วัคซีนที่จำเป็นก่อนตั้งครรภ์
เมื่อคู่แต่งงานวางแผนที่จะมีลูก สิ่งสำคัญคือ การเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านร่างกายของว่าที่คุณแม่ นอกจากการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว การฉีดวัคซีนที่จำเป็นก่อนตั้งครรภ์ ก็ต้องเตรียมวางแผนให้ดี สำหรับวัคซีนที่จำเป็นต้องฉีดก่อนตั้งครรภ์ คือ วัคซีนหัดป้องกันเยอรมัน
ความสำคัญของการฉีดวัคซีนชนิดนี้ คือ กรณีที่คุณแม่ไม่ได้ฉีดวัคซีนตัวนี้ หากตั้งครรภ์ 1-3 เดือนแรกแล้วเกิดเป็นหัดเยอรมันขึ้นมา จะส่งผลให้ทารกในครรภ์พิการที่อวัยวะต่าง ๆ เช่น หู ตา หัวใจ แขน ขา และสมอง ดังนั้น หากคู่แต่งงานเตรียมการวางแผนที่จะมีลูกฝ่ายหญิงควรจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันก่อนตั้งครรภ์ แล้วเว้นระยะการตั้งครรภ์ออกไป 3 เดือน เพื่อให้วัคซีนสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย แต่ถ้าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้วไม่ได้ฉีดก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ แต่ในระยะ 3 เดือนแรกต้องดูแลร่างกายให้ดี หลีกเลี่ยงไปสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก และไม่ควรอยู่ใกล้กับคนที่เป็นไข้หวัด หรือคนที่มีอาการไอ จาม หากคุณแม่เป็นหัดเยอรมันในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์จะไม่มีผลกระทบอะไรกับทารกในครรภ์เนื่องจากทารกได้เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
วัคซีนที่จำเป็นสำหรับแม่ตั้งครรภ์
วัคซีนที่จำเป็นสำหรับแม่ตั้งครรภ์ ได้แก่
1.วัคซีนป้องกันบาดทะยัก (Tetanus) บาดทะยักเกิดจากบาดแผลที่สกปรกหรือมีเชื้อบาดทะยักเข้าสู่ร่างกาย อาการของบาดทะยัก คือ ตัวเกร็ง หน้าเขียว ถ้าเป็นรุนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิตได้ วัคซีนป้องกันบาดทะยักคุณหมอจะฉีดคุณแม่ตั้งครรภ์ 2 เข็ม เข็มแรกจะห่างจากเข็มที่ 2 ประมาณ 1 เดือน และเข็มที่ 2 จะฉีดก่อนคลอดประมาณ 3 เดือน ส่วนเข็มที่ 3 จะฉีดหลังคลอดไปแล้ว วัคซีนป้องกันบาดทะยักในแม่ตั้งครรภ์สามารถป้องกันบาดทะยักให้แก่ทารกในครรภ์ ได้
2.วัคซีนคอตีบ (Diphtheria) โรคคอตีบมีความรุนแรงสามารถทำให้แม่และลูกเสียชีวิตได้ อาการคือ หายใจไม่ออก มีการอุดตันทางเดินหายใจ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบวัคซีนคอตีบเป็นวัคซีนที่ไม่มีอันตรายใด ๆ จึงเป็นวัคซีนที่คุณหมอแนะนำให้แม่ตั้งครรภ์ฉีดเพื่อช่วยป้องกันโรคคอตีบทั้งในแม่และทารกในครรภ์ เป็นวัคซีนที่ใช้ฉีดร่วมกับวัคซีนบาดทะยักโปรแกรมการฉีดจะเป็นเช่นเดียวกับการฉีดบาดทะยัก
3.วัคซีนไอกรน (Pertussis) โรคไอกรนเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ มีการไอถี่ ๆ หากเป็นมากจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวอาจถึงแก่ชีวิตได้ การฉีดวัคซีนไอกรนจะฉีดขณะคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อป้องกันลูกที่คลอดออกมา เพราะหากทารกที่คลอดออกมาใน 3 เดือนแรกและคุณแม่ไม่ได้ฉีดวัคซีนไอกรนภายใน 3 เดือนแรกอาจทำให้เสียชีวิตได้ การฉีดวัคซีนไอกรนให้คุณแม่ตั้งครรภ์จะส่งผลไปถึงลูกที่คลอดออกมาประมาณ 2-6 เดือน
4.วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ไข้หวัดใหญ่จะมีความรุนแรงสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มากกว่าคนธรรมดา ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจะมีมากกว่า เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย ซึ่งอาการเหล่านี้จะทำให้คุณแม่และทารกเสียชีวิตได้ วัคซีนนี้สามารถฉีดให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ในทุกฤดูกาล ไม่จำเพาะเจาะจงว่าเป็นฤดูหนาวที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาดเท่านั้น วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะป้องกันได้ทั้งแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ สามารถฉีดได้ทุกอายุครรภ์ ฉีด 1 เข็มสามารถคุ้มกันโรคได้ 1 ปี
5.วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) อาการของไวรัสตับอักเสบบีจะแสดงอาการแตกต่างกันออกไป ถ้าเป็นขั้นรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ อาการขั้นรุนแรง คือ ตาเหลือง ตัวเหลือง อ่อนเพลียมาก ตับวาย หากเป็นตับอักเสบเรื้อรังอาจเกิดตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้ สำหรับแม่ตั้งครรภ์ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่แล้วเมื่อลูกคลอดออกมาก็จะมีเชื้อนี้อยู่ด้วย หากแม่ตั้งครรภ์ไม่เคยฉีดวัคซีนนี้หรือเจาะเลือดแล้วไม่มีภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบบี ควรฉีดวัคซีนนี้เพื่อป้องกันทั้งแม่และลูก
การฉีดวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้แก่แม่ตั้งครรภ์และลูกในครรภ์ กันไว้ดีกว่าแก้ มาสร้างภูมิต้านทานเพื่อลูกกันเถอะค่ะ
อ้างอิงข้อมูลจาก
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ฉีดวัคซีนหัดเยอรมันก่อนตั้งครรภ์กันไว้ดีกว่าแก้
ก่อตั้งครรภ์ต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง