ลูกมีไข้สูง เลือกใช้…อย่างฉลาด
หากเป็นสมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่ยังเป็นเด็กนั้น เวลาที่ไม่สบายหรือมีไข้ขึ้นสูง คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายก็มักจะเทน้ำอุ่นใส่อ่างน้ำใบเล็กๆ พร้อมผ้าขนหนูมาคอยเช็ดตามตัวก่อนจะพับผ้าขนหนูแล้วโปะลงบนหน้าผากเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเทคนิคที่มีมาแต่ดั้งเดิมเวลาที่เด็กเล็กๆ ไม่สบาย เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายให้ต่ำลง เนื่องจากหากปล่อยให้เด็กๆ มีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียสแล้ว อาจเสี่ยงมีอาการชักเกร็งได้ ดังนั้นเทคนิคการลดอุณหภูมิในร่างกายถือเป็นขั้นตอนเบื้องต้นในการช่วยทุเลาอาการไม่สบายของลูกน้อยลงได้ แถมยิ่งในยุคนี้ด้วยแล้ว นวัตกรรมใหม่ๆ ล้วนพัฒนาขึ้นกว่าเมื่ออดีตมาก ทำให้คุณแม่ยุคใหม่ไม่ต้องวิ่งวุ่นไปหาอุปกรณ์ใดๆ ให้เปลืองเวลา แค่มีแผ่นเจลให้ความเย็นแปะลงบริเวณหน้าผากก็พอ ควรเลือกแผ่นเจลชนิดที่ไม่มีสารระคายเคืองต่อผิวลูก โดยความเย็นจากแผ่นเจลให้ความเย็นจะช่วยลดความร้อนในร่างกายให้ต่ำลง แถมยังแปะทิ้งไว้ได้นานหลายชั่วโมงโดยคุณแม่ไม่ต้องเสียเวลามาเปลี่ยนบ่อยๆ สามารถปล่อยให้ลูกน้อยนอนพักไปได้ยาวๆ โดยไม่มีใครไปรบกวน อีกทั้งยังช่วยทำให้เด็กไม่ต้องทานยาที่พวกเขาไม่ชอบมากเกินความจำเป็นด้วย เพราะขึ้นชื่อว่ายาไม่ว่าเป็นชนิดใดก็ส่งผลเสียยังไตทำให้ไตทำงานหนักและมีสารตกค้างสะสมอยู่ ทางที่ดีที่สุดคือ การดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการรีบลดไข้และความร้อนในร่างกายลูกทันทีที่สังเกตเห็นอาการผิดปกติ
ดังนั้นแผ่นเจลให้ความเย็นคุณภาพดี ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยสำคัญของคุณแม่ยุคใหม่ที่ให้ความใส่ใจดูแลลูกน้อยเป็นอย่างดี ซึ่งแผ่นเจลให้ความเย็นที่คุณแม่เลือกใช้ ควรเป็นแผ่นเจลให้ความเย็น ที่ปราศจากการแต่งสี ทำให้อ่อนโยนต่อผิว และช่วยลดโอกาสการระคายเคืองของผิวลูกได้ เนื่องจาก ผิวเด็กมีความอ่อนโยน และอ่อนไหวต่อสิ่งกระตุ้นจากภายนอก ซึ่งสีที่ใช้ผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาจเป็นปัจจัยทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวลูกได้
นอกจากนี้ สถานที่ผลิตแผ่นเจลให้ความเย็น ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ คุณแม่ยุคใหม่ ควรให้ความสนใจ เพราะแผ่นเจลให้ความเย็นที่ผลิตจากประเทศที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี เช่น ประเทศญี่ปุ่น จะช่วยให้แผ่นเจลมีประสิทธิภาพในการให้ความเย็นได้ยาวนานต่อเนื่อง 8-10 ชั่วโมง ช่วยให้คุณแม่ทุกท่านมั่นใจได้ว่า แผ่นเจลให้ความเย็น เป็นผู้ช่วยที่ทำให้คุณแม่คลายกังวลยามที่เจ้าตัวเล็กไม่สบายได้แน่นอน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!