ประโยชน์จากน้ำผึ้งที่แม่ท้องต้องรู้ เรื่องผึ้งๆ ที่แม่ท้องต้องพึ่ง
ประโยชน์จากน้ำผึ้งที่แม่ท้องต้องรู้ เรื่องผึ้งๆ ที่แม่ท้องต้องพึ่ง เพราะในน้ำผึ้งนั้นมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อทั้งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์นะคะ
กินน้ำผึ้งตอนท้องปลอดภัยไหมนะ
คุณแม่สามารถกินน้ำผึ้งตอนท้องได้ค่ะ เเต่ควรเป็นน้ำผึ้งที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วนะคะ ไม่ควรกินน้ำผึ้งดิบ หรือ Raw Honey เพราะคุณแม่อาจจะเป็น โรคโบทูลิซึม (Botulism) เนื่องจากการได้รับเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอันตรายเหมือนกับการที่ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบกินน้ำผึ้งนั่นเองค่ะ เพราะระบบย่อยอาหารของลูกยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่นั่นเอง
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และผู้ใหญ่นั้น สามารถกินน้ำผึ้งได้โดยไม่มีปัญหา เพราะระบบย่อยอาหารของผู้ใหญ่มีแบคทีเรียตามธรรมชาติ ช่วยป้องกัน Clostridium botulinum หรือเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เป็นโรคโบทูลิซึม และยังช่วยไม่ให้เชื้อแบคทีเรียส่งต่อไปยังรกสู่ลูกอีกด้วยค่ะ
7 ประโยชน์ของน้ำผึ้งต่อแม่ท้อง
1.ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยรักษาบาดแผลที่โดนบาด บาดแผลเปิดต่างๆ แผลไหม้ และช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนจากกรดเกินในกะเพาะอาหารด้วยค่ะ
2.ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
น้ำผึ้งเป็นยาระงับประสาทอ่อนๆ ที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับได้ดีขึ้น หากคุณแม่นอนหลับได้ยาก การเติมน้ำผึ้งสักช้อนลงในนมอุ่นๆ ดื่มก่อนนอน จะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นค่ะ
3.แก้ไข้และแก้ไอ
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านและยับยั้งการทำงานของเชื้อไวรัส สามารกป้องกันไข้หนาวสั่นได้ และยังช่วยแก้ไอได้ แม้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ก็ตามค่ะ
4.ลดอาการเจ็บคอ
น้ำผึ้งช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำคอจากคุณสมบัติต้านอาการอักเสบที่เกิดขึ้น ผสมน้ำผึ้งกับน้ำขิงหรือชามะนาวอุ่นๆ จิบเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอได้ตลอดวันค่ะ
5.รักษาแผล
มีงานวิจัยที่เเสดงให้เห็นว่าการกินน้ำผึ้งช่วยลดการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร หรือ Helicobacter pylori เรียกย่อๆ ว่า H.pylori ซึ่งเป็นการติดเชื้อในอวัยวะภายใน ทำให้อวัยวะภายในเป็นแผลและไม่เเสดงอาการค่ะ
6.รักษาสุขภาพหนังศีรษะ
ไม่เพียงแค่รักษาอาการเจ็บคอ และน้ำผึ้งยังช่วยขจัดรังเเคและอาการคันในหนังศีรษะอีกด้วย ผสมน้ำผึ้งกับน้ำอุ่นแล้วชโลมลงบนหนังศีรษะทิ้งไว้สักพัก จากนั้นสระผมตามปกติ หรือจะใช้หลังการสระผมแทนครีมนวดผมก็ได้เหมือนกันนะคะ
7.ช่วยลดอาการแพ้
แม้จะช่วยลดอาการแพ้บางอย่างได้ แต่ก็ไม่ช่วยลดอาการแพ้ได้ทุกอย่างค่ะ น้ำผึ้งช่วยลดอาการภูมิแพ้ละอองเกสรและภูมิแพ้เฉพาะฤดูกาล เนื่องจากช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกายค่ะ
ควรระวังอะไรบ้าง เมื่อกินน้ำผึ้งตอนตั้งครรภ์
การบริโภคน้ำผึ้งมากเกินไป ก็อาจจะทำให้มีปัญหาสุขภาพอื่นตามมาได้เช่นกันนะคะ
- น้ำผึ้งจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้มีความต้านทานอินซูลินต่ำลง
- ควรกินน้ำผึ้งไม่เกิน 25 กรัมต่อวัน น้ำผึ้งประมาณ 3-5 ช้อนชา ร่างกายจะได้รับปริมาณแคลอรี่เท่ากับ 180-200 แคลอรี่ หรือเท่ากับช้อนชาละ 60 แคลอรี่ค่ะ
- อาจจะทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก และท้องอืดได้ เพราะการกินน้ำผึ้งจะทำให้ร่างกายมีความเป็นกรด ส่งผลต่อทางเดินอาหาร ทำให้การย่อยอาหารทำได้ช้าลง
- ส่งผลต่อสุขภาพฟัน เนื่องจากน้ำผึ้งมีปริมาณน้ำตาลสูง อาจจะทำให้ฟันผุได้
- การกินน้ำผึ้งเยอะไป อาจจะทำให้คุณแม่น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้เร็วนะคะ
กินน้ำผึ้งยังไง
- น้ำผึ้งไม่ควรผสมในน้ำร้อน เพราะความร้อนจะทำลายเอนไซม์ที่มีประโยชน์ค่ะ ควรผสมในน้ำอุ่นแทน
- ไม่ควรกินน้ำผึ้งพร้อมกับอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน C และ D เนื่องจากน้ำผึ้งจะยับยั้งการดูดซึมของวิตามิน C และ D ค่ะ
- ไม่ควรกินน้ำผึ้งกับนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ เพราะจะทำให้อาหารไม่ย่อย
เลือกน้ำผึ้งยังไง
- คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกินน้ำผึ้งที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์หรือฆ่าเชื้อ หากไม่เเน่ใจควรสอบถามทางผู้ผลิตค่ะ
- ควรเลือกน้ำผึ้งออร์แกนิคส์ไม่ผ่านกระบวนการอื่นนอกจากการฆ่าเชื้อ เพราะเสี่ยงปนเปื้อน
- คุณแม่สามารถกินน้ำผึ้งมานูก้าได้ เเต่ถ้าไม่แน่ใจควรสอบถามกับคุณหมอที่ฝากครรภ์เสียก่อนค่ะ
สารอาหารสำหรับน้ำผึ้ง 1 ถ้วย หรือประมาณ 333 กรัม
ที่มา Momjunction
บทความที่น่าสนใจ
โภชนาการช่วงแรกของชีวิต เริ่มได้ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์
ไขข้อข้องใจ ทำไมทารกกินน้ำผึ้งแล้วตาย