ทารกตายในครรภ์นั้น หมายถึงการตายของทารกก่อนคลอดโดยไม่คำนึงถึงอายุครรภ์ แบ่งเป็น การเสียชีวิตก่อน 20 สัปดาห์, เสียชีวิตระหว่าง 20-28 สัปดาห์ และตั้งแต่ 28 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนทารกตายคลอดนั้น เป็นการเสียชีวิตของทารกต่อเมื่อมีอายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ เมื่อคลอดออกมาแล้วไม่มีอาการแสดงของการมีชีวิต ไม่มีการหายใจเอง ไม่มีการเต้นของหัวใจ และไม่มีการเคลื่อนไหว อาจรวมถึงทารกที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิตทันทีด้วย
6 ลักษณะของแม่ท้องที่ต้องระวังความเสี่ยงในการเสียชีวิตของทารกในครรภ์
1.คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เมื่อมีอายุมาก เนื่องจากสภาพของครรภ์มีความสมบูรณ์ลดลงตามวัย
2.คุณแม่ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือเป็นโรคอ้วน มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน
3.คุณแม่ที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคเรื้อรังเช่น เบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ หรือโรค SLE
4.คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ทารกแฝดหลายคนพร้อมๆ กัน
5.คุณแม่ที่มีอาการติดสุราหรือสารเสพติด
6.คุณแม่ที่ได้รับอุบัติเหตุในช่วงตั้งครรภ์
ลักษณะเหล่านี้อาจมีโอกาสเสี่ยงให้ทารกมีโอกาสเสียชีวิตในครรภ์ได้ หากคุณแม่อยู่ในกลุ่มที่มีลักษณะเสี่ยงดังกล่าวหรือมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่ควรจะต้องได้รับการดูแลครรภ์จากคุณหมออย่างทันท่วงทีและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันก็จะสามารถช่วยประคับประคองการตั้งครรภ์ และลดโอกาสการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ลงได้
ดังนั้นในระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ควรสังเกตอาการของตนเองบ่อย ๆ หากพบความผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่น น้ำหนักไม่ขึ้นอย่างเหมาะสมกับอายุครรภ์ หรือถึงช่วงอายุครรภ์ที่ลูกในท้องควรดิ้นแต่กลับพบว่ามีการดิ้นน้อย หรือหยุดดิ้น ควรจะรีบไปปรึกษาอาการกับแพทย์เพื่อตรวจอาการของทารกในครรภ์
อย่างไรก็ตามหากคุณแม่ที่มีลักษณะเสี่ยงดังกล่าว ไม่ควรเครียดและวิตกกังวลจนเกินไป หากคุณแม่มีการดูแลตนเองตามโภชนาการที่ถูกต้อง ได้ออกกำลังกาย ไปพบแพทย์ตามเวลาและหมั่นสังเกตอาการตนเองเสมอ ก็จะช่วยการตั้งครรภ์ของคุณแม่ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น และเฝ้ารอการที่ลูกน้อยจะได้ออกมาดูโลกด้วยความรู้สึกสบายใจ.
ขอบคุณที่มา : www.mumbabe.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สาเหตุของการตายคลอด
แท้งได้ หากแม่ท้องเครียดจัด