ลูกรอดตายเพราะคุณยาย ภาวะแคลเซียมเกาะรกทำรกเสื่อม ลูกไม่ดิ้นไม่ควรรอช้า เพียงไม่กี่ชั่วโมงลูกอาจตายคาครรภ์
ลูกรอดตายเพราะคุณยาย ภาวะแคลเซียมเกาะรกทำรกเสื่อม ลูกไม่ดิ้นไม่ควรรอช้า เพียงไม่กี่ชั่วโมงลูกอาจตายคาครรภ์ เมื่อคุณแม่มีภาวะแคลเซียมเกาะรก หรือ placental calcification จนทำให้ลูกในท้องอยู่ในภาวะที่อันตราย เสี่ยงเสียชีวิต นี่คือสิ่งที่คุณยายทำเพื่อช่วยทั้งลูกสาวและหลานที่ยังไม่เคยเห็นหน้า
สัญญาณอันตราย
คุณแม่ Ayla Heller อายุครรภ์ได้ 38 สัปดาห์ อีกไม่นานก็จะได้เจอหน้าลูกน้อย แมดดี้ แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน คุณแม่สังเกตว่าลูกไม่ค่อยดื้น แต่ก็ยังวางใจ เนื่องจากบางทีลูกก็ไม่ค่อยดิ้น แต่พอบ่ายคุณแม่เริ่มรู้สึกเริ่มมีการเคลื่อนไหวอยู่ภายใน เพียงแต่ลูกก็ยังไม่ดิ้นเหมือนเดิม หลังจากที่บอกคุณพ่อ คุณแม่ก็เข้าไปอาบน้ำและดื่มน้ำส้มเย็นๆ และกลับมาฟังการเต้นของหัวใจเจ้าตัวเล็ก โล่งใจที่ลูกยังหัวใจเต้น ยังมีชีพจรอยู่ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ลูกยังไม่ดิ้นอยู่ดี
คุณแม่เริ่มตกใจ แต่รู้สึกได้ว่าลูกกำลังปรับตำแหน่งในท้อง ดังนั้นตัวช่วยที่สองคือการโทรไปหาคุณยาย เนื่องจากอินเตอร์เน็ตไม่ได้ช่วยอะไรมาก และนับว่าเป็นเคราะห์ดี ที่คุณยายรู้สึกว่าไม่ปกติแล้ว และบอกให้คุณแม่รีบไปโรงพยาบาลให้ไว
หลังจากไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ใส่เครื่องติดตามการเคลื่อนไหวของทารก ผ่านไป 30-40 นาที คุณแม่จึงจำเป็นที่จำต้องผ่าคลอดฉุกเฉินในคืนนั้นเลย
หลังจากที่คุณแม่คลอดหนูน้อยแมดดี้ออกมาแล้ว จึงพบว่ามีภาวะแคลเซียมเกาะรก ทำให้รกเสื่อม คุณหมอไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้นและไม่มีอะไรที่คุณแม่จะทำได้เพื่อป้องกันเสียด้วย และด้วยสาเหตุนี้ทำให้เจ้าตัวเล็กได้รับออกซิเจนหรือสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ ร่างกายของแมดดี้จึงพยายามรักษาพลังงานเอาไว้ จึงทำให้เธอไม่ดิ้นนั่นเอง นอกจากนี้หลังคลอดออกมาร่างกายแมดดี้มีน้ำตาลในเลือดต่ำ คุณหมอจึงจำเป็นต้องให้กลูโคสในสองสามวันหลังคลอด
ช้าไปอีกนิด ลูกอาจไม่อยู่แล้ว
ถ้าช้าไปอีกนิด หนูน้อยแมดดี้อาจจะไม่มีลมหายใจไปแล้วค่ะ เดิมทีคุณแม่จะคอยจนถึงเช้าจึงค่อยมาหาหมอ แต่แมดดี้น้อยรอดตายเพราะคุณยายตื้อให้คุณแม่รีบๆ ออกไปหาหมอ จึงทำให้ช่วยชีวิตหลานเอาไว้ได้ ดังนั้นคุณแม่จึงออกมาโพสต์ข้อความขอร้องแม่ๆ ทุกคน ถ้าลูกหยุดดิ้น หรือสงสัยว่าอาการที่เกิดขึ้นไม่ปกติ อย่ารีรอค่ะ รีบไปหาคุณหมอเลย
สำหรับตอนนี้แมดดี้มีอายุได้ 3 สัปดาห์แล้ว แข็งแรงดีค่ะ
แคลเซียมหรือหินปูนเกาะรก คืออะไร
รกเสื่อมนั้นไม่ใช่โรค แต่เป็นความสามารถในการทำงานของรกลดลง จากปัจจัยต่าง ๆ อย่างไรก็ตามรกเสื่อมจะส่งผลกระทบต่อทารกโดยตรง วิธีป้องกันได้ดีที่สุด คือ เมื่อตั้งครรภ์แล้วควรไปรับการตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง และสามารถพบได้ด้วยเครื่อง USG scan โดยหลังจาก 36 สัปดาห์ ควรจะสแกนทุกสัปดาห์เพื่อลดความเสี่ยงค่ะ
สาเหตุหรือปัจจัย
- โรคประจำตัวของมารดา เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการไหลเวียนของหลอดเลือดมีขนาดแคบตีบลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงทารกไม่เพียงพอ
- การแข็งตัวของเลือดมากผิดปกติ ทำให้มีลิ่มเลือดอุดตันตามหลอดเลือด ทำให้เลือดส่งไปเลี้ยงทารกไม่เพียงพอ
- คุณแม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือใช้สารเสพติด
- ตั้งครรภ์เกินกำหนด
- โรคของรกเอง เช่น เนื้องอกรก รกลอกตัวบางส่วน รกบางผิดปกติ หรือมีหินปูนเกาะรกมากเกินไป
ป้องกันได้หรือไม่
ในกรณีที่คุณแม่มีโรคประจำตัว การรักษาโรคประจำตัวจะเป็นการป้องกันรกเสื่อมได้ดีที่สุด นอกจากนี้การป้องกันการตั้งครรภ์เกินกำหนด โดยทั่วไปแพทย์จะให้คลอดเมื่ออายุครรภ์ไม่เกิน 41 สัปดาห์ เป็นวิธีที่จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงกับภาวะรกเสื่อมได้
รกเสื่อมนั้นไม่ใช่โรค แต่ความสามารถในการทำงานของรกลดลง จากปัจจัยต่าง ๆ อย่างไรก็ตามรกเสื่อมจะส่งผลกระทบต่อทารกโดยตรง วิธีป้องกันได้ดีที่สุด คือ เมื่อตั้งครรภ์แล้วควรไปรับการตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
ที่มา sg.theasianparent
บทความที่น่าสนใจ
คุณแม่แชร์ : กู้ร่างพัง จากวิกฤต กล้ามเนื้อหน้าท้องแยก หลังคลอด
คุณแม่โพสต์รูปลูกที่แท้งตอนสัปดาห์ที่ 14 เป็นมากกว่าก้อนเลือด พร้อมข้อความสะกิดใจแม่ที่กำลังตัดสินใจทำแท้ง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!