เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ล้ม ตอนท้อง 8 เดือน !!

“โครม!!” “แงงงงงงง แม่จ๋า!!” รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองท้องแก่ ตั้งท้องได้ 8 เดือน ใกล้คลอดเต็มที แต่ยังขี่มอเตอร์ไซค์พาลูกคนโตวัย 2 ขวบ ตะลอนๆ จนเกิดเรื่อง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แม้ไม่ได้มีข้อห้ามคุณแม่ตั้งครรภ์ขับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ แต่ก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ ทั้งท้องขยายขนาด เป็นตะคริวช่วงตั้งครรภ์ ฯลฯ อาจทำให้ขับขี่ได้ไม่ถนัดนัก รวมไปถึงฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในการขับขี่ ซึ่งก็ล้วนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งสิ้น

ฉันเพิ่งขี่มอเตอร์ไซค์เป็นเมื่อท้องลูกคนที่สองได้ 4 เดือน เนื่องจากอยากไปไหนมาไหนเองได้บ้าง ประกอบกับอยากพาลูกไปโน่นไปนี่โดยที่ไม่ต้องเดินหรืออุ้มไป เพราะเมื่อท้องเริ่มใหญ่ขึ้นก็อุ้มลูกคนโตไม่ไหวแล้ว ฉันขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ไม่แข็ง ขับค่อนข้างช้า และทรงตัวไม่ดีนัก แต่เนื่องจากขับขี่ไปบริเวณใกล้ๆ บ้านจึงไม่กังวลอะไรมากนัก

จนกระทั่ง…วันนั้น วันที่ฉันท้องได้ 8 เดือน ฉันก็พาลูกขี่รถเล่นใกล้ๆ บ้านตามปกติ แต่ลองเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางที่ไม่เคยไป ขณะเลี้ยวเข้าไปนั้นเอง ฉันกะระยะไม่ถูก หักเลี้ยวเข้าไป ทั้งที่ขับเลยทางเข้าไปแล้ว และขณะนั้นขี่ด้วยความเร็วที่ต่ำมากเกินไป เมื่อหักเลี้ยวจึงเสียหลัก รถทรงตัวไม่อยู่ ล้มลงตรงปากทางเข้าที่เต็มไปด้วยกรวดหินขรุขระเต็มไปหมด

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีฉันก็ลุกขึ้น เห็นเท้าและหัวเข่าข้างขวาเต็มไปด้วยเลือด และได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกคนโตที่ติดอยู่บนรถ (ปกติเวลาไปด้วยกันเธอจะยืนอยู่ด้านหน้า เพราะยังไม่สามารถนั่งซ้อนท้ายได้) ฉันรีบลุกขึ้นและอุ้มเธอออกจากมอเตอร์ไซค์ เคราะห์ดีที่เธอไม่เป็นอะไรแม้แต่รอยถลอก ฉันกอดเธอไว้แน่นปลอบประโลมเธอ แล้วก็มีพลเมืองดีผ่านมาเห็น ช่วยยกรถที่ล้มขึ้น ฉันตั้งสติ กะเผลกขาที่เต็มไปด้วยเลือด พาลูกที่กำลังเสียขวัญอย่างหนักกลับบ้านที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง 5 นาที ระหว่างนั้นในใจคิดแค่ว่าขอให้ลูกทั้งสอง ทั้งคนโตและในท้องปลอดภัย

เมื่อกลับมาถึงบ้านสามีก็ช่วยทำแผลให้ และสำรวจก็พบว่าไม่มีร่องรอยบริเวณอื่นนอกจากเท้าและเข่า รวมถึงฉันไม่มีอาการเจ็บหรือปวดท้องให้ต้องกังวลใจ (หลังจากวันนั้นไปพบคุณหมอที่ฝากครรภ์ ก็บอกว่าปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร) จะมีก็คือแผลที่เท้าและเข่า ที่ทำให้เดินกะเผลกไปเป็นสัปดาห์ และวันนั้นลูกคนโตก็ร้องไห้ตาบวมทั้งวัน เพราะสงสารแม่ ไม่อยากให้แม่เจ็บ แค่เห็นแผลของฉันน้ำตาก็คลอเบ้าแล้ว

บทเรียนเตือนตนเอง
ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนไม่มีลูก และยังเด็กกว่านี้มาก ฉันคงคิดแต่ด้านลบ กล่าวโทษตัวเองต่างๆ นานา คิดว่าดวงซวย จนคิดไปถึงว่าทำไมต้องเป็นฉันที่มาเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้ด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แต่วันที่เป็นแม่คน เหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากได้บทเรียนเรื่องความไม่ประมาทแล้ว ฉันยังไม่โทษตัวเอง ไม่มัวแต่มาตอกย้ำความผิดตัวเอง เพราะย้ำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่กลับมีความคิดด้านบวกบางอย่างเกิดขึ้นมา

• ดีนะที่ลูกไม่เป็นไรทั้งสองคน ดีนะที่เจ็บแค่นี้ ดีนะที่เกิดเรื่องตอนสามีอยู่บ้าน ดีนะที่สามีทำแผลเก่ง ดีนะจะได้หยุดเดินสักพัก หมอบอกน้ำคร่ำน้อยไปหน่อย ให้เดินช้าๆ ดีนะจะได้ไม่กินเยอะ หมอบอกให้ลดน้ำหนัก และดีนะ… ดีนะ… อีกมากมาย
• การได้พบเจอเรื่องแย่ๆ ทำให้รู้สึกว่า วันธรรมดาๆ นั้นเราโชคดีแค่ไหนแล้ว
• มองคนที่เดินไม่ได้หรือไร้ขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เข้าใจหัวอกคนเดินไม่ได้ แล้วว่ามันอึดอัดไร้เสรีภาพมากเพียงใด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เล่าประสบการณ์ป้อนเมื่อลูกหิวเวลาขับรถ

10 เทคนิคการขับรถเที่ยวกับลูก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

ธิดา พานิช