ตั้งแต่ตอนที่แม่เอ๊ะและคุณพ่อทราบว่าตั้งครรภ์ เราดีใจมากเพราะรอลูกคนนี้มานาน แม่เอ๊ะเฝ้าประคบประหงบดูแลลูกน้อยในครรภ์อย่างดีมาตลอดและไปตรวจทุกครั้งที่คุณหมอนัด แต่แล้วเมื่อตอนที่แม่เอ๊ะตั้งครรภ์ได้ 20 สัปดาห์ วันนี้ก็ไปตรวจตามที่คุณหมอนัดเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่กลับไม่เหมือนเดิม ตรงที่คุณหมอทำหน้าเครียด และแจ้งข่าวร้ายกับแม่เอ๊ะว่า ตรวจเจอภาวะรกเสื่อมและลูกน้อยในครรภ์มีน้ำหนักตัวเพียง 700 กรัม
ตอนนี้แม้ว่าตกใจแค่ไหน แต่ก็ยังเบาใจที่มีคุณหมอคอยเป็นที่ปรึกษาและคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เราช่วยกันทำทุกวิถีทางเพื่อให้อายุครรภ์ถึง 34 สัปดาห์ แต่เมื่ออายุครรภ์ได้ 31 สัปดาห์ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อแม่เอ๊ะความดันขึ้น ต้องผ่าตัดฉุกเฉินด้วยภาวะครรภ์เป็นพิษ
น้องรัญคลอดก่อนกำหนดและตัวเล็กมาก มีน้ำหนักตัวเพียง 810 กรัมเท่านั้น วันที่สองน้องยิ่งทรุดหนักกว่าเดิม น้ำหนักร่วงไป 700 กรัม ร่างกายเค้าเปราะบางเหมือนแก้ว หมอต้องต่อเครื่องช่วยหายใจและโยงสายอะไรต่อมิอะไรให้น้องเพื่อช่วยพยุงชีวิตน้อยๆ เอาไว้ แม่เอ๊ะแทบทนดูไม่ได้ สงสารลูกแทบขาดใจ
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีหลงเหลืออยู่ พอเป็นกำลังใจให้คนเป็นแม่อย่างเรามีความหวัง แม้น้องรัญจะคลอดก่อนกำหนด แต่ไม่มีมีโรคแทรกซ้อนหรือติดเชื้อ ทำให้แม่เอ๊ะพอโล่งใจไปหนึ่งเปราะ
แต่สิ่งที่แม่ลูกยังคงต้องสู้ต่อไป คือ ท่อปัสสาวะของน้องอยู่ผิดที่ ซึ่งเป็นกันเยอะในเด็กคลอดก่อนกำหนด เพราะอวัยวะยังเติบโตไม่เต็มที่ และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น
เมื่อน้องรัญทำน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ คุณหมอก็อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล แม่เอ๊ะไม่รอช้า รีบพาน้องไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราชทันที เราต้องประชุมกับหมอ ประชุมกับคณะแพทย์ ในการหาหนทางรักษาน้องรัญ ในที่สุดก็ตกลงได้ว่า จะผ่าตัดน้องครั้งแรกเมื่อน้องอายุ 7 เดือน
การผ่าตัดครั้งแรกผ่านไปด้วยดี แต่น้องรัญยังต้องผ่าตัดอีกหลายครั้งเพื่อรักษาท่อปัสสาวะ ชีวิตของน้องรัญเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น โดนผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ด้วยความใจสู้ของน้องทำให้ผ่านพ้นมาได้ทุกครั้ง
สิ่งหนึ่งที่ทำให้แม่เอ๊ะดีใจคือ ทุกครั้งที่ผ่านการรักษา น้องรัญจะแข็งแรงขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น จนตอนนี้น้องสามารถไปเรียนและวิ่งเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกันได้แล้วค่ะ
ตั้งแต่เล็กจนโต น้องรัญผ่านการผ่าตัดมาแล้ว 5 ครั้ง ตอนนี้น้องรัญอายุสี่ขวบแล้ว กำลังอยู่ในวัยน่ารักและซุกซนไม่ต่างจากเด็กคนอื่น จากเด็กที่นอนซมบนเตียง ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น กลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักน่าชัง เล่นซุกซนกับเพื่อนวัยเดียวกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อแม่เอ๊ะได้รอยยิ้มที่สดใสของลูกในวันนี้ แม่เอ๊ะรู้สึกดีใจมาก แต่ก่อนเคยกังวลจนร้องไห้ก็หลายครั้ง กลัวทุกครั้งที่ลูกต้องผ่าตัด มาวันนี้เค้าแข็งแรงขนาดนี้ แม่เอ๊ะก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วค่ะ และแม่เอ๊ะขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนที่ลูกกำลังมีปัญหาด้านสุขภาพให้สู้ต่อไป สักวันลูกของเราต้องกลับมาแข็งแรงแน่นอนค่ะ
ลูกกินยากจนแม่ห่วงจะโตช้า แก้ปัญหาอย่างไรดี
6 ความลำบากและความเจ็บปวดที่ผู้เป็นแม่เต็มใจ
10 วิธีเลี้ยงลูกชายให้เป็นสุภาพบุรุษ