งานวิจัยชิ้นหนึ่งในงานประชุมประจำปีของสมาคมวิสัญญีแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายปี 2015 พิสูจน์แล้วว่า ระหว่างรอคลอด คุณแม่สามารถทานอาหารเบา ๆ เช่น ผลไม้ น้ำซุป ขนมปัง แซนด์วิช และดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ได้ เพื่อเสริมพลังเบ่งคลอด
ตามปกติแล้ว คุณหมอจะสั่งงดน้ำงดอาหารก่อนเข้าห้องคลอดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักเศษอาหารขณะดมยาสลบ การสำลักอาจก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบอย่างรุนแรงและมีโอกาสถึงขั้นเสียชีวิตได้
แต่ความก้าวหน้าทางวิสัญญีวิทยาทำให้ปัญหาการสำลักอาหารระหว่างคลอดแทบจะหมดไปแล้ว (ตามสถิติในสหรัฐอเมริกาช่วงปี 2005-2013) วิธีบล็อกหลังไม่จำเป็นต้องสอดท่อช่วยหายใจเหมือนวิธีดมยาสลบ จึงลดความเสี่ยงเรื่องการสำลักอาหารไปได้มาก
“คุณแม่ที่สุขภาพดีส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร อันที่จริงแล้วถ้าได้กินอาหารรองท้องก่อนทำคลอดจะดีกว่าด้วยซ้ำไป” งานวิจัยระบุ
คลอดลูก = วิ่งมาราธอน
ผลการวิเคราะห์งานศึกษาช่วงปี 1990 พบว่าผู้หญิงที่เบ่งท้องคลอดต้องใช้พลังงานและแคลอรีพอ ๆ กับนักวิ่งมาราธอนเลยทีเดียว
แต่ผู้หญิงจำนวนมากต้องอดทนรอคลอดลูกนานหลายชั่วโมงโดยไม่ได้กินข้าวหรือดื่มน้ำแม้แต่หยดเดียว
เมื่อไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ร่างกายจะเผาผลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ระดับกรดในเลือดของแม่และทารกเพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้มดลูกบีบตัวน้อยลง ทำให้ต้องเบ่งท้องคลอดนานขึ้น และทารกที่เกิดมาอาจแข็งแรงน้อยลง
อดอาหารแล้วเครียด
นอกจากนี้ งานวิจัยยังกล่าวเสริมอีกว่า “ความเครียดจากการอดอาหารมีแนวโน้มทำให้เลือดวิ่งไปเลี้ยงมดลูกและรกน้อยลง ต้องใช้เวลาเบ่งคลอดนานขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้”
“ผลการวิจัยของเราแนะนำให้เปลี่ยนธรรมเนียมปฏิบัติในปัจจุบันเสียใหม่” คริสโตเฟอร์ ฮาร์ตี ผู้วิจัยร่วมในงานศึกษาชิ้นนี้กล่าวสรุป
“วิสัญญีแพทย์และสูติแพทย์ควรทำงานร่วมกันเพื่อประเมินคนไข้เป็นรายบุคคล ถ้ากลุ่มไหนมีความเสี่ยงต่อการสำลักอาหารต่ำก็ควรอนุญาตให้กินอาหารรองท้องระหว่างรอคลอดได้ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดพลังงาน แถมยังช่วยเพิ่มพลังเบ่ง”
ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่าทางโรงพยาบาลจะเปิดรับแนวคิดนี้ไปปฏิบัติจริงได้หรือไม่ ปัจจุบันแพทย์ส่วนใหญ่ยังคงสั่งงดน้ำและอาหารก่อนคลอดอย่างน้อย 8 ชั่วโมงเพราะเป็นมาตรฐานการรักษาในห้องคลอด และเผื่อกรณีผ่าตัดคลอดฉุกเฉิน เช่น ตกเลือด เบ่งคลอดไม่ออก หรือสายสะดือย้อย ซึ่งเป็นอันตรายมากและต้องดมยาสลบเพื่อผ่าตัดคลอด หากงดอาหารไม่ครบตามเวลาที่กำหนดอาจมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นได้
ทางที่ดี คุณแม่ควรทานอาหารเบา ๆ ในช่วงที่ปากมดลูกยังเปิดไม่ถึง 3 เซนติเมตร และต้องอยู่ในสถานพยาบาลที่มีวิสัญญีแพทย์อยู่ เพราะหากมีเหตุจำเป็นต้องผ่าตัดคลอด คุณหมอสามารถบล็อกหลังให้ได้ ถ้ามีแต่วิสัญญีพยาบาลจะทำคลอดได้เพียงวิธีดมยาสลบ ไม่สามารถบล็อกหลังได้ ในกรณีนี้การงดน้ำและอาหารจึงยังเป็นเรื่องจำเป็นอยู่ดี
คุณแม่ ๆ คิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ มีใครแอบกินขนมระหว่างรอคลอดหรือเปล่า มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ
ที่มา : ph.theasianparent.com
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :
ผ่าคลอดแบบบล็อกหลังหรือดมยาสลบ แบบไหนดีกว่ากัน?
7 เคล็ดลับช่วยคุณแม่คลอดง่ายขึ้น