวัดตั้งแต่ 7-14 วัน แล้วยังไม่มี ทีท่าว่าจะหาย หรือ มีอาการที่แย่ลง คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะพาลูกไปหาคุณหมอได้แล้วละค่ะ แต่ถ้าหากกังวลเรื่องเชื้อโรคในโรงพยาบาล ลองหาโรงพยาบาลที่ แยกแผนกเด็กออกมา โดยไม่ผ่านไปชั้นผู้ป่วยอื่น ๆ ดูนะคะ
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูล คุณภาพ และ สังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และ เอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่ และ เด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้ คุณแม่ ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และ ผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และ สื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพ คุณแม่ และเด็ก โภชนาการ คุณแม่ และ เด็ก กิจกรรมสำหรับ ครอบครัว
การวางแผน ครอบครัว ไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และ จิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุน คุณพ่อ คุณแม่ ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “ คุณพ่อ คุณแม่ เข้มแข็ง ครอบครัว แข็งแรง”
ที่มา besttoddlertips
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก ยอดพุ่งจากต้นปีแสนกว่าคนเเล้ว
อาการป่วยของลูกในหน้าหนาว ที่พ่อแม่ต้องระวัง