วิธีดูแลเมื่อลูกมีอาการแพ้ฝุ่น

เด็กเล็กๆ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายยังไม่แข็งแรงสมบูรณ์เต็มที่เหมือนกับในผู้ใหญ่ ทำให้ลูกสามารถเกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย ยิ่งโดยเฉพาะอาการภูมิแพ้อากาศ ที่บางทีสาเหตุก็มาจากฝุ่นละอองรอบๆ ตัวลูกนี่แหละค่ะ ทำให้เกิดภูมิแพ้ฝุ่นได้ ดังนั้นทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ จึงมีวิธีในการดูแลเมื่อลูกมีอาการแพ้ฝุ่นมาฝากกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ดูแลอย่างไรเมื่อลูกมีอาการแพ้ฝุ่น

  • คุณแม่ควรให้ลูกหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ด้วยการจัดห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือบริเวณโปรดในบ้านที่ลูกชอบไปนั่งเล่น หรือทำกิจกรรมบ่อย ให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา และควรจัดให้มีเฟอร์นิเจอร์ในห้องต่างๆ ของบ้านให้น้อยชิ้นที่สุด ยิ่งโดยเฉพาะห้องนอนของลูก เพื่อป้องกันไม่ให้มีฝุ่นละอองจับตามเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ค่ะ
  • ในห้องนอนของลูก หรือตามห้องต่างๆ ของบ้าน ไม่ควรที่จะมีพรม เพราะจะยิ่งทำให้เป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น  และเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเช็ดทำความสะอาดพื้นบ้าน พื้นห้องนอนของลูกให้สะอาดเป็นประจำ
  • ในทุกๆ สัปดาห์ ควรต้องนำปลอกหมอน  ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ไปซักทำความสะอาดและตากแดดให้แห้ง เพื่อจะได้ลดการสะสมของไรฝุ่นที่อาจเกิดขึ้นได้  (ควรนำหมอนที่ลูกใช้หนุนนอนออกไปตากแดดทุกสัปดาห์)
  • ควรหมั่นล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศทั้งในห้องนอนของลูก และภายในบ้านเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และฝุ่นต่างๆ ที่ติดอยู่กับเครื่องปรับอากาศ
  • ภายในบ้านควรจัดให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพราะการที่ลูกต้องอยู่ในห้อง หรือในบ้านที่ทึบๆ อึดอัด ก็เหมือนยิ่งเป็นการหายใจเอาอากาศเก่าๆ ที่อาจมีฝุ่น มีเชื้อโรคเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจอยู่ตลอดเวลา
  • หมั่นให้ลูกได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อจะได้ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับลูก
  • ให้ลูกได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย
  • เวลาที่ลูกออกนอกบ้าน ควรให้ใช้หน้ากากอนามัยด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสูดดมเอาควัน ฝุ่น ละอองต่างๆ ที่ปนอยู่กับอากาศเข้าเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ

แต่หากลูกมีอาการคัดจมูก  จาม  หรือมีน้ำมูกใสๆ อยู่เกือบตลอดเวลา ซึ่งถ้าลูกมีอาการน้ำมูกไหล และจามติดต่อกันนานเกิน 3 สัปดาห์ ก็อาจเป็นหวัดเรื้อรัง ที่อาจมีสาเหตุมาจากโรคภูมิแพ้  คือมีอาการคันจมูก คันตา ตาแดง หรือบางครั้งน้ำมูกมีกลิ่นเหม็นด้วย ดังนั้นจึงแนะนำว่าหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการเหล่านี้ อย่านิ่งนอนใจปล่อยอาการทิ้งไว้นาน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาในทันทีนะคะ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 วิธีปรุงอาหารแบบสุขภาพดีสำหรับเด็ก

ลูกเป็นหวัดบ่อยๆจากการติดเชื้อหรือแพ้อากาศ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team